ถ้ามัน direct way ไม่ได้ มันก็ต้อง indirect way
หรือจริง ๆ แล้ว indirect way มันสะใจกว่าวะ
ผมชอบประชด
เธอก็ชอบประชดเหมือนกัน
ผมเขียนอะไรใน FB น้อยกว่าที่นี่อีกนะ ถ้าผมเขียนทุกอย่างใน FB สถานการณ์มันคงจะแย่กว่านี้
ยังมีทวิตเตอร์อีกเล็ก ๆ น้อย ๆ
ผมก็ระวังจะ จะบ่นออกสื่อ เพราะใครก็ตามอาจจะบังเอิญมาเจอได้เสมอ ผมก็เซนเซอร์ให้ตามสมควร
คนเราเนี่ยมันตัวเล็กนะ แต่เรื่องเยอะอิ๊บอ๋าย
ผมมีความเชื่อว่าในเนื้อแท้แล้ว ผมเป็นคนดี มีสันดานดี
ที่ผมทำไป หรือแสดงออกไป ก็ด้วยสันดานดีของผม
บางที คลื่นมันก็ไม่ตรงกัน(ฟ่ะ)
Monday, January 31, 2011
Sunday, January 30, 2011
ควาย
กูเป็นควายหรืออะไรวะเนี่ย
หมีควาย โคอาล่า เมียร์แคท โว้ยยยย
เมื่อไหร่กูจะเป็นคนซะที
-----------------------------------------------------
กูใช้คำพูดไม่สุภาพ พวกมึงมีวิจารณญาณกันเองนะเว้ย
หมีควาย โคอาล่า เมียร์แคท โว้ยยยย
เมื่อไหร่กูจะเป็นคนซะที
-----------------------------------------------------
กูใช้คำพูดไม่สุภาพ พวกมึงมีวิจารณญาณกันเองนะเว้ย
Hope
คนเรามีชีวิตอยู่ด้วยความหวัง
ตอนเด็ก ๆ น่าจะตอน ป.5 ผมเรียนภาษาไทย มันมีเรื่องให้อ่านชื่อว่า หุบเขาทานตะวัน
เนื้อเรื่องอยู่ที่หุบเขาแห้งแล้ง แล้วมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพยายามเอาเมล็ดทานตะวันไปปลูก ชาวบ้านก็คัดค้านไม่เห็นด้วย ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะงอก แต่สุดท้ายเค้าก็ปลูก แล้วมันก็งอก หุบเขานั้นก็เต็มไปด้วยดอกทานตะวัน
ครูบอกว่า คติเรื่องนี้คือ ชีวิตควรมีความหวัง
ผมก็มีความหวัง
ผมหวังให้เธอมาชวนผมกินข้าวบ้าง ผมจะ say yes ทันที
ผมก็หวังไว้ลึก ๆ ลึกมาก
ซึ่ง...มันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้
บางทีผมก็เซ็งตัวเอง หวังอะไรก็ไม่รู้ หวังทำไม มันทำให้ผมติดอยู่ตรงนี้ ผมไม่มีความสุข
อยากมีความสุข ผมโหยหา ผมเหงา
บางทีก็สมเพชตัวเอง เหมือนคนขาดความรัก ใครเข้ามาก็กอดไว้แน่นเลยอะไรอย่างนี้
เนี่ยแหละ ชีวิตคนเรา บางทีก็ต้องการแค่ใครสักคน แค่คนเดียวจากหกพันล้านคนทั่วโลก มันจะไม่มีเชียวหรือ
ฟังเพลงนี้ ก็สมเพชคนที่มีลักษณะแบบนี้ มันจมปลัก ชีวิตไม่ไปไหนเลย
เราไม่อยากเป็นแบบนั้น
อยากจะ I don't care อะไรอย่างนี้
ตอนเด็ก ๆ น่าจะตอน ป.5 ผมเรียนภาษาไทย มันมีเรื่องให้อ่านชื่อว่า หุบเขาทานตะวัน
เนื้อเรื่องอยู่ที่หุบเขาแห้งแล้ง แล้วมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพยายามเอาเมล็ดทานตะวันไปปลูก ชาวบ้านก็คัดค้านไม่เห็นด้วย ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะงอก แต่สุดท้ายเค้าก็ปลูก แล้วมันก็งอก หุบเขานั้นก็เต็มไปด้วยดอกทานตะวัน
ครูบอกว่า คติเรื่องนี้คือ ชีวิตควรมีความหวัง
ผมก็มีความหวัง
ผมหวังให้เธอมาชวนผมกินข้าวบ้าง ผมจะ say yes ทันที
ผมก็หวังไว้ลึก ๆ ลึกมาก
ซึ่ง...มันอาจจะไม่มีวันนั้นก็ได้
บางทีผมก็เซ็งตัวเอง หวังอะไรก็ไม่รู้ หวังทำไม มันทำให้ผมติดอยู่ตรงนี้ ผมไม่มีความสุข
อยากมีความสุข ผมโหยหา ผมเหงา
บางทีก็สมเพชตัวเอง เหมือนคนขาดความรัก ใครเข้ามาก็กอดไว้แน่นเลยอะไรอย่างนี้
เนี่ยแหละ ชีวิตคนเรา บางทีก็ต้องการแค่ใครสักคน แค่คนเดียวจากหกพันล้านคนทั่วโลก มันจะไม่มีเชียวหรือ
ฟังเพลงนี้ ก็สมเพชคนที่มีลักษณะแบบนี้ มันจมปลัก ชีวิตไม่ไปไหนเลย
เราไม่อยากเป็นแบบนั้น
อยากจะ I don't care อะไรอย่างนี้
Saturday, January 29, 2011
กูเกิ้ลเก็บเว็บหายเรียบ - My webs has gone
ทำเว็บจะขายอเมซอนอะ
ซื้อสคริป auto estore มา $30 ด้วยอะ
เช่าโฮสต์ของ hostgator อีก เดือนละ $9 กว่า
จดโดเมนเนมอีก หลายชื่อ เป็นสิบได้มั้ง ชื่อละ $7 กว่า บางอันก็แพงกว่านั้น เพราะลืมใส่คูปองโค้ด
จริง ๆ ก็เซ็ง
แต่จริง ๆ ก็ปลง
ไม่มีอะไรจะเสีย ไม่มีอะไรจะเป็นความลับแล้ว จะแฉให้ดูทุกเว็บ
บางเว็บก็มีซับโดเมนอีก ที่ลองทำเล่น ๆ แต่ไม่ได้เอามาให้ดู มันเยอะ
เนี่ยเว็บ
Toys&Games for Kids
Golfclub
Body Language Books
Perfume Cologne
Fresh Flower
LCD HDTV
Law of Attraction Books
Mind Map Books
Organic Coffee Decaf
Vacuums
Knife Block Set
Maple Syrup
Grocery
Ukulele Reviews <-- ก็ใช้ word press โพสต์มืออะ ไม่ได้เขียนสคริปห่าเหวอะไรเลย แม่งเซ็ง
เวย์ยูดู <-- แม่งยังไม่ได้เขียนอะไรเลย เขียนวิธีต้มมาม่า แล้วโดนเก็บหาย ตูละเซ็ง
ยังไม่ทันโปรโมทเลย เอาไปใส่ในเว็บ digg อันสองอัน จะลบออกก็ไม่ได้ เลยตามเลย แต่ก็ไม่ได้โปรโมทเพิ่ม กล้า ๆ กลัว ๆ เอาเว็บไปใส่ไว้ในเว็บอื่นที่มันต้องกรอกอีเมลล์ด้วย กลัวสแปม
แล้วใช้สคริป ออโต้อีสโตร์เนี่ย คนอื่นที่ซื้อก็คงเอาไปปั๊มเว็บกระจุย หมื่น ๆๆๆๆ เว็บ ให้ตายเหอะโรบิ้น
เออแล้วจะลองทำเว็บบล็อก Fail เหมือนเว็บเฟลของไทยอะ แต่เราจะเอาเป็นกระโดดแล้วเฟลก็โดนเก็บไปตามโดนเมนมั้ง เพราะอันนี้ทำเป็น subdomain ไว้ Jump Fail ทำขำ ๆ ไม่มีลิงค์ amazon ซักอย่าง ก็หาย
ใช้คำสั่ง site:domain.com หาใน google ไม่ติด index ซักสิ่งอย่าง
มันหายไปทุกอย่าง ukulele นั่นก็เหมือนกัน ก็ลองมาโพสต์ใน blogger มันก็หายเหมือนกัน
ขี้เกียจจะศึกษาหาทางต่อกรกับ google แล้ว
เขียนบล็อก nongpimmy.com บ่นไปซะยังจะสบายใจกว่า มีคนอ่านหรือไม่มีก็ช่างมัน ตรูจะเขียน
พอทำเว็บหาตังค์หน่อยละเก็บ
เซ็ง
ยังไม่ทันกำไร ทุนก็หายซะแล้วอะ
ก็ช่างมัน ทำทางนี้ไม่รุ่ง ก็ไปทำทางอื่น
ว่าจะไปถ่ายรูปขายอยู่เหมือนกัน มันต้องมีคนมาซื้อดิ
ก็ได้แต่บ่น
และก็หวังว่าจะมี traffic จาก yahoo และ bing เข้ามาบ้าง ไม่มากก็มากกว่า <-- พูดให้กำลังใจตัวเอง
เว็บที่ทำไปแล้วก็ปล่อยมัน ให้มันเป็นเว็บขยะอยู่ต่อไป
ถ้าหมด 1 ปีจดโดเมนเนมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราก็จะปล่อยเว็บไปเหมือนกัน
ปลายปีนี้แหละ
ก็จ่ายรายเดือนค่า host อีก เก้าเหรียญกว่าอะนะ จ่ายไป
ซื้อสคริป auto estore มา $30 ด้วยอะ
เช่าโฮสต์ของ hostgator อีก เดือนละ $9 กว่า
จดโดเมนเนมอีก หลายชื่อ เป็นสิบได้มั้ง ชื่อละ $7 กว่า บางอันก็แพงกว่านั้น เพราะลืมใส่คูปองโค้ด
จริง ๆ ก็เซ็ง
แต่จริง ๆ ก็ปลง
ไม่มีอะไรจะเสีย ไม่มีอะไรจะเป็นความลับแล้ว จะแฉให้ดูทุกเว็บ
บางเว็บก็มีซับโดเมนอีก ที่ลองทำเล่น ๆ แต่ไม่ได้เอามาให้ดู มันเยอะ
เนี่ยเว็บ
Toys&Games for Kids
Golfclub
Body Language Books
Perfume Cologne
Fresh Flower
LCD HDTV
Law of Attraction Books
Mind Map Books
Organic Coffee Decaf
Vacuums
Knife Block Set
Maple Syrup
Grocery
Ukulele Reviews <-- ก็ใช้ word press โพสต์มืออะ ไม่ได้เขียนสคริปห่าเหวอะไรเลย แม่งเซ็ง
เวย์ยูดู <-- แม่งยังไม่ได้เขียนอะไรเลย เขียนวิธีต้มมาม่า แล้วโดนเก็บหาย ตูละเซ็ง
ยังไม่ทันโปรโมทเลย เอาไปใส่ในเว็บ digg อันสองอัน จะลบออกก็ไม่ได้ เลยตามเลย แต่ก็ไม่ได้โปรโมทเพิ่ม กล้า ๆ กลัว ๆ เอาเว็บไปใส่ไว้ในเว็บอื่นที่มันต้องกรอกอีเมลล์ด้วย กลัวสแปม
แล้วใช้สคริป ออโต้อีสโตร์เนี่ย คนอื่นที่ซื้อก็คงเอาไปปั๊มเว็บกระจุย หมื่น ๆๆๆๆ เว็บ ให้ตายเหอะโรบิ้น
เออแล้วจะลองทำเว็บบล็อก Fail เหมือนเว็บเฟลของไทยอะ แต่เราจะเอาเป็นกระโดดแล้วเฟลก็โดนเก็บไปตามโดนเมนมั้ง เพราะอันนี้ทำเป็น subdomain ไว้ Jump Fail ทำขำ ๆ ไม่มีลิงค์ amazon ซักอย่าง ก็หาย
ใช้คำสั่ง site:domain.com หาใน google ไม่ติด index ซักสิ่งอย่าง
มันหายไปทุกอย่าง ukulele นั่นก็เหมือนกัน ก็ลองมาโพสต์ใน blogger มันก็หายเหมือนกัน
ขี้เกียจจะศึกษาหาทางต่อกรกับ google แล้ว
เขียนบล็อก nongpimmy.com บ่นไปซะยังจะสบายใจกว่า มีคนอ่านหรือไม่มีก็ช่างมัน ตรูจะเขียน
พอทำเว็บหาตังค์หน่อยละเก็บ
เซ็ง
ยังไม่ทันกำไร ทุนก็หายซะแล้วอะ
ก็ช่างมัน ทำทางนี้ไม่รุ่ง ก็ไปทำทางอื่น
ว่าจะไปถ่ายรูปขายอยู่เหมือนกัน มันต้องมีคนมาซื้อดิ
ก็ได้แต่บ่น
และก็หวังว่าจะมี traffic จาก yahoo และ bing เข้ามาบ้าง ไม่มากก็มากกว่า <-- พูดให้กำลังใจตัวเอง
เว็บที่ทำไปแล้วก็ปล่อยมัน ให้มันเป็นเว็บขยะอยู่ต่อไป
ถ้าหมด 1 ปีจดโดเมนเนมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราก็จะปล่อยเว็บไปเหมือนกัน
ปลายปีนี้แหละ
ก็จ่ายรายเดือนค่า host อีก เก้าเหรียญกว่าอะนะ จ่ายไป
บัญญัติศัพท์ใหม่ - New word
ต้นเรื่อง
นักศึกษา ทำวิจัย แล้วบัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาใช้ในงานของตัวเอง
มีคนไม่เห็นด้วย เพราะบอกว่ามันไม่สากล
ก็อาจจะจริง
แต่เราต้องรอให้ฝรั่งบัญญัติศัพท์แล้วเราค่อยเอามาแปลไทยหรือไง
บัดซบ
นักศึกษา ทำวิจัย แล้วบัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาใช้ในงานของตัวเอง
มีคนไม่เห็นด้วย เพราะบอกว่ามันไม่สากล
ก็อาจจะจริง
แต่เราต้องรอให้ฝรั่งบัญญัติศัพท์แล้วเราค่อยเอามาแปลไทยหรือไง
บัดซบ
Friday, January 28, 2011
เข้าตลาดวันแรก - First day trading
เอาจริงนะเนี่ย
จากเป็นคนที่ไม่คิดว่าตัวเองจะสนใจหุ้น สิ่งที่พ่อแม่และใครหลาย ๆ คนกลัว วันนี้เราลองศึกษามัน
เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ หรือเปิดพอร์ตเล่นหุ้น หรือเปิดบัญชีเล่นหุ้นอะนะ
ไม่ยากเลย ส่งเอกสารไปเฉย ๆ รอเค้าเมลล์มา activate account เราใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์กว่า ๆ ก็พร้อมเทรดแล้ว
ที่ยากที่สุดตอนเตรียมเอกสารคือต้องไปหาซื้ออากรสแตมป์ เหอะ ๆ
เปิดบัญชีไว้เฉย ๆ ยังไม่ต้องใส่ตังค์ก็ได้ เราเปิดแบบ cash deposit หรือเรียกอีกอย่างว่า cash balance ก็คือเอาตังค์ใส่ไปเท่าไหร่ก็เอาไปเทรดได้เท่านั้น เรียกให้หรูหน่อยก็เอาไปลงทุนได้เท่านั้น อิอิ
วันแรกนี้ส่งคำสั่งซื้อไป 3 ตัว แต่ซื้อที่ราคาที่เราพอใจจะซื้อได้แค่ตัวเดียว คือหุ้น IVL หุ้นบริษัทอินโดรามา ทำเม็ดพลาสติก บลา ๆๆ ขวดน้ำทั้งหลายที่พวกท่านใช้กันอยู่นั่นแหละ
วันนี้ SET ติดลบ แต่หุ้นเราบวก วะฮ่ะฮ่า ขอให้มันขึ้นไปให้ถึง 90 บาทเลยนะ
จะเป็นแมงเม่าน้อยบินเข้ากองไฟรึป่าวนะ
หรือจะเป็นวอเรน บัฟเฟต หรือ ปีเตอร์ ลินท์ คนต่อไป
ต้องติดตามต่อไป
จากเป็นคนที่ไม่คิดว่าตัวเองจะสนใจหุ้น สิ่งที่พ่อแม่และใครหลาย ๆ คนกลัว วันนี้เราลองศึกษามัน
เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ หรือเปิดพอร์ตเล่นหุ้น หรือเปิดบัญชีเล่นหุ้นอะนะ
ไม่ยากเลย ส่งเอกสารไปเฉย ๆ รอเค้าเมลล์มา activate account เราใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์กว่า ๆ ก็พร้อมเทรดแล้ว
ที่ยากที่สุดตอนเตรียมเอกสารคือต้องไปหาซื้ออากรสแตมป์ เหอะ ๆ
เปิดบัญชีไว้เฉย ๆ ยังไม่ต้องใส่ตังค์ก็ได้ เราเปิดแบบ cash deposit หรือเรียกอีกอย่างว่า cash balance ก็คือเอาตังค์ใส่ไปเท่าไหร่ก็เอาไปเทรดได้เท่านั้น เรียกให้หรูหน่อยก็เอาไปลงทุนได้เท่านั้น อิอิ
วันแรกนี้ส่งคำสั่งซื้อไป 3 ตัว แต่ซื้อที่ราคาที่เราพอใจจะซื้อได้แค่ตัวเดียว คือหุ้น IVL หุ้นบริษัทอินโดรามา ทำเม็ดพลาสติก บลา ๆๆ ขวดน้ำทั้งหลายที่พวกท่านใช้กันอยู่นั่นแหละ
วันนี้ SET ติดลบ แต่หุ้นเราบวก วะฮ่ะฮ่า ขอให้มันขึ้นไปให้ถึง 90 บาทเลยนะ
จะเป็นแมงเม่าน้อยบินเข้ากองไฟรึป่าวนะ
หรือจะเป็นวอเรน บัฟเฟต หรือ ปีเตอร์ ลินท์ คนต่อไป
ต้องติดตามต่อไป
Thursday, January 27, 2011
ข้อสังเกตบล็อกนี้
สังเกตนะ ถ้าเดือนไหนผมโพสต์เยอะ ๆ แปลว่าเดือนนั้นผมเครียดมาก
ผมมีปัญหา ผมอยากระบาย
การที่ได้เอาความคิดมากระแทกใส่แป้นพิมพ์เนี่ย
มันทำให้ผมผ่อนคลายลงมาก
เหมือนกับได้พูด Fuck shit fuck shit fuck shit hell damn+ แอนด์โซออน
เอาความคิดมากระแทกใส่แป้นพิมพ์
คิดได้ไงเนี่ย
เจ๋ง
ช่วงที่ได้โพสต์ ช่วงนั้น in love
แต่ช่วงนี้ out of love
เซ็ง
เหงา
เลิกกับพี่ ได้ดีทุกคน
บล็อกนี้คือผม คือตัวตนของผม คือความคิดของผม
เออ ผมมีความคิดมาอย่างนึง
ถ้าผมตายไป ใครจะรู้พาสเวิร์ดบล็อกนี้ หรืออีเมลล์ หรือแอคเคาท์อะไรต่อมิอะไรของผม
แล้วของพวกนั้นมันจะเป็นยังไง
ผมควรทำไงดีเนี่ย
ว่าง ๆ นี่ร่างพินัยกรรมดีมั้ยเนี่ย
พ่อแม่จะรู้มันว่าผมเขียนบล็อกอยู่
ใครจะมาอ่านบล็อกนี้บ้าง ถ้าผมตายไปแล้วบล็อกนี้จะเป็นยังไง
เอาเข้าจริง ๆ ของในคอมพวกนี้มันก็คือ 010101011100110000111101010
มันคือบิต
เฮ้อ ตายไปก็เอาไปไม่ได้
มนุษย์เราช่างตัวเล็กนัก
เราเล็กเหลือเกิน ในโลกนี้ ในระบบสุริยะ ในกาแล็กซี่ ในจักรวาล
ผมทนอยู่ไม่ได้ ถ้าจะอยู่อย่างไม่มีความสุข
ผมจะหาความสุข
ผมไม่เดินตามกระแส ผมจะมีทางของตัวเอง
หลายคนใช้ชีวิตแบบครึ่งเป็นครึ่งตาย
อยู่ไปไม่มีความสุข จะอยู่ทำไม
ผมมีปัญหา ผมอยากระบาย
การที่ได้เอาความคิดมากระแทกใส่แป้นพิมพ์เนี่ย
มันทำให้ผมผ่อนคลายลงมาก
เหมือนกับได้พูด Fuck shit fuck shit fuck shit hell damn+ แอนด์โซออน
เอาความคิดมากระแทกใส่แป้นพิมพ์
คิดได้ไงเนี่ย
เจ๋ง
ช่วงที่ได้โพสต์ ช่วงนั้น in love
แต่ช่วงนี้ out of love
เซ็ง
เหงา
เลิกกับพี่ ได้ดีทุกคน
บล็อกนี้คือผม คือตัวตนของผม คือความคิดของผม
เออ ผมมีความคิดมาอย่างนึง
ถ้าผมตายไป ใครจะรู้พาสเวิร์ดบล็อกนี้ หรืออีเมลล์ หรือแอคเคาท์อะไรต่อมิอะไรของผม
แล้วของพวกนั้นมันจะเป็นยังไง
ผมควรทำไงดีเนี่ย
ว่าง ๆ นี่ร่างพินัยกรรมดีมั้ยเนี่ย
พ่อแม่จะรู้มันว่าผมเขียนบล็อกอยู่
ใครจะมาอ่านบล็อกนี้บ้าง ถ้าผมตายไปแล้วบล็อกนี้จะเป็นยังไง
เอาเข้าจริง ๆ ของในคอมพวกนี้มันก็คือ 010101011100110000111101010
มันคือบิต
เฮ้อ ตายไปก็เอาไปไม่ได้
มนุษย์เราช่างตัวเล็กนัก
เราเล็กเหลือเกิน ในโลกนี้ ในระบบสุริยะ ในกาแล็กซี่ ในจักรวาล
ผมทนอยู่ไม่ได้ ถ้าจะอยู่อย่างไม่มีความสุข
ผมจะหาความสุข
ผมไม่เดินตามกระแส ผมจะมีทางของตัวเอง
หลายคนใช้ชีวิตแบบครึ่งเป็นครึ่งตาย
อยู่ไปไม่มีความสุข จะอยู่ทำไม
อ้าาาากกกกกกก!!!
ผมละเซ็งตัวเอง
จิตตกเป็นพัก ๆ
ชีวิตมันมีอะไรเหรอ
มันมีความลับอะไรให้เรารู้สึกมีความสุขเนี่ย
ผมอยากมีความสุข
ผมอยากมีเพื่อนเยอะ ๆ
สนุกสนานเฮฮา
ผมอยากเป็นคนมีค่า มีค่า มีค่า!!!
ผมอยากทำประโยชน์เพื่อคนอื่น
ผมอยากจะรักษาสิทธิ์ของตัวเอง
ผมอยากอารมณ์ดีตลอดเวลา
ทำไงต่อดีวะเนี่ย
ผมว่ายน้ำได้นะ
ผมปั่นจักรยานเป็นนะ
ผมถ่ายรูปได้นะ
ผมใช้คอมเป็นนะ
ผมซักผ้า ถูบ้าน ล้างถ้วยก็ได้นะ
ผมทำกาแฟเป็นนะ ผมเคยเป็นบาริสต้ามาก่อนนะ
ผมเคยเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ร้านไอติมด้วยนะ
ผมเคยเรียนได้ 4.00 ตอนม.2 ด้วยนะ
ผมเล่นกีตาร์ได้พอถูไถนะ อย่างน้อยมันก็เข้ากับเพลงที่ผมร้อง
ผมฟังออกนะว่าใครร้องเพี้ยน
ผมฟังสัมนาวันนี้ ผมก็ฟังรู้เรื่องนะ ว่าภาษาอังกฤษของคนที่พูดสัมนาอะ มันพูดไม่รู้เรื่อง มันออกเสียงไม่ถูก
ผมก็ช่วยเหลือเพื่อน ๆ นะ
ผมไม่กินเหล้า ผมไม่สูบบุหรี่
(บางทีก็อยากจะกินเหล้าเป็นพัก ๆ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ดี ถ้ามัวหลงไปทางนั้นแล้วชีวิตจะย่ำแย่)
ผมพูดเพราะ ผมไม่พูดมึงกูกับใครเลย
ผมทำเว็บได้ด้วยนะ สวยไม่สวยค่อยว่า
ผมรู้ภาษา html นะ
ผมเคยเรียนภาษาฝรั่งเศสตอน ม.4 ด้วย
ผมเคยเรียนพิมพ์ดีดที่รร. แล้วผมอยากทำให้มันดีขึ้นอีก ผมก็ไปหาเรียนข้างนอกอีก ทุกวันนี้ผมพิมพ์ดีดสัมผัสได้นะ
คอมตัวนี้ของผม ผมซื้อมาจากร้านคอสโก้ที่อเมริกา ราคาเกือบเก้าร้อยเหรียญ ไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทย ผมไม่แคร์
เออ น้ำหน้าอย่างผมไปอเมกามาแล้วนะเว้ย
ผมดีมั้ยอะ???
ผมว่าผมก็ดีนะ
แต่ผมไม่มีความสุขอะ
ผมเหงา เหงา เหงา
ผมขอเงินแม่ เดือนละ 7000 บาท
แม่บอกว่าถ้าไม่พอ ก็ขอได้อีก
ผมก็ขอแม่อีก
เหมือนว่าเดือนที่แล้วใช้เงินไป เหยียบหมื่นเหมือนกันนะ
ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเปลืองอะไรนักหนา
ผมก็ซื้อแต่ของกินอะ กิน กิน กิน
เสื้อผ้าก็ไม่ได้ซื้อ
ผมอาจจะกินข้าวเช้า 40 บาท
กาแฟ 45 บาท
ข้าวกลางวัน 50 บาท
เข้าเย็น 60 บาท
ใช้วันละ 195 บาท ผมขอเฉลี่ยเป็น 200 ก็ละกัน
ผมก็จะใช้เดือนละ 6000
แล้วผมต้องเติมน้ำมันอีกอะ ซื้อสบู่ แชมพู โรลออน ครีม ค่าไฟ ค่าซักผ้า ฯลฯ
ผมไม่สมควรที่จะมีชีวิตดี ๆ เหรอ
ผมรู้สึกเหมือนถูกตกเป็นเหยื่อ
ผมก็ไม่อยากคิดอย่างนั้นหรอกนะ
เฮ้อ เซ็ง
ไปอาบน้ำดีกว่า
เด๋วไปหาคนค้นคนดู เผื่อชีวิตจะมีกำลังใจ
ผมรู้ตัวนะ ผมมีสติ ผมรู้ว่าผมเครียด ผมเคว้งคว้าง ผมมีความรู้สึกว่างเปล่าอยู่ในใจ
ผมพยายามหาทางกำจัดมัน
ผมจะมองในมุมที่ดี
ผมอยากมีความสุขในทุกสถานการณ์ของชีวิต
จบละ ไปได้
จิตตกเป็นพัก ๆ
ชีวิตมันมีอะไรเหรอ
มันมีความลับอะไรให้เรารู้สึกมีความสุขเนี่ย
ผมอยากมีความสุข
ผมอยากมีเพื่อนเยอะ ๆ
สนุกสนานเฮฮา
ผมอยากเป็นคนมีค่า มีค่า มีค่า!!!
ผมอยากทำประโยชน์เพื่อคนอื่น
ผมอยากจะรักษาสิทธิ์ของตัวเอง
ผมอยากอารมณ์ดีตลอดเวลา
ทำไงต่อดีวะเนี่ย
ผมว่ายน้ำได้นะ
ผมปั่นจักรยานเป็นนะ
ผมถ่ายรูปได้นะ
ผมใช้คอมเป็นนะ
ผมซักผ้า ถูบ้าน ล้างถ้วยก็ได้นะ
ผมทำกาแฟเป็นนะ ผมเคยเป็นบาริสต้ามาก่อนนะ
ผมเคยเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ร้านไอติมด้วยนะ
ผมเคยเรียนได้ 4.00 ตอนม.2 ด้วยนะ
ผมเล่นกีตาร์ได้พอถูไถนะ อย่างน้อยมันก็เข้ากับเพลงที่ผมร้อง
ผมฟังออกนะว่าใครร้องเพี้ยน
ผมฟังสัมนาวันนี้ ผมก็ฟังรู้เรื่องนะ ว่าภาษาอังกฤษของคนที่พูดสัมนาอะ มันพูดไม่รู้เรื่อง มันออกเสียงไม่ถูก
ผมก็ช่วยเหลือเพื่อน ๆ นะ
ผมไม่กินเหล้า ผมไม่สูบบุหรี่
(บางทีก็อยากจะกินเหล้าเป็นพัก ๆ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ดี ถ้ามัวหลงไปทางนั้นแล้วชีวิตจะย่ำแย่)
ผมพูดเพราะ ผมไม่พูดมึงกูกับใครเลย
ผมทำเว็บได้ด้วยนะ สวยไม่สวยค่อยว่า
ผมรู้ภาษา html นะ
ผมเคยเรียนภาษาฝรั่งเศสตอน ม.4 ด้วย
ผมเคยเรียนพิมพ์ดีดที่รร. แล้วผมอยากทำให้มันดีขึ้นอีก ผมก็ไปหาเรียนข้างนอกอีก ทุกวันนี้ผมพิมพ์ดีดสัมผัสได้นะ
คอมตัวนี้ของผม ผมซื้อมาจากร้านคอสโก้ที่อเมริกา ราคาเกือบเก้าร้อยเหรียญ ไม่มีแป้นพิมพ์ภาษาไทย ผมไม่แคร์
เออ น้ำหน้าอย่างผมไปอเมกามาแล้วนะเว้ย
ผมดีมั้ยอะ???
ผมว่าผมก็ดีนะ
แต่ผมไม่มีความสุขอะ
ผมเหงา เหงา เหงา
ผมขอเงินแม่ เดือนละ 7000 บาท
แม่บอกว่าถ้าไม่พอ ก็ขอได้อีก
ผมก็ขอแม่อีก
เหมือนว่าเดือนที่แล้วใช้เงินไป เหยียบหมื่นเหมือนกันนะ
ผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเปลืองอะไรนักหนา
ผมก็ซื้อแต่ของกินอะ กิน กิน กิน
เสื้อผ้าก็ไม่ได้ซื้อ
ผมอาจจะกินข้าวเช้า 40 บาท
กาแฟ 45 บาท
ข้าวกลางวัน 50 บาท
เข้าเย็น 60 บาท
ใช้วันละ 195 บาท ผมขอเฉลี่ยเป็น 200 ก็ละกัน
ผมก็จะใช้เดือนละ 6000
แล้วผมต้องเติมน้ำมันอีกอะ ซื้อสบู่ แชมพู โรลออน ครีม ค่าไฟ ค่าซักผ้า ฯลฯ
ผมไม่สมควรที่จะมีชีวิตดี ๆ เหรอ
ผมรู้สึกเหมือนถูกตกเป็นเหยื่อ
ผมก็ไม่อยากคิดอย่างนั้นหรอกนะ
เฮ้อ เซ็ง
ไปอาบน้ำดีกว่า
เด๋วไปหาคนค้นคนดู เผื่อชีวิตจะมีกำลังใจ
ผมรู้ตัวนะ ผมมีสติ ผมรู้ว่าผมเครียด ผมเคว้งคว้าง ผมมีความรู้สึกว่างเปล่าอยู่ในใจ
ผมพยายามหาทางกำจัดมัน
ผมจะมองในมุมที่ดี
ผมอยากมีความสุขในทุกสถานการณ์ของชีวิต
จบละ ไปได้
Tuesday, January 25, 2011
Bad Romance - Ukulele by Pimmy
You know that I want you, you know that I need you, I want it bad.... bad romance.
คือก็ป่วงบ้าง อะไรบ้าง ก็ชอบร้องเพลง
แมวมองมีไหน มา ๆๆ มาปั้นหน่อย
อ่านแล้วไม่ติดอยู่ในหัว
ทำไมอ่านอะไรที่มันต้องอ่าน แบบว่าวิชาการ ๆ น่ะ ณ เวลานั้น(now and here) อ่านดูก็เหมือนจะเข้าใจนะ เก็ทนะ แล้วมันก็แค่ผ่านไป
จะให้เล่าอะไรเป็นฉาก ๆ ก็ไม่ได้ ทำไมมันไม่เกิดความเชื่อมโยงนะ
ที่จริงมันน่าจะเชื่อมโยงนะ
มันต้องมีความลับอะไรแน่ ๆ เลย
อย่างเรื่องอื่น เช่น
จะเล่นหุ้นทำยังไง
อธิบายได้เป็นฉาก ๆ ก็เริ่มตั้งแต่เตรียมเอกสารไปเปิดบัญชี นั่นนี่นู่น ซื้อ ถือ ขาย
เข้าใจ มีข้อมูล
จะทำ amazon affiliate ทำยังไง
สมัครอเมซอน ทำเว็บ เอาลิงค์ไปแปะ ทำกูเกิ้ลแอดเวิร์ดส์ บลา ๆๆ
จะขายอีเบย์ทำยังไง
สมัครอีเบย์ สมัครเพพาล
สมัครอีเบย์ทำยังไง
คลิก register กรอก ๆๆ อะไรงี้
สมัคร paypal ทำไง
คลิก register เปิดบัญชีธนาคาร varify บลา ๆๆๆ
คงจะต้องศึกษาลึก ๆ สินะ
ถ้ายังไม่สงสัย แปลว่ายังกศึกษาไม่ลึกพอ
ถ้ายังไม่สนใจ แปลว่ายังศึกษาไม่ลึกพอ
ไปศึกษาต่อดีกั่ว
บึย
จะให้เล่าอะไรเป็นฉาก ๆ ก็ไม่ได้ ทำไมมันไม่เกิดความเชื่อมโยงนะ
ที่จริงมันน่าจะเชื่อมโยงนะ
มันต้องมีความลับอะไรแน่ ๆ เลย
อย่างเรื่องอื่น เช่น
จะเล่นหุ้นทำยังไง
อธิบายได้เป็นฉาก ๆ ก็เริ่มตั้งแต่เตรียมเอกสารไปเปิดบัญชี นั่นนี่นู่น ซื้อ ถือ ขาย
เข้าใจ มีข้อมูล
จะทำ amazon affiliate ทำยังไง
สมัครอเมซอน ทำเว็บ เอาลิงค์ไปแปะ ทำกูเกิ้ลแอดเวิร์ดส์ บลา ๆๆ
จะขายอีเบย์ทำยังไง
สมัครอีเบย์ สมัครเพพาล
สมัครอีเบย์ทำยังไง
คลิก register กรอก ๆๆ อะไรงี้
สมัคร paypal ทำไง
คลิก register เปิดบัญชีธนาคาร varify บลา ๆๆๆ
คงจะต้องศึกษาลึก ๆ สินะ
ถ้ายังไม่สงสัย แปลว่ายังกศึกษาไม่ลึกพอ
ถ้ายังไม่สนใจ แปลว่ายังศึกษาไม่ลึกพอ
ไปศึกษาต่อดีกั่ว
บึย
Thursday, January 20, 2011
ลืมอะ
ลืมทำตัวเป็นตากล้องให้อีกคนนึง
มันลืมอะ
จำไว้ ๆ
มันลืมอะ
จำไว้ ๆ
Wednesday, January 19, 2011
ซอย - Soi
อยากมีรถยนต์
ไม่ชอบซอย ซอยที่เป็นทางเล็ก ๆ ไม่ใช่ซอยยิก ๆ
ถ้าบ้านเรามีถนนแบบนี้ก็คงดี อยู่บ้านไหนก็สะดวกเหมือนกัน
ไม่ชอบซอย ซอยที่เป็นทางเล็ก ๆ ไม่ใช่ซอยยิก ๆ
ถ้าบ้านเรามีถนนแบบนี้ก็คงดี อยู่บ้านไหนก็สะดวกเหมือนกัน
แต่ถนนบ้านเรามันเป็นแบบนี้
ถนนใหญ่ ก็ใหญ่จริง ถนนเล็ก ก็เล็กโคตร ซอยแคบแบบรถยนต์สวนกันไม่ได้
แถวไหนบ้านก็บ้านจัง แถวไหนเจริญคนก็แห่ไปอยู่
สร้างตึกสูง ทำให้จุคนได้เยอะ แต่ทางแคบเหมือนเดิม
ถ้า 1 คน มีรถ 1 คัน ถนนเท่าเดิม
กึ๊ดผ่อเลาะ
บ่นไปงั้น
ยังไงเราก็จะซื้อบ้าน ซื้อรถอยู่ดี
ณ จุดนี้ ขอลาไปก่อน
แถวไหนบ้านก็บ้านจัง แถวไหนเจริญคนก็แห่ไปอยู่
สร้างตึกสูง ทำให้จุคนได้เยอะ แต่ทางแคบเหมือนเดิม
ถ้า 1 คน มีรถ 1 คัน ถนนเท่าเดิม
กึ๊ดผ่อเลาะ
บ่นไปงั้น
ยังไงเราก็จะซื้อบ้าน ซื้อรถอยู่ดี
Paraphrase Exercise
Paraphrase : Write it in your own word
เวลาเขียนเปเปอร์ อาจจะโดน reject เพราะว่าไปก๊อปคำพูดชาวบ้านมาทั้งประโยค
จบละ สั้น ๆ ง่าย ๆ มีสาระ
เวลาเขียนเปเปอร์ อาจจะโดน reject เพราะว่าไปก๊อปคำพูดชาวบ้านมาทั้งประโยค
จบละ สั้น ๆ ง่าย ๆ มีสาระ
Sunday, January 16, 2011
I want to do business - ฉันอยากทำธุรกิจ
ฉันอยากทำธุรกิจ
ไม่ได้พูดเล่นนะเฟ้ย
มันต้องมีทางเป็นไปได้ดิ
ก็แค่เอาชนะความกลัวให้ได้ แค่นั้นเอง
สั้น ๆ นะ
ไม่ได้พูดเล่นนะเฟ้ย
มันต้องมีทางเป็นไปได้ดิ
ก็แค่เอาชนะความกลัวให้ได้ แค่นั้นเอง
สั้น ๆ นะ
Save - ประหยัด
ดูรายการฉลาดล้ำโลกมา
ข้อมูลมันมาจากประเทศเยอรมันนะ ไม่รู้ที่ไทยจะเหมือนกันป่าว
1. ล้างจานด้วยเครื่องล้างจาน ประหยัดกว่า ล้างจานด้วยมือ <-- ไว้รอมีเครื่องล้างจานคงจะนึกออกง่ายกว่านี้
2. ตู้เย็นที่มีของเต็ม ประหยัดกว่า ตู้เย็นของน้อย ๆ <-- ของเยอะ ๆ ทำให้สูญเสียความเย็นตอนเปิดตู้น้อยกว่า
3. ใช้อุปกรณ์เล็ก ๆ เช่นเครื่องต้มไข่ ประหยัดกว่า ใช้เตาใหญ่ ๆ <-- ก็แน่ล่ะสิ ว่าแต่เครื่องต้มไข่.... บ้านไม่มีอะ
4. ใช้หลอดประหยัดไฟ ประหยัดมากกว่า หลอดธรรมดา <-- อันนี้ประเทศเรารณรงค์มาได้ซักพัก ดีแล้ว
ข้อมูลมันมาจากประเทศเยอรมันนะ ไม่รู้ที่ไทยจะเหมือนกันป่าว
1. ล้างจานด้วยเครื่องล้างจาน ประหยัดกว่า ล้างจานด้วยมือ <-- ไว้รอมีเครื่องล้างจานคงจะนึกออกง่ายกว่านี้
2. ตู้เย็นที่มีของเต็ม ประหยัดกว่า ตู้เย็นของน้อย ๆ <-- ของเยอะ ๆ ทำให้สูญเสียความเย็นตอนเปิดตู้น้อยกว่า
3. ใช้อุปกรณ์เล็ก ๆ เช่นเครื่องต้มไข่ ประหยัดกว่า ใช้เตาใหญ่ ๆ <-- ก็แน่ล่ะสิ ว่าแต่เครื่องต้มไข่.... บ้านไม่มีอะ
4. ใช้หลอดประหยัดไฟ ประหยัดมากกว่า หลอดธรรมดา <-- อันนี้ประเทศเรารณรงค์มาได้ซักพัก ดีแล้ว
Saturday, January 15, 2011
Love - ความรัก
ความรักคือการกระทำ เน้นย้ำว่าคือการกระทำ
ไม่ใช่คำพูด ไม่ใช่ความรู้สึก
เราจะบอกใครต่อใครก็ได้ ว่าเรารักคนนี้
เราจะบอกใครก็ได้ว่า เรารู้สึกรักคนนี้
มันง่ายที่จะบอกว่า "เรารู้สึก" เพราะมันไม่มีข้อพิสูจน์ คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ ว่าเรารู้สึกจริงหรือไม่จริง
ความรักต้องการความพยายาม
พยายามที่จะรัก
เราตัดสินใจจะรักคนนี้แล้ว ก็พยายามรักเค้า นั่นเป็นความรักที่แท้จริง
คุณอาจมีคู่อยู่แล้ว ต่อมา คุณเจอคนอื่นที่ถูกใจ คนใหม่นี้อาจจะเป็นคู่ที่ดีกว่าคนเก่าก็ได้
แต่...
เมื่อคุณตัดสินใจจะรักคนนี้ คนที่มีอยู่แล้ว คนที่อยู่กับเราแล้ว
คุณต้องไม่ไปสานสัมพันธ์กับคนใหม่ ซึ่ง อาจ พูดว่า"อาจ"นะ อาจจะดีกว่า เข้ากับเรามากกว่า
นี่คือความรัก ที่เป็นการกระทำ ที่ต้องการความพยายาม
คำคมวันนี้ : Love is action
ไม่ใช่คำพูด ไม่ใช่ความรู้สึก
เราจะบอกใครต่อใครก็ได้ ว่าเรารักคนนี้
เราจะบอกใครก็ได้ว่า เรารู้สึกรักคนนี้
มันง่ายที่จะบอกว่า "เรารู้สึก" เพราะมันไม่มีข้อพิสูจน์ คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ ว่าเรารู้สึกจริงหรือไม่จริง
ความรักต้องการความพยายาม
พยายามที่จะรัก
เราตัดสินใจจะรักคนนี้แล้ว ก็พยายามรักเค้า นั่นเป็นความรักที่แท้จริง
คุณอาจมีคู่อยู่แล้ว ต่อมา คุณเจอคนอื่นที่ถูกใจ คนใหม่นี้อาจจะเป็นคู่ที่ดีกว่าคนเก่าก็ได้
แต่...
เมื่อคุณตัดสินใจจะรักคนนี้ คนที่มีอยู่แล้ว คนที่อยู่กับเราแล้ว
คุณต้องไม่ไปสานสัมพันธ์กับคนใหม่ ซึ่ง อาจ พูดว่า"อาจ"นะ อาจจะดีกว่า เข้ากับเรามากกว่า
นี่คือความรัก ที่เป็นการกระทำ ที่ต้องการความพยายาม
คำคมวันนี้ : Love is action
ความผิดพลาดของพ่อแม่
เมื่อคุณเห็นว่า ลูกคุณมีปัญหา
คุณหวังว่า เดี๋ยวโตขึ้น ปัญหานั้นจะหมดไปเอง
คุณคิดผิด ไม่ take action
ปัญหานั้นจะฝังลึกอยู่ในตัวลูกคุณ
มีผลต่อทัศนคติในวัยผู้ใหญ่ของเค้า
มีปัญหา ต้องแก้ปัญหา ด้วยตัวเอง อย่าหวังว่ามันจะหายไปเอง
คุณหวังว่า เดี๋ยวโตขึ้น ปัญหานั้นจะหมดไปเอง
คุณคิดผิด ไม่ take action
ปัญหานั้นจะฝังลึกอยู่ในตัวลูกคุณ
มีผลต่อทัศนคติในวัยผู้ใหญ่ของเค้า
มีปัญหา ต้องแก้ปัญหา ด้วยตัวเอง อย่าหวังว่ามันจะหายไปเอง
Suicide show - ฆ่าตัวตายโชว์
วันนี้มันเซ็ง
เซิชกูเกิ้ลคำว่าฆ่าตัวตาย
เห็นข่าว เมื่อ 5 ธันวา 53 ที่ผ่านมา
มีผู้หญิงอายุ 24 น้อยใจแฟน ผูกคอตายโชว์ผ่านแคมฟรอก(camfrog)
ก็น่าเห็นใจ
บางทีคนเราก็ต้องการให้คนอื่นมาสนใจ
มันถึงได้มีคำว่า"เรียกร้องความสนใจ" เกิดขึ้นมา
attention please, attention please, i'm here, i'm here
เวลาคนเรามีปัญหา ก็แค่อยากให้มีคนรับฟัง
อยากให้มีคนอยู่ใน ณ เวลานั้น
มันหาทางออกไม่ได้ มันก็ฆ่าตัวตายนี่แหละ จบเลย เร็วดี
ไม่ต้องทรมานกับอารมณ์แย่ ๆ
ซึ่ง.... คนอื่นกว่าจะรู้ว่าเรามีปัญหา
มันก็สายไปแล้ว คนมันตายไปแล้ว
พอมาพูดทีหลังว่า ปัญหาเล็กน้อย หรือเป็นเรื่องไร้สาระ
คนที่ไม่มาอยู่ตรงจุดที่มีปัญหา หรือมีมุมมองไม่เหมือนเจ้าของปัญหา ก็คงไม่มีทางเข้าใจ
สุดท้ายเป็นไง คำเมืองพูดว่า "ซุดต้ายเป๋นใด"
คนที่จะฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ จะฆ่าเลยนะ
มันจะมีสัญญานหลาย ๆ อย่างบ่งบอก
เช่น อาจจะบ่นว่าอยากตาย
ซึมเศร้า
คิดเรื่องฆ่าตัวตาย คิดว่าจะฆ่ายังไงดี
มีการเตรียมการ
สุดท้ายก็ลงมือจริง
ถ้าคุณ ๆ ไม่สังเกตอาการของคนใกล้ตัว คิดว่าเค้าพูดเล่น คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ
ระวังให้ดีเหอะ เด๊วมันทำจริง
เซิชกูเกิ้ลคำว่าฆ่าตัวตาย
เห็นข่าว เมื่อ 5 ธันวา 53 ที่ผ่านมา
มีผู้หญิงอายุ 24 น้อยใจแฟน ผูกคอตายโชว์ผ่านแคมฟรอก(camfrog)
ก็น่าเห็นใจ
บางทีคนเราก็ต้องการให้คนอื่นมาสนใจ
มันถึงได้มีคำว่า"เรียกร้องความสนใจ" เกิดขึ้นมา
attention please, attention please, i'm here, i'm here
เวลาคนเรามีปัญหา ก็แค่อยากให้มีคนรับฟัง
อยากให้มีคนอยู่ใน ณ เวลานั้น
มันหาทางออกไม่ได้ มันก็ฆ่าตัวตายนี่แหละ จบเลย เร็วดี
ไม่ต้องทรมานกับอารมณ์แย่ ๆ
ซึ่ง.... คนอื่นกว่าจะรู้ว่าเรามีปัญหา
มันก็สายไปแล้ว คนมันตายไปแล้ว
พอมาพูดทีหลังว่า ปัญหาเล็กน้อย หรือเป็นเรื่องไร้สาระ
คนที่ไม่มาอยู่ตรงจุดที่มีปัญหา หรือมีมุมมองไม่เหมือนเจ้าของปัญหา ก็คงไม่มีทางเข้าใจ
สุดท้ายเป็นไง คำเมืองพูดว่า "ซุดต้ายเป๋นใด"
คนที่จะฆ่าตัวตาย ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ จะฆ่าเลยนะ
มันจะมีสัญญานหลาย ๆ อย่างบ่งบอก
เช่น อาจจะบ่นว่าอยากตาย
ซึมเศร้า
คิดเรื่องฆ่าตัวตาย คิดว่าจะฆ่ายังไงดี
มีการเตรียมการ
สุดท้ายก็ลงมือจริง
ถ้าคุณ ๆ ไม่สังเกตอาการของคนใกล้ตัว คิดว่าเค้าพูดเล่น คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ
ระวังให้ดีเหอะ เด๊วมันทำจริง
I want love
กูต้องการความรัก
แต่กูไม่รู้จำทำยังไง
คนที่กูต้องการความรักจากเค้า กูแสดงออกไม่ถูก
พูดไม่เพราะอะ...
แต่กูไม่รู้จำทำยังไง
คนที่กูต้องการความรักจากเค้า กูแสดงออกไม่ถูก
พูดไม่เพราะอะ...
Friday, January 14, 2011
ฉันอยู่นี่ แมวที่รัก
เล่นแมว
แมวเล่นกลับ
แมวเล่นแรง
เราเลยถูกแมวกัด
เลือดซึม 2 จุด
เลือดดี ๆ ต้องออกไป
ปวดแผล
ขนาดแมวที่เรารัก มันยังทำกับเราได้อย่างนี้ โดยที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
เซ็ง
มันเซ็ง
เลยเอากระดาษทิชชู่ซับเลือด ขยำ ๆ เขวี้ยงหัวแมวไป 4-5 ที
ให้หายแค้น
ต่อมา แมวก็มาคลอแข้ง คลอขาอีก
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แมวมันจะรู้มั้ย ว่าเราเจ็บนะเฟ้ย
ก็ได้แต่บ่นไป
แมวเล่นกลับ
แมวเล่นแรง
เราเลยถูกแมวกัด
เลือดซึม 2 จุด
เลือดดี ๆ ต้องออกไป
ปวดแผล
ขนาดแมวที่เรารัก มันยังทำกับเราได้อย่างนี้ โดยที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
เซ็ง
มันเซ็ง
เลยเอากระดาษทิชชู่ซับเลือด ขยำ ๆ เขวี้ยงหัวแมวไป 4-5 ที
ให้หายแค้น
ต่อมา แมวก็มาคลอแข้ง คลอขาอีก
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แมวมันจะรู้มั้ย ว่าเราเจ็บนะเฟ้ย
ก็ได้แต่บ่นไป
Bejeweled Blitz
เกม Bejeweled Blitz เป็นเกมที่สามารถฆ่าเวลาได้เป็นอย่างดี
ฆ่าไป ทีละ 1 นาที
จากนาที ก็กลายเป็นชั่วโมงได้เหมือนกัน
แนะนำเกมนี้สำหรับคนที่เวิ่นเว้อ
เวิ่นจัด ไม่มามีอะไรทำ ก็ฆ่าเวลาไป
เล่นไปก็ไม่ได้อะไร
อ่อ เล่นไปก็ได้เล่น เหมือนเรานี่ไง
บางทีก็เล่น ๆ ไปก็คิดว่า ตรูเล่นทำไมฟะเนี่ย
เล่นเกมเดิม ๆ เหมือนเดิม ๆ
มันก็แค่เกม มันเป็นอะไรที่เดิม ๆ
ช่วงก่อนติดเกม restaurant city แต่พอเล่นไปถึงจุดหนึ่ง มันก็จบละ พอ เล่นทำไม อะไรเนี่ย แล้วไงต่อ ก็เลิกไป
ติดเกมปลูกผักอีก barn buddy ก็เก็บผัก ขโมยผัก พอตอนหลังถ้าไม่เก็บผัก ผักจะเน่า รู้สึกว่าเกมมัน force เรามากเกินไป เลิกเลยเล่น สมน้ำหน้า ชิ!
มีเพื่อนอีกหลายคน หลาย ๆ คนติดเกม farm ville ติด ติ๊ด ติด ถึงขั้นมีเพื่อนคนนึงโทรมา "เก็บผักให้หน่อย" โอ... เก็บก็เก็บวะ เพื่อนช้านนนน แต่เกมนี้เราลองเล่นแล้ว ไม่ชอบ งง อ็อปชั่นมันเยอะเกิน ก็เลยไม่ติดเกมนี้
มาช่วงนี้ดิ น้องที่รู้จักกันชวนมาเลี้ยงหมู เกมแฮปปี้คนเลี้ยงหมู เอากันเข้าไป มีทั้งหมูแกะ หมูแมว หมู อะไรก็ไม่รู้ ... ก็ accept game request ของเค้าไป แล้วก็ลองเลี้ยงดู กะว่าจะซื้อหมูแมว เพราะชอบแมว หมูลักษณะเหมือนแมว..ให้ตายเหอะ แต่หมูแมวแพง ไม่มีตังค์ ก็ไม่เล่นละ มันก็คงเหมือนเกมเรสเตอรองซิตี้ อะนะ
บ่น ๆ ไปฆ่าเวลาต่อดีมั้ยเนี่ย...
ฆ่าไป ทีละ 1 นาที
จากนาที ก็กลายเป็นชั่วโมงได้เหมือนกัน
แนะนำเกมนี้สำหรับคนที่เวิ่นเว้อ
เวิ่นจัด ไม่มามีอะไรทำ ก็ฆ่าเวลาไป
เล่นไปก็ไม่ได้อะไร
อ่อ เล่นไปก็ได้เล่น เหมือนเรานี่ไง
บางทีก็เล่น ๆ ไปก็คิดว่า ตรูเล่นทำไมฟะเนี่ย
เล่นเกมเดิม ๆ เหมือนเดิม ๆ
มันก็แค่เกม มันเป็นอะไรที่เดิม ๆ
ช่วงก่อนติดเกม restaurant city แต่พอเล่นไปถึงจุดหนึ่ง มันก็จบละ พอ เล่นทำไม อะไรเนี่ย แล้วไงต่อ ก็เลิกไป
ติดเกมปลูกผักอีก barn buddy ก็เก็บผัก ขโมยผัก พอตอนหลังถ้าไม่เก็บผัก ผักจะเน่า รู้สึกว่าเกมมัน force เรามากเกินไป เลิกเลยเล่น สมน้ำหน้า ชิ!
มีเพื่อนอีกหลายคน หลาย ๆ คนติดเกม farm ville ติด ติ๊ด ติด ถึงขั้นมีเพื่อนคนนึงโทรมา "เก็บผักให้หน่อย" โอ... เก็บก็เก็บวะ เพื่อนช้านนนน แต่เกมนี้เราลองเล่นแล้ว ไม่ชอบ งง อ็อปชั่นมันเยอะเกิน ก็เลยไม่ติดเกมนี้
มาช่วงนี้ดิ น้องที่รู้จักกันชวนมาเลี้ยงหมู เกมแฮปปี้คนเลี้ยงหมู เอากันเข้าไป มีทั้งหมูแกะ หมูแมว หมู อะไรก็ไม่รู้ ... ก็ accept game request ของเค้าไป แล้วก็ลองเลี้ยงดู กะว่าจะซื้อหมูแมว เพราะชอบแมว หมูลักษณะเหมือนแมว..ให้ตายเหอะ แต่หมูแมวแพง ไม่มีตังค์ ก็ไม่เล่นละ มันก็คงเหมือนเกมเรสเตอรองซิตี้ อะนะ
บ่น ๆ ไปฆ่าเวลาต่อดีมั้ยเนี่ย...
Thursday, January 13, 2011
ฟังผล Psychological test
วันนี้ มุมมองต่อหมอ...เปลี่ยนไป
เมื่อวานลืมนัดอะ ลืมไปเลย คิดได้ตอนอาบน้ำ จะสี่ทุ่มอยู่แล้ว
วันนี้
รอคิวนาน ไอ่ลุงข้าง แม่งก็คุยโทรศัพท์ รำคาญ!! แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ตามสไตล์คนไทย รำคาญก็เก็บไว้ในใจ ไม่บอกตรง ๆ
ฟังผล ก็เป็นกระดาษ 1 แผ่น
บอกว่า เรามีลักษณะอย่างไร
มี depress มี agressive อะไรทำนองนั้น เราว่าผลมันตรงทีเดียว
ก็...
แล้วไงอะ ....
รู้ผลแล้วไงต่อ
depressive แล้วไงต่อ
agressive แล้วไงต่อ
เราก็ขอหมออ่านผลจากกระดาษนั้นเอง
หมอก็อยากจะให้กินยา
วันนี้รู้สึกว่าหมอขายของชัด ๆ
ยาในประเทศ ยาต่างประเทศ ก็มีหลายราคาต่างกันไป ลองกินยาในประเทศดูก่อนก็ได้ บลา ๆๆ
เราถามหมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของหมอคืออะไร
หมอบอกว่า ไม่มี หมอเป็นคนไม่ตั้งความหวัง
หมอก็เล่าเรื่องของหมอให้ฟัง
หมอก็เป็นเด็กเรียน เรียนเก่ง ก็มาเอนท์เข้าแพทย์ แล้วพอทำงานใช้ทุน ก็ได้อยู่รพ.ที่เกี่ยวกับโรคจิต ๆ อะนะ แล้วหมอก็อยากอยู่รพ.นั้นต่อ หมอก็เลยต้องมาเรียนต่อจิตเวช ก็เลยเป็นอย่างทุกวันนี้ ฟังดูหมอก็ไม่ได้ชอบสิ่งที่ทำซักเท่าไหร่ หมอก็มีชีวิตตามกระแสเหมือนคนทั่วไป....
หมอก็เหมือนคนทั่วไป....
เอาเป็นว่าหมอไม่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้
เราก็บอกหมอว่าไม่อยากกินยา
หมอก็ให้ไปเขียนว่าจะทำอะไรในชีวิต
แล้วอยากมาหาหมออีกเมื่อไหร่ก็มา
เสร็จ จ่ายตังค์ 200 บาท
เดินออกมา
พร้อมความคิด
ไม่มีใครช่วยเราได้ เราต้องช่วยเหลือตัวเอง
คงไม่ไปหาหมออีกแล้วแหละ....
วันนี้รู้สึกไม่คุ้มตังค์เลย
วันก่อน ๆ 500 800 ยังจ่ายได้ รู้สึกคุ้มตังค์
วันนี้ 200 รู้สึกไม่คุ้มตังค์....
จ่ายเงินแล้วก็ไม่มีความสุข..
เมื่อวานลืมนัดอะ ลืมไปเลย คิดได้ตอนอาบน้ำ จะสี่ทุ่มอยู่แล้ว
วันนี้
รอคิวนาน ไอ่ลุงข้าง แม่งก็คุยโทรศัพท์ รำคาญ!! แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ตามสไตล์คนไทย รำคาญก็เก็บไว้ในใจ ไม่บอกตรง ๆ
ฟังผล ก็เป็นกระดาษ 1 แผ่น
บอกว่า เรามีลักษณะอย่างไร
มี depress มี agressive อะไรทำนองนั้น เราว่าผลมันตรงทีเดียว
ก็...
แล้วไงอะ ....
รู้ผลแล้วไงต่อ
depressive แล้วไงต่อ
agressive แล้วไงต่อ
เราก็ขอหมออ่านผลจากกระดาษนั้นเอง
หมอก็อยากจะให้กินยา
วันนี้รู้สึกว่าหมอขายของชัด ๆ
ยาในประเทศ ยาต่างประเทศ ก็มีหลายราคาต่างกันไป ลองกินยาในประเทศดูก่อนก็ได้ บลา ๆๆ
เราถามหมอว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของหมอคืออะไร
หมอบอกว่า ไม่มี หมอเป็นคนไม่ตั้งความหวัง
หมอก็เล่าเรื่องของหมอให้ฟัง
หมอก็เป็นเด็กเรียน เรียนเก่ง ก็มาเอนท์เข้าแพทย์ แล้วพอทำงานใช้ทุน ก็ได้อยู่รพ.ที่เกี่ยวกับโรคจิต ๆ อะนะ แล้วหมอก็อยากอยู่รพ.นั้นต่อ หมอก็เลยต้องมาเรียนต่อจิตเวช ก็เลยเป็นอย่างทุกวันนี้ ฟังดูหมอก็ไม่ได้ชอบสิ่งที่ทำซักเท่าไหร่ หมอก็มีชีวิตตามกระแสเหมือนคนทั่วไป....
หมอก็เหมือนคนทั่วไป....
เอาเป็นว่าหมอไม่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้
เราก็บอกหมอว่าไม่อยากกินยา
หมอก็ให้ไปเขียนว่าจะทำอะไรในชีวิต
แล้วอยากมาหาหมออีกเมื่อไหร่ก็มา
เสร็จ จ่ายตังค์ 200 บาท
เดินออกมา
พร้อมความคิด
ไม่มีใครช่วยเราได้ เราต้องช่วยเหลือตัวเอง
คงไม่ไปหาหมออีกแล้วแหละ....
วันนี้รู้สึกไม่คุ้มตังค์เลย
วันก่อน ๆ 500 800 ยังจ่ายได้ รู้สึกคุ้มตังค์
วันนี้ 200 รู้สึกไม่คุ้มตังค์....
จ่ายเงินแล้วก็ไม่มีความสุข..
กรุณาจัดการชีวิตตัวเองให้ได้
เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าจัดการชีวิตตัวเองได้แล้ว?
มีคนบอกผมว่า ผมไม่ต้องไปเรียนรู้เค้าหรอก ให้ผมเรียนรู้ตัวเอง แล้วจัดการชีวิตตัวเองให้ได้
อย่ามัวแต่เพ้อฝัน กรุณาทำให้มันได้จริง ๆ จะดีกว่า
ผมฟังแล้วสะอึกเลย
ผมคงจะแย่จริง ๆ ที่ผมจัดการชีวิตตัวเองไม่ได้
แต่ผมก็จะพยายามจัดการมันต่อไป
ทำไมเหรอ ถึงผมจะจัดการชีวิตตัวเองไม่ได้ แต่ผมก็กำลังทำอยู่
ต้องรอให้ผมจัดการชีวิตได้ก่อนเหรอ ผมถึงจะไปยุ่งกับชีวิตคนอื่นได้
คำพูดที่ตอกมาพวกนี้ มันทำให้ผมรู้สึกไร้ค่า
ชีวิตที่มีค่า สำหรับผมคือ ชีวิตที่ตัวเองรู้สึกมีค่าและทำให้ชีวิตคนอื่นรู้สึกมีค่าด้วย
ก็นะ ผมคิดว่าชีวิตคนเราก็เป็น dynamic มันไม่หยุดอยู่กับที่ มันไม่มีเวลา ณ จุดหนึ่งที่เราจะบอกได้ว่า เราจัดการชีวิตได้แล้ว ยังไงคนเราก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ผมเพ้อฝัน... เหรอ... แล้วไง
ผมอยากไปมัลดีฟส์
ผมอยากทำเว็บไซท์ที่คนเข้าเยอะ ๆ เหมือนเฟสบุค
ผมอยากกินกาแฟสตาร์บัคส์ทุกวัน
ผมอยากขับรถสปอร์ตสุดเทห์
ผมอยากตัวสูงกว่านี้
และอีกหลาย ๆ อย่าง
จะให้ผม...เหยียบความฝันพวกนี้ใหัมันจมดิน ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลยเหรอ
ผมปรับตัวเข้าหาคุณ
คุณก็ปรับตัวเข้าหาผมบ้างสิ
คุณก็ชอบบอกว่า ฉันเป็นตัวของฉันเองแบบนี้ ก็ไม่รู้จะทำยังไง
คนเรามันเปลี่ยนได้ทุกอย่างแหละ เปลี่ยนที่จิตใจนี่ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนการกระทำ
คนที่ไม่ทะเลาะกันคือ คนที่ไม่รู้จักกัน
เราทะเลาะกับคนหนึ่ง เพราะเราใส่ใจในคนนั้น
ถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ จะมาเสียเวลาทะเลาะกันทำไม
บรู่ววว...ส์
มีคนบอกผมว่า ผมไม่ต้องไปเรียนรู้เค้าหรอก ให้ผมเรียนรู้ตัวเอง แล้วจัดการชีวิตตัวเองให้ได้
อย่ามัวแต่เพ้อฝัน กรุณาทำให้มันได้จริง ๆ จะดีกว่า
ผมฟังแล้วสะอึกเลย
ผมคงจะแย่จริง ๆ ที่ผมจัดการชีวิตตัวเองไม่ได้
แต่ผมก็จะพยายามจัดการมันต่อไป
ทำไมเหรอ ถึงผมจะจัดการชีวิตตัวเองไม่ได้ แต่ผมก็กำลังทำอยู่
ต้องรอให้ผมจัดการชีวิตได้ก่อนเหรอ ผมถึงจะไปยุ่งกับชีวิตคนอื่นได้
คำพูดที่ตอกมาพวกนี้ มันทำให้ผมรู้สึกไร้ค่า
ชีวิตที่มีค่า สำหรับผมคือ ชีวิตที่ตัวเองรู้สึกมีค่าและทำให้ชีวิตคนอื่นรู้สึกมีค่าด้วย
ก็นะ ผมคิดว่าชีวิตคนเราก็เป็น dynamic มันไม่หยุดอยู่กับที่ มันไม่มีเวลา ณ จุดหนึ่งที่เราจะบอกได้ว่า เราจัดการชีวิตได้แล้ว ยังไงคนเราก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ผมเพ้อฝัน... เหรอ... แล้วไง
ผมอยากไปมัลดีฟส์
ผมอยากทำเว็บไซท์ที่คนเข้าเยอะ ๆ เหมือนเฟสบุค
ผมอยากกินกาแฟสตาร์บัคส์ทุกวัน
ผมอยากขับรถสปอร์ตสุดเทห์
ผมอยากตัวสูงกว่านี้
และอีกหลาย ๆ อย่าง
จะให้ผม...เหยียบความฝันพวกนี้ใหัมันจมดิน ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลยเหรอ
ผมปรับตัวเข้าหาคุณ
คุณก็ปรับตัวเข้าหาผมบ้างสิ
คุณก็ชอบบอกว่า ฉันเป็นตัวของฉันเองแบบนี้ ก็ไม่รู้จะทำยังไง
คนเรามันเปลี่ยนได้ทุกอย่างแหละ เปลี่ยนที่จิตใจนี่ เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนการกระทำ
คนที่ไม่ทะเลาะกันคือ คนที่ไม่รู้จักกัน
เราทะเลาะกับคนหนึ่ง เพราะเราใส่ใจในคนนั้น
ถ้าเราไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ จะมาเสียเวลาทะเลาะกันทำไม
บรู่ววว...ส์
Tuesday, January 11, 2011
what's wrong
คนที่เราต้องการความรักจากเค้า
แต่การกระทำเรา ไม่ทำให้เค้ารักเรา
แล้วทำยังไงถึงจะดี
ทำอะไรก็ไม่ดี
ไม่ทำอะไรก็ไม่ดีอีก
กลัวเลย
หรือมันจะไม่ได้
เราพยายามเกินตัวเหรอ
เสียเซลฟ์นะเนี่ย
แล้วความกลัวก็มาเยือนอีกครั้ง...
แต่การกระทำเรา ไม่ทำให้เค้ารักเรา
แล้วทำยังไงถึงจะดี
ทำอะไรก็ไม่ดี
ไม่ทำอะไรก็ไม่ดีอีก
กลัวเลย
หรือมันจะไม่ได้
เราพยายามเกินตัวเหรอ
เสียเซลฟ์นะเนี่ย
แล้วความกลัวก็มาเยือนอีกครั้ง...
Sunday, January 9, 2011
Pet - สัตว์เลี้ยง
พ่อแม่อยากให้ลูกเชื่อฟังสิ่งที่ตัวเองพูดเหรอ
คุณอยากมีลูกหรือมีสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงของคุณ คุณรักมันเพราะมันเชื่อฟังคุณ มันทำตามที่คุณบอก มันไม่เถียงคุณนี่
จริง ๆ คุณไม่รู้หรอก ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมันคิดอะไร คุณก็คิดเองเองว่ามันจะคิดอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบ
พ่อ แม่ - ลูก
สามี - ภรรยา
เพื่อน - เพื่อน
หรืออื่น ๆ
คุณอยากได้คนที่เชื่อฟังคุณทุกอย่างเหรอ อยากได้คนที่ยอมคุณทุกอย่างเหรอ
สรุปแล้วคุณมีแฟนหรือมีไอ่ง่อยตัวหนึ่งซึ่งคอยทำตามสิ่งที่คุณบอก
คุณจะยอมรับมั้ยว่า ฉันเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งต่างจากคุณ เป็นอีกปัจเจคบุคคล ไม่ใช่เป็นส่วนขยายของคุณ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดอยากจะให้เป็น
ฉันเป็นตัวของฉันเอง ไม่ได้เป็นแบบที่ใครอยากให้เป็น
ฉันต่อสู้เพื่อที่จะได้เป็นตัวเอง
ฉันต่อสู้เพื่อความต้องการของตัวเอง
คุณอยากมีลูกหรือมีสัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงของคุณ คุณรักมันเพราะมันเชื่อฟังคุณ มันทำตามที่คุณบอก มันไม่เถียงคุณนี่
จริง ๆ คุณไม่รู้หรอก ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมันคิดอะไร คุณก็คิดเองเองว่ามันจะคิดอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบ
พ่อ แม่ - ลูก
สามี - ภรรยา
เพื่อน - เพื่อน
หรืออื่น ๆ
คุณอยากได้คนที่เชื่อฟังคุณทุกอย่างเหรอ อยากได้คนที่ยอมคุณทุกอย่างเหรอ
สรุปแล้วคุณมีแฟนหรือมีไอ่ง่อยตัวหนึ่งซึ่งคอยทำตามสิ่งที่คุณบอก
คุณจะยอมรับมั้ยว่า ฉันเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งต่างจากคุณ เป็นอีกปัจเจคบุคคล ไม่ใช่เป็นส่วนขยายของคุณ ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดอยากจะให้เป็น
ฉันเป็นตัวของฉันเอง ไม่ได้เป็นแบบที่ใครอยากให้เป็น
ฉันต่อสู้เพื่อที่จะได้เป็นตัวเอง
ฉันต่อสู้เพื่อความต้องการของตัวเอง
Experience - I've been to America
คนอย่างฉัน
เดินทางไปอีกซีกโลกหนึ่ง ไปเหยียบดินแดนที่ได้ชื่อว่า Land of opportunity มาแล้ว
จะเล่าให้ฟัง
ตอนเรียนมหาลัยปี 2 มีเพื่อนไป work&travel มา
เราเห็นเพื่อนกลับมาก็ปลอดภัยดีนี่นา ตอนที่เพื่อนไป ก็ไม่ได้อยากไป
แต่พอมาปี 3 เท่าที่จำความรู้สึกได้ก็คือ "เบื่อเมืองไทย" ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ตัดสินใจว่าจะไปอเมริกาบ้าง ก็เลยถามเพื่อนคนนั้นว่า ไปยังไง เค้าก็บอกเอเจนซี่มา หลังจากนั้นเราก็ทำเองหมดเลย
ชวนใครไปก็ไม่ไป ฮาไปคนเดียวก็ได้บ่ะ
ไม่มีความกลัว คิดแค่ว่า ก็แค่ไป ตายเอาดาบหน้า
เราคิดว่าเราโชคดี ไปกับบริษัทที่จัดเตรียมเรื่องเอกสารดีมาก สำหรับคนไม่รู้อะไรเลยอย่างเรา มันแบ่งเบาภาระไปได้มาก สิ่งที่เราทำก็คือ หาข้อมูลทุกอย่างของอเมริกา เท่าที่จะหาได้
เราเลือกงาน เลือกเมืองที่จะไปเอง
จากที่ถามคนอื่น หรืออ่านเว็บบอร์ดมา บางคนจะไปเมืองอะไรก็ให้เค้าเลือกให้ ตัวเองยังไงก็ได้ จะทำงานอะไรก็แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง
โน โน โน สำหรับเราไม่ใช่อย่างนั้น
อเมริกามีตั้ง 51 รัฐ จะไปรัฐไหน ...เซิช google โลด
เราตัดสินใจไป California (CA) เหตุผล คนไทยเยอะ เราคิดว่าถ้ามีปัญหา ก็น่าจะหาความช่วยเหลือได้ นี่คือเหตุผลและวิธีการที่เราใช้ตัดสินใจ
ได้รัฐแล้ว ต่อไปก็หาว่าจะทำงานอะไร
เราก็คิดอีก ทำงานในร่มน่าจะดี ไม่ต้องเจอกับสภาพอากาศที่ไม่ดี เพราะเราก็ไม่เคยไปอเมริกามาก่อน ไม่รู้ว่าอากาศมันจะยังไง ทำในร่มไว้ก่อนน่าจะดี
คิดอีก ทำงานในร่ม ทำงานอะไร
ตอนแรกอยากทำ McDonald เหมือนว่า มันไม่มีที่ CA หรือว่ามันเต็มซักอย่าง เราก็เลยเลือก hmshost ถ้าเทียบกับบ้านเรา hmshost ก็เหมือนบริษัท minor food ที่มันเทคโอเวอร์กิจการต่าง ๆ ในสนามบินอะ มันอาจจะเทค เบอร์เกอร์คิง แมคโดนัล สตาร์บัคส์ หรือร้านอาหารร้านขายของที่ระทึก เอ๊ย ระลึก อื่น ๆ ในสนามบิน ก็คือเหมือนกับไปซื้อ chain พวกนี้มาเปิดอีกที
เราก็คิดว่า เอ้ออ... ทำงานในสนามบินก็ดีเหมือนกัน ปลอดภัยดี มีความรู้สึกว่าสนามบินเป็นที่ที่มีความปลอดภัยอะ และอยู่ในร่มด้วย
และที่สำคัญ hmshost มีสาขาอยู่ในสนามบินที่ CA ด้วย
เอาหล่ะ ก็ได้รัฐ และได้สถานที่ที่อยากทำแล้ว
พอวันสัมภาษณ์งาน ก็บอกนายจ้างไปเลยว่า I want to go to California. จบเลย ง่าย ๆ
location ที่เราเลือกไว้มันเป็นสนามบิน Santa Ana Airport หรือคนแถวนั้นจะเรียกว่า John Wayne Airport
เราก็นี่เลย เข้าเว็บสนามบิน ดูว่าสนามบินเป็นยังไง ในนั้นมีร้านอะไรบ้าง
เราส่ง e-mail ไปคุยกับ hr manager ที่นู่นด้วยนะ ว่า I want to work as Starbucks Barista. แต่เค้าก็ไม่ตอบกลับ 55 แต่ไปถึงก็ได้ทำที่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์นะ ไม่รู้เพราะอีเมลล์ฉบับนี้หรือเพราะว่าบังเอิญพอดี
(แอบไปเซิชหาอีเมลล์ฉบับนั้น แต่ก็ไม่เจออะ จำไม่ได้ว่าส่งไปที่อีเมลล์ไหน แอบดูเมลล์อื่นรำลึกความหลังด้วย 55 เวิ่น)
เราหาข้อมูลเกือบทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ตอนอยู่ไทยอะนะ
- ดูสภาพเมืองแถวนั้นด้วย google earth
- เข้าไปอ่านกระทู้ในเว็บบอร์ดต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะอ่านใน pantip/cafe/kaibann อะ มันจะมี wat club อยู่
- ดูสภาพอากาศ(กังวลมาก กลัวหนาว แต่ไปถึงก็ไม่หนาวเท่าไหร่อะ) จากเว็บ city-data.com
มันจะมีกราฟบอกเลยนะว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในรอบปีเมืองนั้นเป็นเท่าไหร่ ความชื้นเป็นยังไง หิมะตกไหม มีพลเมืองกี่คน มีชนชาติอะไรบ้าง ก็ได้เรียนรู้ เมือก่อนไม่รู้เลย ไอ่ hispanic/non-hispanic มันคืออะไร ก็ได้ไปเซิชหาว่ามันคืออะไร มีรูปเมืองให้ดูนิดหน่อยด้วย
สรุปว่าเมือง santa ana ไม่มีหิมะตก เหอะ ๆ แต่เราได้พักเมือง costa mesa เมืองใกล้ ๆ กัน เทียบกับบ้านเรา น่าจะอยู่คนละตำบลอะไรงี้ เราชอบบ้านแบบอเมกามากเลย แล้วเมือง costa mesa ก็มีแต่บ้านสวย ๆ หญ้าหนา ๆ ทางเดินสะอาด ๆ ตรงฟุตบาตต่อกับถนนก็จะทำเป็นทางลาดไว้สำหรับรถเข็น เห็นได้เลยว่าคุณภาพชีวิตดีมาก ๆ ไม่อยากกลับมามองเมืองไทย.... ฟุตบาต.. ก็.. นะ อย่างที่เราเห็น ๆ กัน
พอถึงวันเดินทาง เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกอะ
Chiang Mai - Taipei - Los Angelese(LA) - Santa Ana
เชียงใหม่ - ไทเป 3 ชั่วโมง
รอต่อเครื่อง 4 ชั่วโมง
ไทเป - แอลเอ 17 ชั่วโมง โอ้แม่เจ้า หลับไม่รู้จะหลับยังไง
ที่จริงเราตัดสินใจไปคนเดียว แต่ที่บริษัทก็บอกว่ามีคนไทยไปที่เดียวกันอีก 4 คนนะ แต่เราก็ไม่รู้จักหรอกว่าเป็นใคร ก็เดินทางไปพร้อมกันนี่แหละ
เดินทางครั้งแรกก็ได้เรื่อง ตกเครื่อง!
เรานี่ก็ไม่รู้เป็นไง แถวที่ไปต่อ จะช้ากว่าแถวอื่นอยู่เรื่อยเลย ทีนี้ที่สนามบิน LAX ก็ต้องตรวจคนเข้าเมือง ก็เลยช้า แล้วต้องไปต่อสายการบินในประเทศเพื่อไปเมือง Santa Ana อีก
ทุลักทุเล
ผ่านที่ตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
เค้าถามว่ามาทำอะไร เราก็ตอบว่า I join work&travel program
เค้าถามว่ามาทำงานอะไร เราก็ตอบว่า I don't know what the job position but i know i work at Santa Ana Airport. It's the job about food and beverage. อะไรงี้นะ ก็ว่าไป
ผ่านไป
พลัดหลงกะเพื่อนคนไทยก็คราวนี้แหละ คนอื่นเค้าเสร็จก่อนอะ แล้วเค้าก็เป็นเพื่อนกัน เค้าก็ไปด้วยกัน แถวเราช้าอะ
มาเอากระเป๋า กระเป๋าก็หนั๊กหนัก (มีแต่มาม่ากับปลากระป๋องอะดิ) ไม่รู้ว่าเค้าเอารถเข็นยังไงอีก เออเว้ย ก็ลากกระเป๋าไปอย่างงั้นก็ได้ ดีที่ว่าเอามากระเป๋าเดียว(แต่เป็นกระเป๋าเดียวที่หนักมาก)
ต้องไปขึ้นเครื่องในประเทศต่อที่เกท 84 เอ้าาาา เกท 84 อยู่ไหนอะ สายการบิน ถ้าจำไม่ผิด us airway นะ เดินออกไป มันมีรถเมล์ในสนามบินด้วยนะ แต่ไม่รู้นั่งยังไงอะ (จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ ในชีวิตนี้เคยไป LAX แค่ครั้งเดียว) เห็นละ เกทเรียงกัน เกท 84 อยู่สุดปู๊นนนนน... ลากกระเป๋าวิ่งไปเลย
ก็ถามทางคนแถวนั้น 2-3 คนนะว่า how can i get to gate 84 แต่ฟังเค้าแล้วไม่รู้เรื่องอะ ก็เลยเดินออกมาดูเองเลย ดีที่ไปถูก
พอไปถึง ต้องขึ้นไปชั้นบน ที่จริงมีลิฟต์ แต่ก็ทำไม่เป็นอีก ก็ได้ลากกระเป๋าขึ้นบันไดเลื่อน พอไปถึงเค้าเตอร์เช็คอิน เจอเพื่อนคนไทยด้วยกัน สรุปว่าไปไม่ทัน ตกเครื่องกันหมด
ก็ยังดีที่เราเจอเพื่อนคนไทยด้วยกัน เจ้าหน้าที่ตรงเค้าเตอร์ก็ดี เค้าบอกว่าเคยไปเมืองไทย คนไทยก็เคยช่วยเหลือเค้ามา ... อย่างน้อยประเทศเราก็มีอะไรดี ๆ บ้างอะนะ
ก็รอเครื่องบินรอบต่อไป
เหมือนจะไม่นานนะ ออกจากไทยแปดโมงเช้า ถึงอเมกาบ่ายสาม เพราะเวลาที่อเมกาช้ากว่าไทยไง เหอะ ๆ
ได้บินตอนหกโมงเย็น
ไปถึง Santa Ana ก็มืดแล้วอะ เอาล่ะสิ ทำไงวะ ไม่มีใครมารอรับที่สนามบินเลย ดีนะที่ยังรู้ว่าได้พักที่ไหน เพราะมีอีเมลล์ติดต่อมาจาก hr ว่าให้พวก you พักที่นี่ โรงแรม Best Western
พวกเพื่อน ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนปล่อยเกาะ แต่ไม่ได้สิ จะติดแหง็กที่สนามบินเนี่ยเหรอ
ก็ดู information ในสนามบิน ไม่ได้เรื่อง ออกไปเรียก taxi ให้แท็กซี่ไปส่ง มาถึงที่หมาย หมดค่าแท็กซี่ไป $20 ก็เลยออกคนละ $5 มี 5 คน ก็ให้ tip เค้าไป
มารู้ตอนหลังโรงแรมนี้มี free shuttle ปั๊ดธ๊ออ... เอาน่ะ ซื้อประสบการณ์
สรุปว่าคนอย่างเราก็เดินทางจากไทย มาอเมกาได้เหมือนกันนะเฟ้ยยย..
จบละ แค่อยากเล่าให้ฟัง ทำไมถึงมา ก่อนมาทำอะไร มายังไง
เดินทางไปอีกซีกโลกหนึ่ง ไปเหยียบดินแดนที่ได้ชื่อว่า Land of opportunity มาแล้ว
จะเล่าให้ฟัง
ตอนเรียนมหาลัยปี 2 มีเพื่อนไป work&travel มา
เราเห็นเพื่อนกลับมาก็ปลอดภัยดีนี่นา ตอนที่เพื่อนไป ก็ไม่ได้อยากไป
แต่พอมาปี 3 เท่าที่จำความรู้สึกได้ก็คือ "เบื่อเมืองไทย" ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ตัดสินใจว่าจะไปอเมริกาบ้าง ก็เลยถามเพื่อนคนนั้นว่า ไปยังไง เค้าก็บอกเอเจนซี่มา หลังจากนั้นเราก็ทำเองหมดเลย
ชวนใครไปก็ไม่ไป ฮาไปคนเดียวก็ได้บ่ะ
ไม่มีความกลัว คิดแค่ว่า ก็แค่ไป ตายเอาดาบหน้า
เราคิดว่าเราโชคดี ไปกับบริษัทที่จัดเตรียมเรื่องเอกสารดีมาก สำหรับคนไม่รู้อะไรเลยอย่างเรา มันแบ่งเบาภาระไปได้มาก สิ่งที่เราทำก็คือ หาข้อมูลทุกอย่างของอเมริกา เท่าที่จะหาได้
เราเลือกงาน เลือกเมืองที่จะไปเอง
จากที่ถามคนอื่น หรืออ่านเว็บบอร์ดมา บางคนจะไปเมืองอะไรก็ให้เค้าเลือกให้ ตัวเองยังไงก็ได้ จะทำงานอะไรก็แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง
โน โน โน สำหรับเราไม่ใช่อย่างนั้น
อเมริกามีตั้ง 51 รัฐ จะไปรัฐไหน ...เซิช google โลด
เราตัดสินใจไป California (CA) เหตุผล คนไทยเยอะ เราคิดว่าถ้ามีปัญหา ก็น่าจะหาความช่วยเหลือได้ นี่คือเหตุผลและวิธีการที่เราใช้ตัดสินใจ
ได้รัฐแล้ว ต่อไปก็หาว่าจะทำงานอะไร
เราก็คิดอีก ทำงานในร่มน่าจะดี ไม่ต้องเจอกับสภาพอากาศที่ไม่ดี เพราะเราก็ไม่เคยไปอเมริกามาก่อน ไม่รู้ว่าอากาศมันจะยังไง ทำในร่มไว้ก่อนน่าจะดี
คิดอีก ทำงานในร่ม ทำงานอะไร
ตอนแรกอยากทำ McDonald เหมือนว่า มันไม่มีที่ CA หรือว่ามันเต็มซักอย่าง เราก็เลยเลือก hmshost ถ้าเทียบกับบ้านเรา hmshost ก็เหมือนบริษัท minor food ที่มันเทคโอเวอร์กิจการต่าง ๆ ในสนามบินอะ มันอาจจะเทค เบอร์เกอร์คิง แมคโดนัล สตาร์บัคส์ หรือร้านอาหารร้านขายของที่ระทึก เอ๊ย ระลึก อื่น ๆ ในสนามบิน ก็คือเหมือนกับไปซื้อ chain พวกนี้มาเปิดอีกที
เราก็คิดว่า เอ้ออ... ทำงานในสนามบินก็ดีเหมือนกัน ปลอดภัยดี มีความรู้สึกว่าสนามบินเป็นที่ที่มีความปลอดภัยอะ และอยู่ในร่มด้วย
และที่สำคัญ hmshost มีสาขาอยู่ในสนามบินที่ CA ด้วย
เอาหล่ะ ก็ได้รัฐ และได้สถานที่ที่อยากทำแล้ว
พอวันสัมภาษณ์งาน ก็บอกนายจ้างไปเลยว่า I want to go to California. จบเลย ง่าย ๆ
location ที่เราเลือกไว้มันเป็นสนามบิน Santa Ana Airport หรือคนแถวนั้นจะเรียกว่า John Wayne Airport
เราก็นี่เลย เข้าเว็บสนามบิน ดูว่าสนามบินเป็นยังไง ในนั้นมีร้านอะไรบ้าง
เราส่ง e-mail ไปคุยกับ hr manager ที่นู่นด้วยนะ ว่า I want to work as Starbucks Barista. แต่เค้าก็ไม่ตอบกลับ 55 แต่ไปถึงก็ได้ทำที่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์นะ ไม่รู้เพราะอีเมลล์ฉบับนี้หรือเพราะว่าบังเอิญพอดี
(แอบไปเซิชหาอีเมลล์ฉบับนั้น แต่ก็ไม่เจออะ จำไม่ได้ว่าส่งไปที่อีเมลล์ไหน แอบดูเมลล์อื่นรำลึกความหลังด้วย 55 เวิ่น)
เราหาข้อมูลเกือบทุกอย่างเท่าที่จะหาได้ตอนอยู่ไทยอะนะ
- ดูสภาพเมืองแถวนั้นด้วย google earth
- เข้าไปอ่านกระทู้ในเว็บบอร์ดต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะอ่านใน pantip/cafe/kaibann อะ มันจะมี wat club อยู่
- ดูสภาพอากาศ(กังวลมาก กลัวหนาว แต่ไปถึงก็ไม่หนาวเท่าไหร่อะ) จากเว็บ city-data.com
มันจะมีกราฟบอกเลยนะว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในรอบปีเมืองนั้นเป็นเท่าไหร่ ความชื้นเป็นยังไง หิมะตกไหม มีพลเมืองกี่คน มีชนชาติอะไรบ้าง ก็ได้เรียนรู้ เมือก่อนไม่รู้เลย ไอ่ hispanic/non-hispanic มันคืออะไร ก็ได้ไปเซิชหาว่ามันคืออะไร มีรูปเมืองให้ดูนิดหน่อยด้วย
สรุปว่าเมือง santa ana ไม่มีหิมะตก เหอะ ๆ แต่เราได้พักเมือง costa mesa เมืองใกล้ ๆ กัน เทียบกับบ้านเรา น่าจะอยู่คนละตำบลอะไรงี้ เราชอบบ้านแบบอเมกามากเลย แล้วเมือง costa mesa ก็มีแต่บ้านสวย ๆ หญ้าหนา ๆ ทางเดินสะอาด ๆ ตรงฟุตบาตต่อกับถนนก็จะทำเป็นทางลาดไว้สำหรับรถเข็น เห็นได้เลยว่าคุณภาพชีวิตดีมาก ๆ ไม่อยากกลับมามองเมืองไทย.... ฟุตบาต.. ก็.. นะ อย่างที่เราเห็น ๆ กัน
พอถึงวันเดินทาง เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกอะ
Chiang Mai - Taipei - Los Angelese(LA) - Santa Ana
เชียงใหม่ - ไทเป 3 ชั่วโมง
รอต่อเครื่อง 4 ชั่วโมง
ไทเป - แอลเอ 17 ชั่วโมง โอ้แม่เจ้า หลับไม่รู้จะหลับยังไง
ที่จริงเราตัดสินใจไปคนเดียว แต่ที่บริษัทก็บอกว่ามีคนไทยไปที่เดียวกันอีก 4 คนนะ แต่เราก็ไม่รู้จักหรอกว่าเป็นใคร ก็เดินทางไปพร้อมกันนี่แหละ
เดินทางครั้งแรกก็ได้เรื่อง ตกเครื่อง!
เรานี่ก็ไม่รู้เป็นไง แถวที่ไปต่อ จะช้ากว่าแถวอื่นอยู่เรื่อยเลย ทีนี้ที่สนามบิน LAX ก็ต้องตรวจคนเข้าเมือง ก็เลยช้า แล้วต้องไปต่อสายการบินในประเทศเพื่อไปเมือง Santa Ana อีก
ทุลักทุเล
ผ่านที่ตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
เค้าถามว่ามาทำอะไร เราก็ตอบว่า I join work&travel program
เค้าถามว่ามาทำงานอะไร เราก็ตอบว่า I don't know what the job position but i know i work at Santa Ana Airport. It's the job about food and beverage. อะไรงี้นะ ก็ว่าไป
ผ่านไป
พลัดหลงกะเพื่อนคนไทยก็คราวนี้แหละ คนอื่นเค้าเสร็จก่อนอะ แล้วเค้าก็เป็นเพื่อนกัน เค้าก็ไปด้วยกัน แถวเราช้าอะ
มาเอากระเป๋า กระเป๋าก็หนั๊กหนัก (มีแต่มาม่ากับปลากระป๋องอะดิ) ไม่รู้ว่าเค้าเอารถเข็นยังไงอีก เออเว้ย ก็ลากกระเป๋าไปอย่างงั้นก็ได้ ดีที่ว่าเอามากระเป๋าเดียว(แต่เป็นกระเป๋าเดียวที่หนักมาก)
ต้องไปขึ้นเครื่องในประเทศต่อที่เกท 84 เอ้าาาา เกท 84 อยู่ไหนอะ สายการบิน ถ้าจำไม่ผิด us airway นะ เดินออกไป มันมีรถเมล์ในสนามบินด้วยนะ แต่ไม่รู้นั่งยังไงอะ (จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ ในชีวิตนี้เคยไป LAX แค่ครั้งเดียว) เห็นละ เกทเรียงกัน เกท 84 อยู่สุดปู๊นนนนน... ลากกระเป๋าวิ่งไปเลย
ก็ถามทางคนแถวนั้น 2-3 คนนะว่า how can i get to gate 84 แต่ฟังเค้าแล้วไม่รู้เรื่องอะ ก็เลยเดินออกมาดูเองเลย ดีที่ไปถูก
พอไปถึง ต้องขึ้นไปชั้นบน ที่จริงมีลิฟต์ แต่ก็ทำไม่เป็นอีก ก็ได้ลากกระเป๋าขึ้นบันไดเลื่อน พอไปถึงเค้าเตอร์เช็คอิน เจอเพื่อนคนไทยด้วยกัน สรุปว่าไปไม่ทัน ตกเครื่องกันหมด
ก็ยังดีที่เราเจอเพื่อนคนไทยด้วยกัน เจ้าหน้าที่ตรงเค้าเตอร์ก็ดี เค้าบอกว่าเคยไปเมืองไทย คนไทยก็เคยช่วยเหลือเค้ามา ... อย่างน้อยประเทศเราก็มีอะไรดี ๆ บ้างอะนะ
ก็รอเครื่องบินรอบต่อไป
เหมือนจะไม่นานนะ ออกจากไทยแปดโมงเช้า ถึงอเมกาบ่ายสาม เพราะเวลาที่อเมกาช้ากว่าไทยไง เหอะ ๆ
ได้บินตอนหกโมงเย็น
ไปถึง Santa Ana ก็มืดแล้วอะ เอาล่ะสิ ทำไงวะ ไม่มีใครมารอรับที่สนามบินเลย ดีนะที่ยังรู้ว่าได้พักที่ไหน เพราะมีอีเมลล์ติดต่อมาจาก hr ว่าให้พวก you พักที่นี่ โรงแรม Best Western
พวกเพื่อน ๆ ก็รู้สึกเหมือนโดนปล่อยเกาะ แต่ไม่ได้สิ จะติดแหง็กที่สนามบินเนี่ยเหรอ
ก็ดู information ในสนามบิน ไม่ได้เรื่อง ออกไปเรียก taxi ให้แท็กซี่ไปส่ง มาถึงที่หมาย หมดค่าแท็กซี่ไป $20 ก็เลยออกคนละ $5 มี 5 คน ก็ให้ tip เค้าไป
มารู้ตอนหลังโรงแรมนี้มี free shuttle ปั๊ดธ๊ออ... เอาน่ะ ซื้อประสบการณ์
สรุปว่าคนอย่างเราก็เดินทางจากไทย มาอเมกาได้เหมือนกันนะเฟ้ยยย..
จบละ แค่อยากเล่าให้ฟัง ทำไมถึงมา ก่อนมาทำอะไร มายังไง
Saturday, January 8, 2011
Experience - ประสบการณ์
คุณคิดว่าประสบการณ์สอนกันได้เหรอ
บางอย่างได้ บางอย่างไม่ได้
ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ ฉันคิดว่า ถ้าจะสอนก็สอนได้ แต่ไม่อิน
"มีคนบอกว่าฉันดื้อ"
ก็แล้วแต่คนอื่นจะมอง
ตัวฉันก็มีความเชื่ออยู่ในตัว
สมมุติว่ามีคนมาบอกสิ่งที่ตรงข้ามกับความเชื่อของฉันคนละขั้ว คุณคิดว่าฉันจะเชื่อง่าย ๆ มั้ย เป็นคุณคุณก็คงไม่เชื่อหรอก แต่ถ้าบอก ประกอบด้วยเหตุผลที่ฟังดูแล้วมันถูกกับตรรกะของฉัน ฉันก็จะเชื่อ
อีกกรณี สมมุติมีคนมาบอก ในสิ่งที่ฉันไม่มีความรู้เรื่องนั้นอยู่ แต่ถ้าฉันได้ทดลองแล้ว หรือได้คิดตามแล้ว มันสมเหตุสมผลกับตรรกะของตัวฉัน ฉันก็จะเชื่อ
แค่นี้แหละ ฉันดื้อเหรอ
คนที่ผ่านประสบการณ์อกหักมาหลายครั้ง ครั้งที่ 1 2 3 อาจจะปางตาย แต่ครั้งที่ 10 20 30 ก็ชิว ๆ แล้วแหละ
มีคนบอกฉันว่าเค้ามีความเชื่อว่า "ใจเนี่ย สั่งได้หมดแหละ" จะสั่งให้รัก หรือไม่รักใครก็ได้ จะสั่งให้ตัดใจจากใครก็ได้ ฟังดูง่ายไหม ก็คงจะง่ายสำหรับบางคน บางคนที่ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้จิตใจของเขาเหล่านั้นเข้มแข็ง
อยู่ดี ๆ คุณไปบอกเด็ก 5 ขวบที่อยากได้ของเล่นว่า ไม่ต้องเล่นหรอกไร้สาระ แต่ใจเด็กมันอยากได้ มันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณบอกหรอก
เฮ้อ เขียนไม่ค่อยดีเลย เรื่องของจิตใจที่ฉันอยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ
แต่จากเหตุการณ์เมื่อวาน ฉันคิดว่าฉันเข้มแข็งขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ประสบการณ์ที่เจ็บปวด จะทำให้ฉันเข้มแข็ง ฉันไม่สามารถรับรู้ประสบการณ์เหล่านี้ได้จากการบอกเล่า ฉันต้องเจอด้วยตัวเอง ฉันจึงจะเข้มแข็ง คนที่ไม่ผ่านความเจ็บปวด คือคนที่กลัว ไม่กล้าทำอะไรเลย ไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าแลกความเข้มแข็งทางจิตใจด้วยความเจ็บปวด
คนที่เดินตามกระแสคนส่วนใหญ่ก็อีกพวกหนึ่ง ไม่กล้าที่จะมีแนวทางของตัวเอง ไม่กล้าทำตามความต้องการของตัวเอง พยายามจะเป็นในแบบที่คนอื่นอยากให้เป็น มันเป็นไม่ได้หรอก ตัวเองยังไงก็ต้องเป็นตัวเองวันยันค่ำ
ตอนนี้นะ จะบอกให้
ฉันไม่ได้เป็นโรคจิต ฉันเป็นโรคประสาท มันต่างกันยังไง
โรคจิตคือ พวกหูแว่ว พวกที่ไม่รับรู้โลกของความเป็นจริง
ส่วนโรคประสาทคือ พวกที่รู้ว่าตัวเองมีจิตใจไม่ปกติ รับรู้โลกแห่งความเป็นจริง และรู้ว่าตัวเองต้องหาวิธีแก้ไข เพื่อให้จิตใจกลับไปเป็นปกติเหมือนเดิม รู้ว่าน่าจะไปหาจิตแพทย์เพื่อให้ช่วยเหลือ
เราก็ไปหาจิตแพทย์ เราอ่านหนังสือจิตวิทยา เราหวังว่าจิตแพทย์จะช่วยให้เราก้าวสู่การเจริญเติบโตทางจิตใจ คนเราทำเองไม่ได้ ก็สมควรจะหาผู้ช่วย
เรายอมแลกการเจริญเติบโตทางจิตใจด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดที่ต้องเล่าถึงเรื่องในอดีต คุณเคยมีเรื่องในอดีตที่ไม่อยากเล่าหรือไม่อยากพูดถึงมันอีกไหม นั่นแหละ คุณต้องเล่า คุณต้องพูด เพื่อนำเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น มาพิจารณา มาคิดว่า ทำไมเราถึงทำอย่างนั้น อย่างนี้ เราคิดยังไง แน่นอน มันเป็นความเจ็บปวด
อีกอย่างหนึ่ง ฉันต้องกล้าไว้วางใจจิตแพทย์ เพราะฉันไม่กล้าไว้ใจใครเลย ผู้หญิงคนนั้น อาจารย์ที่ปรึกษา พ่อ แม่ ต่างก็ทำฉันเจ็บปวดมาแล้ว แต่ด้วยความหวังว่า จิตแพทย์จะเป็นผู้ช่วยทำให้ฉันมีการเจริญเติบโตทางจิตใจ ฉันจึงต้องยอมไว้ใจจิตแพทย์ เล่าเรื่อง ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง บอกความรู้สึก ที่ไม่เคยบอกให้ใครฟัง บางเรื่องที่ปิดบังต่อผู้คน ก็ต้องเปิดเผยต่อจิตแพทย์
คุณน่ะ กล้าหรือเปล่า กล้าที่จะเอาชนะความกลัวต่อสิ่งต่าง ๆ
ฉันสามารถกินข้าวคนเดียว
ฉันสามารถเดินทางคนเดียว
ฉันสามารถอยู่คนเดียว ใช้เวลากับตัวเองได้
และ
ฉันจะเอาชนะความกลัวอื่น ๆ อีกต่อไป
I'm not fear to anything.
บางอย่างได้ บางอย่างไม่ได้
ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ ฉันคิดว่า ถ้าจะสอนก็สอนได้ แต่ไม่อิน
"มีคนบอกว่าฉันดื้อ"
ก็แล้วแต่คนอื่นจะมอง
ตัวฉันก็มีความเชื่ออยู่ในตัว
สมมุติว่ามีคนมาบอกสิ่งที่ตรงข้ามกับความเชื่อของฉันคนละขั้ว คุณคิดว่าฉันจะเชื่อง่าย ๆ มั้ย เป็นคุณคุณก็คงไม่เชื่อหรอก แต่ถ้าบอก ประกอบด้วยเหตุผลที่ฟังดูแล้วมันถูกกับตรรกะของฉัน ฉันก็จะเชื่อ
อีกกรณี สมมุติมีคนมาบอก ในสิ่งที่ฉันไม่มีความรู้เรื่องนั้นอยู่ แต่ถ้าฉันได้ทดลองแล้ว หรือได้คิดตามแล้ว มันสมเหตุสมผลกับตรรกะของตัวฉัน ฉันก็จะเชื่อ
แค่นี้แหละ ฉันดื้อเหรอ
คนที่ผ่านประสบการณ์อกหักมาหลายครั้ง ครั้งที่ 1 2 3 อาจจะปางตาย แต่ครั้งที่ 10 20 30 ก็ชิว ๆ แล้วแหละ
มีคนบอกฉันว่าเค้ามีความเชื่อว่า "ใจเนี่ย สั่งได้หมดแหละ" จะสั่งให้รัก หรือไม่รักใครก็ได้ จะสั่งให้ตัดใจจากใครก็ได้ ฟังดูง่ายไหม ก็คงจะง่ายสำหรับบางคน บางคนที่ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้จิตใจของเขาเหล่านั้นเข้มแข็ง
อยู่ดี ๆ คุณไปบอกเด็ก 5 ขวบที่อยากได้ของเล่นว่า ไม่ต้องเล่นหรอกไร้สาระ แต่ใจเด็กมันอยากได้ มันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณบอกหรอก
เฮ้อ เขียนไม่ค่อยดีเลย เรื่องของจิตใจที่ฉันอยากจะถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ
แต่จากเหตุการณ์เมื่อวาน ฉันคิดว่าฉันเข้มแข็งขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ประสบการณ์ที่เจ็บปวด จะทำให้ฉันเข้มแข็ง ฉันไม่สามารถรับรู้ประสบการณ์เหล่านี้ได้จากการบอกเล่า ฉันต้องเจอด้วยตัวเอง ฉันจึงจะเข้มแข็ง คนที่ไม่ผ่านความเจ็บปวด คือคนที่กลัว ไม่กล้าทำอะไรเลย ไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าแลกความเข้มแข็งทางจิตใจด้วยความเจ็บปวด
คนที่เดินตามกระแสคนส่วนใหญ่ก็อีกพวกหนึ่ง ไม่กล้าที่จะมีแนวทางของตัวเอง ไม่กล้าทำตามความต้องการของตัวเอง พยายามจะเป็นในแบบที่คนอื่นอยากให้เป็น มันเป็นไม่ได้หรอก ตัวเองยังไงก็ต้องเป็นตัวเองวันยันค่ำ
ตอนนี้นะ จะบอกให้
ฉันไม่ได้เป็นโรคจิต ฉันเป็นโรคประสาท มันต่างกันยังไง
โรคจิตคือ พวกหูแว่ว พวกที่ไม่รับรู้โลกของความเป็นจริง
ส่วนโรคประสาทคือ พวกที่รู้ว่าตัวเองมีจิตใจไม่ปกติ รับรู้โลกแห่งความเป็นจริง และรู้ว่าตัวเองต้องหาวิธีแก้ไข เพื่อให้จิตใจกลับไปเป็นปกติเหมือนเดิม รู้ว่าน่าจะไปหาจิตแพทย์เพื่อให้ช่วยเหลือ
เราก็ไปหาจิตแพทย์ เราอ่านหนังสือจิตวิทยา เราหวังว่าจิตแพทย์จะช่วยให้เราก้าวสู่การเจริญเติบโตทางจิตใจ คนเราทำเองไม่ได้ ก็สมควรจะหาผู้ช่วย
เรายอมแลกการเจริญเติบโตทางจิตใจด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดที่ต้องเล่าถึงเรื่องในอดีต คุณเคยมีเรื่องในอดีตที่ไม่อยากเล่าหรือไม่อยากพูดถึงมันอีกไหม นั่นแหละ คุณต้องเล่า คุณต้องพูด เพื่อนำเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านั้น มาพิจารณา มาคิดว่า ทำไมเราถึงทำอย่างนั้น อย่างนี้ เราคิดยังไง แน่นอน มันเป็นความเจ็บปวด
อีกอย่างหนึ่ง ฉันต้องกล้าไว้วางใจจิตแพทย์ เพราะฉันไม่กล้าไว้ใจใครเลย ผู้หญิงคนนั้น อาจารย์ที่ปรึกษา พ่อ แม่ ต่างก็ทำฉันเจ็บปวดมาแล้ว แต่ด้วยความหวังว่า จิตแพทย์จะเป็นผู้ช่วยทำให้ฉันมีการเจริญเติบโตทางจิตใจ ฉันจึงต้องยอมไว้ใจจิตแพทย์ เล่าเรื่อง ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง บอกความรู้สึก ที่ไม่เคยบอกให้ใครฟัง บางเรื่องที่ปิดบังต่อผู้คน ก็ต้องเปิดเผยต่อจิตแพทย์
คุณน่ะ กล้าหรือเปล่า กล้าที่จะเอาชนะความกลัวต่อสิ่งต่าง ๆ
ฉันสามารถกินข้าวคนเดียว
ฉันสามารถเดินทางคนเดียว
ฉันสามารถอยู่คนเดียว ใช้เวลากับตัวเองได้
และ
ฉันจะเอาชนะความกลัวอื่น ๆ อีกต่อไป
I'm not fear to anything.
It's over
ผมเพิ่งโทรไปบอกเธอเมื่อคืนไปว่าผมจะหายไปจากชีวิตเธอ
ผมจะไม่โทรหาเธออีกแล้ว
ปวดร้าว
ผมร้องไห้ ผมอ่อนแอ
ผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับเธอคนนี้ไว้ในบล็อกนี้ แต่ผมไม่พับบลิช และคงไม่มีวันพับบลิช
นี่เป็นการกระทำที่เป็นเหตุผล
เหตุผลที่ย่ำยี บดขยี้อารมณ์ความรู้สึกผมมาก ๆ
นี่ไง ผมทำตามเหตุผลแล้ว
ส่วนอารมณ์...เราก็อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย
เมื่อทำตามเหตุผล อารมณ์ก็ไร้ความหมาย
การให้ความใกล้ชิดกับใครสักคนหนึ่ง ความเจ็บปวดเป็นราคาที่คุณต้องจ่าย
คนที่รักกันมาก ๆ ยังต้องทะเลาะกันเลย ยิ่งทะเลากัน ก็ยิ่งเข้าใจกัน
ผมก็คนหนึ่ง ที่อยากจะเสี่ยงกับสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่า ผมก็ต้องยอมรับมัน
ทำไมชีวิตมันถึงเป็นแบบนี้
ผมหวังว่าผมจะเข้มแข็งขึ้น
หรือมันอาจจะเป็นอีกอย่างคือ
ผมจะกลัวมากขึ้น
กลัวที่จะรู้จักใครมาก ๆ ใกล้ชิดใครมาก ๆ
กลัวที่จะให้ความไว้วางใจใคร
ผมไม่รู้สึกเลยว่าใครจะรักผมจริง
ผมอยากรู้สึกว่าถูกรัก รู้สึกได้เอง
อยากมีความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของตัวเอง ไม่ใช่จากการบอกกล่าวจากคนอื่น
แม่ส่งอีเมลล์หาผม
รัก
ผมจะไม่โทรหาเธออีกแล้ว
ปวดร้าว
ผมร้องไห้ ผมอ่อนแอ
ผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับเธอคนนี้ไว้ในบล็อกนี้ แต่ผมไม่พับบลิช และคงไม่มีวันพับบลิช
นี่เป็นการกระทำที่เป็นเหตุผล
เหตุผลที่ย่ำยี บดขยี้อารมณ์ความรู้สึกผมมาก ๆ
นี่ไง ผมทำตามเหตุผลแล้ว
ส่วนอารมณ์...เราก็อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย
เมื่อทำตามเหตุผล อารมณ์ก็ไร้ความหมาย
การให้ความใกล้ชิดกับใครสักคนหนึ่ง ความเจ็บปวดเป็นราคาที่คุณต้องจ่าย
คนที่รักกันมาก ๆ ยังต้องทะเลาะกันเลย ยิ่งทะเลากัน ก็ยิ่งเข้าใจกัน
ผมก็คนหนึ่ง ที่อยากจะเสี่ยงกับสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่า ผมก็ต้องยอมรับมัน
ทำไมชีวิตมันถึงเป็นแบบนี้
ผมหวังว่าผมจะเข้มแข็งขึ้น
หรือมันอาจจะเป็นอีกอย่างคือ
ผมจะกลัวมากขึ้น
กลัวที่จะรู้จักใครมาก ๆ ใกล้ชิดใครมาก ๆ
กลัวที่จะให้ความไว้วางใจใคร
ผมไม่รู้สึกเลยว่าใครจะรักผมจริง
ผมอยากรู้สึกว่าถูกรัก รู้สึกได้เอง
อยากมีความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของตัวเอง ไม่ใช่จากการบอกกล่าวจากคนอื่น
แม่ส่งอีเมลล์หาผม
ปีใหม่นี้ ลูกสบายดีอยู่ไหม? ไม่ได้กลับบ้านแม่คิดถึงอยู่ และเป็นห่วงด้วย เกรงจะเหงา แต่แม่+พ่อ+น้องก็ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านเรานั่นแหละจ้ะ
คิดถึงและเป็นห่วง
ผมตอบกลับไป
เหมือนเดิม ขาดกำลังใจในการดำเนินชีวิตอะแม่ รู้สึกไม่มั่นคง กลัวไปหมดเลย เฮ้ออ..
แม่ตอบกลับมา
ลูกรักกำลังใจ ใครๆให้เป็นล้านก็ไม่เท่าเราให้ตัวเองนะลูก ลูกแม่เป็นคนดี+เก่ง อย่ากลัวที่จะดำเนินชีวิต ลูกมีแม่+พ่อ น้อง น้า ที่รักและเป็นกำลังใจและจะคอยดูแล+ช่วยเหลือ แม่สัญญาว่าจะดูแลลูกจนชีวิ ตจะหาไม่ วันที่ 12 ถ้าไปหาหมอมาแล้ว แม่จะโทร.หา ถ้าหมอให้กินยา แม่ก็อยากให้ลูกลองกินดู เพราะว่ายาจะช่วยปรับสารเคมีในสมองเราได้นะ
ผมอยากจะเชื่อในสิ่งที่แม่พูด แต่ผมก็คลางแคลงใจ ผมรู้สึกไม่มั่นคง
ใช่ ผมกลัว
กลัวไม่มีใครรัก
ผมจะมีค่าพอให้ใครมารัก
อาจารย์ที่ปรึกษาคนก่อนก็ทิ้งผมไป
เธอคนนั้น ก็ทิ้งผมไป
ผมกลัวถูกทิ้ง
Friday, January 7, 2011
ชาเย็น
ต้องกินชาเย็น จะได้เป็นคนเย็นชา..ซะบ้าง
Forword Mail ที่ attach ไฟล์ powerpoint
แม่ชอบส่ง FW mail ที่มันจะให้ดูในไฟล์พาวเวอร์พอยท์อะ
เราขี้เกียจ ไม่เคยเปิดดูเลย
แล้วก็ไอ่พวกไฟล์ avi อะไรทั้งหลายแหล่อีก
ขี้เกียจโหลดแล้วเปิดดู รู้ไว้ซะ
วันนี้พ่อก็ส่งมาทำนองเดียวกัน เห่อ..
มันก็มาทำนองเนี้ย ให้กำลังใจ ข้อคิดชีวิต นั่นนี่นู่น.... เบื่อ
และยิ่งเบื่อ ถ้าเมลล์นั้นลงท้ายว่า คุณไม่มีหัวใจถ้าไม่ส่งต่อ บลาบลาบลา เหมือนมันจะด่าเรา รึไงฮะ!
ขี้เกียจโหลด โหลดมาแล้วเปิด ก็เซ็งอีก เป็นไฟล์ที่มันค่อย ๆ ขึ้น ค่อย ๆ โชว์ตัวหนังสือ เราบังคับการแสดงผลเองไม่ได้ แล้วมันก็มาเต็มหน้าจอเรา เหมือนบังคับว่า มึงต้องดูกูให้เสร็จก่อน ถึงจะไปดูหน้าอื่นได้ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องดูไฟล์นั้นอีกนานไหมด้วย
เราชอบที่จะรู้ว่า สิ่งนั้น หรือกระบวนการนั้น มันมีเยอะแค่ไหน และใช้เวลานานแค่ไหน
ตอนไปทำ psychological test วันนั้นเราก็ถามเค้า แต่เค้าไม่บอก ธ่อ..
แล้วโยงมาเรื่องเรียนนี่เหมือนกัน คนถาม จะจบเมื่อไหร่ จะจบเมื่อไหร่ จะจบเมื่อไหร่
กูไม่รู้โว้ยยยยย....
เซ็ง พูดไม่เพราะ เสียภาพพจน์....โว้ยยยย
เราขี้เกียจ ไม่เคยเปิดดูเลย
แล้วก็ไอ่พวกไฟล์ avi อะไรทั้งหลายแหล่อีก
ขี้เกียจโหลดแล้วเปิดดู รู้ไว้ซะ
วันนี้พ่อก็ส่งมาทำนองเดียวกัน เห่อ..
มันก็มาทำนองเนี้ย ให้กำลังใจ ข้อคิดชีวิต นั่นนี่นู่น.... เบื่อ
และยิ่งเบื่อ ถ้าเมลล์นั้นลงท้ายว่า คุณไม่มีหัวใจถ้าไม่ส่งต่อ บลาบลาบลา เหมือนมันจะด่าเรา รึไงฮะ!
ขี้เกียจโหลด โหลดมาแล้วเปิด ก็เซ็งอีก เป็นไฟล์ที่มันค่อย ๆ ขึ้น ค่อย ๆ โชว์ตัวหนังสือ เราบังคับการแสดงผลเองไม่ได้ แล้วมันก็มาเต็มหน้าจอเรา เหมือนบังคับว่า มึงต้องดูกูให้เสร็จก่อน ถึงจะไปดูหน้าอื่นได้ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องดูไฟล์นั้นอีกนานไหมด้วย
เราชอบที่จะรู้ว่า สิ่งนั้น หรือกระบวนการนั้น มันมีเยอะแค่ไหน และใช้เวลานานแค่ไหน
ตอนไปทำ psychological test วันนั้นเราก็ถามเค้า แต่เค้าไม่บอก ธ่อ..
แล้วโยงมาเรื่องเรียนนี่เหมือนกัน คนถาม จะจบเมื่อไหร่ จะจบเมื่อไหร่ จะจบเมื่อไหร่
กูไม่รู้โว้ยยยยย....
เซ็ง พูดไม่เพราะ เสียภาพพจน์....โว้ยยยย
Thursday, January 6, 2011
คนล่าฝัน
ฟังดี ๆ ขนลุกเลย
เนื้อเพลงดีมาก ๆ
แล้ว เรามีความฝันอะไร
ก็ต้องค้นหา
ถ้าเราไม่ค้นหาเอง ใครจะมาค้นให้เรา
ไม่ค้นก็ไม่เจอ
ดูคนอื่นเดินตามความฝัน
เผื่อเราจะ get อะไรบ้าง
เนื้อเพลงดีมาก ๆ
แล้ว เรามีความฝันอะไร
ก็ต้องค้นหา
ถ้าเราไม่ค้นหาเอง ใครจะมาค้นให้เรา
ไม่ค้นก็ไม่เจอ
ดูคนอื่นเดินตามความฝัน
เผื่อเราจะ get อะไรบ้าง
Wednesday, January 5, 2011
ออกกำลังกายซะบ้าง
วัน ๆ นั่งเฉย ๆ มันเมื่อย
นอนก็ยังเมื่อย
อุตส่าห์จะไปว่ายน้ำ
กะไปจ้วง ๆๆๆ ซัก 30 รอบ
ไปถึง สระปิดถึงวันที่ 13 เซ็งเลย
ไม่เป็นไรถือว่าไปขี่รถเล่นบนถนน 1 ชั่วโมง
กลับมาแต่วแน๊วหน้าคอมต่อ
It's rather like exercise, the more you exercise, the more energy you have to exercise.
Mike Wells
นอนก็ยังเมื่อย
อุตส่าห์จะไปว่ายน้ำ
กะไปจ้วง ๆๆๆ ซัก 30 รอบ
ไปถึง สระปิดถึงวันที่ 13 เซ็งเลย
ไม่เป็นไรถือว่าไปขี่รถเล่นบนถนน 1 ชั่วโมง
กลับมาแต่วแน๊วหน้าคอมต่อ
It's rather like exercise, the more you exercise, the more energy you have to exercise.
Mike Wells
Saturday, January 1, 2011
The World is Still the Same
1/1/2011
โลกของฉันยังเหมือนเดิม
ตื่นมา
เล่นคอม
ปวดหลัง
เดี๋ยวจะไปอาบน้ำ
หาข้าวกิน
วันนี้อยากกินข้าวซอย
วันนี้วันเสาร์สินะ
ร้านกาแฟ จะมีคนขายคนไหนนะ
เซ็ง ไม่ชอบการเผชิญหน้า
ช่วงนี้มีแต่ความกลัว
โลกของฉันยังเหมือนเดิม
ตื่นมา
เล่นคอม
ปวดหลัง
เดี๋ยวจะไปอาบน้ำ
หาข้าวกิน
วันนี้อยากกินข้าวซอย
วันนี้วันเสาร์สินะ
ร้านกาแฟ จะมีคนขายคนไหนนะ
เซ็ง ไม่ชอบการเผชิญหน้า
ช่วงนี้มีแต่ความกลัว
Subscribe to:
Posts (Atom)