Pages

Thursday, December 29, 2016

Transit tour ที่เกาหลี

ช่วงก่อนวันจะไปอเมกา ว้าวุ่นมาก คำนวณว่าตังค์จะพอมั้ย จะนอนที่ไหน เซิช airbnb booking.com อ่านรีวิวที่ tripadvisor โฮสเทลนั้นเป็นยังไง ฯลฯ อ่านรีวิวนั่นนี่ พันทิป บล็อก อ่านไปทั่ว เป็นช่วงเวลาสะสมข้อมูล จะจองเลยมั้ย หรือจะงั้น จะงี้ หลับดึก และไม่ค่อยมีสติ หลุดโฟกัสง่าย

เราต้องรอเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลี 9 ชั่วโมง ไปถึงหกโมง บินอีกทีสี่โมงเย็น ก็เซิชว่าสนามบินอินชอนมีอะไรบ้าง ปรากฏว่ามีทรานสิททัวร์ของสนามบิน สำหรับคนที่รอเครื่องนาน ไปทัวร์ในเกาหลีได้ เราก็คิดว่า เอาเนี๊ยแหละ ไปทัวร์ฆ่าเวลา จะได้เหยียบเกาหลีด้วย

คืนวันบิน ไปอย่างเรียบง่าย ให้เพื่อนไปส่ง 1 คนที่หน้าสนามบิน เพราะบินดึกเลยไม่อยากให้ใครไปส่ง ออกจากเชียงใหม่ประมาณเที่ยงคืน ใช้เวลาบิน 4.55 ชั่วโมง ก็พยายามหลับ จะได้มีแรงไปเที่ยวเกาหลี เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าไทยไป 2 ชั่วโมง

เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดี แถวหน้ามีเด็ก! เด็กทารกซึ่งร้องไห้แบบกรี๊ด ๆ ฟังแล้วจี๊ดเข้าไปในโพรงสมองเลยอะ
สัจธรรมที่คิดได้คือ มีเกิดก็ต้องมีดับ มีร้องไห้ ก็ต้องมีหยุดร้องไห้ ก็พยายามทำใจเย็นไว้

แต่สิ่งที่ช่วยชีวิตอีกอย่าง ซึ่งคุณแอร์ผู้แสนน่ารักเอามาให้ก็คือ

เอียร์ปลั๊กช่วยชีวิต แต่เอาอุดหูแล้วมันหูอื้อ ๆ ไงไม่รู้ แต่ก็อุดไป
สิ่งอำนวยความสะดวก แต่เราไม่ดูหรอกนะ ดูแล้วจะมึนหัว

ตีสาม โดนปลุกมากินข้าว! เวลาไทยไง แต่เวลาเกาหลีก็ตีห้าแล้ว



ก็ต้องกิน อ่านในเน็ตเจอมาอันนึงเค้าบอกว่า ถ้าไม่อยากเจ็ทแล็กมาก จะไปประเทศไหนให้ปรับเวลาเป็นที่นั่นเลย ไม่ต้องมาคิดแล้วว่าเวลาไทยเท่าไหร่ เราก็เลย โอเค่ กิน!

กาแฟขมมาก แหลกเกือบไม่ลง กินแค่ออมเล็ต ผัก โยเกิร์ต ก็อิ่มละ แตงโมอร่อยดี ชื่นใจ

มาสนามบินอินชอนครั้งแรก


ว้าว ๆๆ อินชอน
ไหน โอ้ มีโต๊ะทรานสิททัวร์อินฟอเมชั่น ไปถามหน่อยซิ ด้วยความที่เราก็เป็นคนรอบคอบ ก็เลยจองในเน็ตไว้ก่อน(ก็กลัวมาแล้วไม่ได้ไป) ก็เอาเลขจองที่แคปไว้ในโทรศัพท์ให้เค้าดู

ได้ใบมากรอก
ปรากฏว่า ชั้ลต้องไปต่อแถวตรวจคนเข้าเมือง แล้วต้องไปที่โต๊ะทรานสิททัวร์ประตูแปด อะไรซักอย่าง ฟังเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลย เอาวะ ต่อแถว!

สิ่งที่เห็น....

ต้องไปให้ทันก่อน 7.45น. กิ๊สสสส
แล้วแถวยาวมาก ๆๆๆ นี่ก็เจ็ดโมงกว่าแล้ว แต่ก็ต่อไป เคยตกเครื่องมาแล้วเพราะตรวจคนเข้าเมืองเนี่ยแหละ ระหว่างต่อแถวก็กรอกใบบัตรขาเข้าไป ตรงที่อยู่เขียนว่า transit tour(จนท.เค้าเขียนให้อยู่ก่อนแล้ว) ต่อแถวไปก็ลุ้นไป สนามบินก็ไม่คุ้นเคย เพิ่งเคยมา

ก็ผ่านตม.มาได้อย่างฉิวเฉียด 7.40 ได้ วิ่งลงมาชั้นหนึ่ง เหลียวซ้ายเหลียวขวาตรงที่เอากระเป๋า เดินวนไปวนมา ไหนวะประตูแปด เดินไปถามจนท. เค้าบอกเดินออกไปอีก เอ้าาา ตรูเสียเวลาเดินวนไปวนมาเนี๊ย

7.45 น. รีบวิ่งไปตรงเคาน์เตอร์ทรานสิททัวร์เลยจ้า เอาใบให้เค้า จ่ายตังค์ $10 เป็นค่าอาหารกลางวัน $7 แล้วก็ประกันอีก $3 เค้าบอกว่า everybody is waiting for you แล้วก็มีเจ๊ผู้หญิงเสื้อดำบอกว่า follow me เราก็เดินตามเค้าไปเลยจ้า สรุปว่าทัน ดีใจมาก

ตอนแรกคิดด่าจะชิล ๆ เพราะว่าเครื่องลงหกครึ่ง ไปทัวร์แปดโมง โอ้ย เหลือ ๆ ปรากฏว่า มีต่อแถวตม.เนี่ยแหละ เกือบไม่ได้ไป

เดินออกประตูสนามบินไปขึ้นรถทัวร์ ลมเย็นเกาหลีปะทะหน้า ว้าวววว เกาหลีหนาวจุงงงงง

นั่งรถทัวร์ไปโซล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนะ เราเลือก city tour 1 ใช้เวลา 5 ชั่วโมง จะได้ไป Gyeongbok palace กับถนนอินซาดง (Insadong street)

ไปเดินวังก่อน

มันก็วังอะนะ มีตึกหลังคาทรงอย่างนี้ทั้งนั้น
เงี้ย วัง

ไกด์จะกางร่มสีส้ม จะได้ดูไว้เป็นเครื่องหมาย กันเราหลง จะได้มองหา

แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันที่ร้านทัวร์จัดให้ เค้าจะมีให้เราเลือก 3 เมนู เราเลือกอันที่ 2 มันเรียกว่าอะไรจำไม่ได้ละ นั่งกันกันกับเพื่อน ๆ ที่ไปทัวร์ด้วยกันนั่นแหละ ก็ถือโอกาสได้สปีคอิงลิช แต่ละคนก็มาจากแต่ละที่จริง ๆ

แล้วก็เดินเล่นถนนอินซาดง นัดเวลากลับกันตอน 11.35น. เพื่อกลับสนามบิน

กะว่าจะไปหาชาเขียวกิน ก็เลยสุ่ม ๆ เอาซักร้านนึง

มันก็ชาเขียวอะนะ แก้วนี้ถ้าซื้อแบบไม่นั่งกินที่ร้านจะได้ลดราคา
อันนี้ 6700 krw ใช้บัตรรูดเอา ไม่ได้แลกตังค์มา เวิร์คอยู่
ก็เดิน ๆ ดู ก็เป็นถนนที่มีงานแฮนด์เมดขายเยอะอะนะ

ขนมรูปขรี้ ไม่ได้ซื้อนะ ดูเฉย ๆ

เสร็จแล้วก็เดินกลับรถทัวร์ ลุงคนขับบอก no no no coffee เอ้า ที่ซื้อชาเขียวมากินนี่เอาขึ้นรถไม่ได้เหรอ ก็เลยต้องกินให้หมด

ถึงเวลารถออก ด้วยชาเขียวที่กินเข้าไป จึงปวดฉี่ แต่ก็ต้องอดทน จนมาถึงสนามบิน ก็ไปฉี่

และก็ต้องต่อคิวเข้าไปสนามบินชั้นในอีก นี่อุตส่าห์เตรียมเสื้อผ้ามากะว่ามาลองอาบน้ำนะ เซิชเน็ตมาเค้าบอกว่า ชั้นสี่ สนามบินอินชอนมีที่อาบน้ำ แต่เราก็คงขอบาย ขี้เกียจแล้ว

อาบแบบเช็ดตัวทิชชู่เปียกเอาเฉย ๆ ก็ละกัน แล้วก็ไปรอหน้าเกตเลยดีกว่า ซึ่งกว่าจะเดินไปถึงเกต แบบว่า สนามบินก็กว้างสุด ๆ อะ เดินแล้วเดินอีก ในที่สุดก็มาถึงที่นั่งรอ มีมุมให้เสียบชาร์ตมือถือได้ด้วย และอินเตอร์เน็ตแรงดีจริง ๆ เอ้อ ตอนเข้าไปโซลก็มีพับบลิกไวไฟให้ใช้ทั่วไปเลยอะ ดีจริง ๆ อัพเดทได้ตลอดเว

จบที่เกาหลีแต่เพียงเท่านี้ รอขึ้นเครื่องไปซานฟราน

Wednesday, December 28, 2016

มาแล้ว - There you go

ในที่สุด ก็มาจนได้

เริ่มจากคำนวณว่ามีเงินพอไหม อยากมาอยู่อเมกานาน ๆ หน่อย แล้วก็เลือกเมืองที่มา ตอนแรกอยากไปเค้าท์ดาวน์ที่ไทม์แสควร์ นิวยอร์ค แต่ว่า อ่าน ๆ ดูแล้วก็แบบว่าป๊อดอะ เมืองใหญ่ แล้วเราไปคนเดียวครั้งแรก แลดูจะน่ากลัว ก็เลยหาดูเจอเมืองซานฟรานซิสโก เป็นเมืองเล็ก ๆ การเดินทางทั่วถึง อากาศก็ดี เราก็เลยเอาวะ เมืองนี้แหละ

ผ่านตม.แล้ว เย่ ๆ


บอกพ่อแม่ว่าจะมาอเมกาเดือนนึงนะ พ่อแม่ก็ไม่เห็นด้วย แต่เราจะมาอะ เราอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเราจะเอาชีวิตรอดได้นะ เราอยากขยายคอมฟอร์ตโซนของเรา เราอยู่ไทย มันก็เรื่อย ๆ เอื่อย ๆ มากเลย ทำงาน กลับบ้าน มีชีวิตไปวัน ๆ รู้สึกชีวิตมันน่าเบื่อและไร้ค่า(อาจจะพูดเว่อร์ไปหน่อย แต่มันอารมณ์ประมาณนั้นอะ เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ) และเราก็มาคิดว่า ถ้าอีก 5 ปี 10 ปีผ่านไป ถ้าเรามองย้อนกลับมาว่า เมื่อห้าปีที่แล้วไปเมกามาเดือนนึง มันก็คงจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ผ่านมาในชีวิต การมาของเราครั้งนี้ อาจจะได้อะไรหรือไม่ได้อะไรก็ได้ แต่ถ้าไม่มา มันก็คงยังติดอยู่ในใจว่า อยากมา อะไรงี้

เราเริ่มหาที่ัพักก่อน พอได้ที่พัก ก็หาตั๋วเครื่องบิน

ซื้อตั๋วเครื่องบิน Korean air ราคา 32,525 บาท บิน เชียงใหม่ > อินชอน > ซานฟราน

และการเดินทางก็ได้เริ่มต้นขึ้นฮะ ทั่ลผู้ชม

Stock Images

My latest images for sale at Shutterstock:

My most popular images for sale at Shutterstock: