บอกไปแล้วว่าจะออกงานเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา
ในความคิดเรา ไม่ได้บอกไปเพราะอารมณ์อย่างเดียว หรือเหตุการณ์เดียว
หลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา
มันถึงจุดอิ่มตัวละ ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไป เราก็ไม่มีความสุข
ออกเร็วกว่านี้ก็คงเสียดายที่ไม่ได้เห็นร้านดำเนินต่อไป ออกช้ากว่านี้อาจจะเอาแต่ตัวมาทำงานไม่ได้เอาจิตวิญญาณมาด้วย
จากวันนี้จนถึงสิ้นเดือน เราก็จะทำงานอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำให้ได้
จะอาสาช่วยดีมั้ยน้อ... บางทีอาสาไปแล้วเค้าไม่ต้องการก็จะเป็นการทำงานแบบที่เค้าไม่ได้ขอให้ช่วยไป กลายเป็นผิดที่เราเสนอตัวอีก เอ้า ก็ว่ากันไป
ตอนแรกทำงานไม่หวังเงินเดือน
แต่พออยู่ ๆ ไปลองมาดูว่าเงินเดือนขนาดนี้เราอยู่ได้ไหม คำตอบคือไม่ได้
แล้วก็รู้สึกว่าทำงานเกินเงินเดือน(เราอาจจะคิดว่าตัวเองเก่ง หรือเป็นคนดีหรือทุ่มเทมากไป อาจจะพลาดที่ความคิดเราเองก็ได้นะ) เราอาจเอาใจให้มากไป แต่สิ่งที่ตอบแทนมามันไม่สมน้ำสมเนื้อ เราคงเฟล
ทัศนคติของเจ้านาย เขาบอกว่าเขาเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ แต่เขาเองก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองซักเท่าไหร่ อาจจะเปลี่ยนแบบช้า ๆ ก็ได้ ก็หวังว่าเขาจะเป็นคนในแบบที่เขาต้องการได้ในอนาคต
เรื่องของระบบ ระบบ ระบบ ไม่มี ไม่สำเร็จ ไม่สมบูรณ์ ทำให้เรารู้ว่า ระบบ มันสำคัญจริง ๆ
การเติบโตของร้าน มันโตเร็วเกินที่จะหาคนมาซัพพอร์ต การกระจายงาน การส่งมอบงาน ไม่ดีพอ
ทัศนคติที่ว่า ทุกคนไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง มันอาจจะถูกถ้าเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก แต่นี่เรามองว่าเรื่องที่ควรรู้ มันก็ต้องรู้ดิ หรือว่าเจ้านายโดนคำสาปของความรู้บังอยู่ ไม่ค่อยอธิบายแล้วเมคชัวร์ว่าลูกน้องเข้าใจจริง ๆ จะออกแนวขี้เกียจอธิบาย ทำไมต้องให้พูดหลายรอบ เอ้ว!
ร้านก็คงดำเนินต่อไปได้ด้วยตัวของมันแหละ ยังไงมันก็คงมีทางไปให้สุดของมัน
เราก็ต้องหาทางชีวิตเราใหม่อีก ที่ไม่ใช่เส้นทางทางกับร้านนี้
จะทำอะไรต่อดีนะนี่