tag:blogger.com,1999:blog-91778336366367850362024-02-07T10:36:42.339+07:00NONGPIMMY - I'm just bloggingI love living life. I am happy.nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.comBlogger771125tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-32154537982361310582023-07-27T11:26:00.001+07:002023-07-27T11:26:06.684+07:00ตัวคนเดียวอาจส่งผลให้ไม่กล้าทำเต็มที่<p> เมื่อเช้าก็นั่งคิดว่า การที่เราอยู่ตัวคนเดียว มันทำให้เราไม่กล้าทำเต็มที่ เพราะถ้าพลาดมา เราต้องดูแลตัวเอง</p><p>ยกตัวอย่างเรื่องกีฬา ไม่กล้าเล่นหรือซ้อมเต็มที่ เพราะถ้าบาดเจ็บมา ก็เป็นเราเองที่ต้องดูแลตัวเอง</p><p>จะทำอะไรก็ต้องเตรียมเอง เตรียมอาหารเอง ซักผ้าเอง ทำความสะอาดบ้านเอง ทำงานหาเงินมาทำสิ่งต่าง ๆ เอง</p><p><br /></p><p>วัน ๆ ไม่มีคนพูดคุย ต้องคิดเอง วน ๆ ในหัว ว่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ไม่มีเสียงเชียร์ หรือเสียงรั้ง จากคนข้างตัว</p><p><br /></p><p>จะว่าไปก็อิสระดี จริง ๆ มันก็ดีนะ แค่มันไม่มีความเห็นจากคนอื่น ไม่มีคำปลอบใจ ไม่มีกำลังใจ แต่ก็ดีที่ไม่มีคำบั่นทอนจิตใจด้วยเหมือนกัน</p><p><br /></p><p>น่าจะอย่างที่เขาว่าจริง ๆ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า</p><p><br /></p><p>การมีคู่คือ มีความสุขเบื้องต้น มีความทุกข์เบื้องปลาย</p><p>การเป็นโสดคือ มีความ....ยังไงดี ทรงตัวเบื้องต้นไปจนถึงเบื้องปลาย แก่มาก็หาทางจัดการชีวิตเอง หาทางเดินทางเอง กินเอง รักษาตัวเอง แล้วก็ตาย</p><p><br /></p><p>ถ้าพ่อแม่ตาย ถ้าเราแก่กว่านี้ จะเหงาไหมนะ เราจะอยู่ได้ได้ยังไงนะ เราจะมีกินมีใช้ไปจนตายไหมนะ แล้วเราจะตายตอนอายุเท่าไหร่ จะเป็นอะไรตายนะ</p><p><br /></p><p>คิดแล้วก็หาจุดจบไม่ได้</p><p><br /></p><p>วันนี้ก็นั่งทำงานหน้าคอมเหมือนเดิมก็ละกัน แล้วตอนเย็นจะไปเล่นแบด ก็ยังดีมีแบดมินตันให้เล่นกะชาวบ้าน ช่วงนี้เล่นแบดก็เพอฟอแมนซ์ไม่ดีอย่างใจคิด อยากจะชนะ อยากจะตีได้ แต่ทำไม่ได้ ก็เป็นทุกข์อีก ต้องปรับที่จิตใจว่า เรามาออกกำลังกาย ฟู่ววววว</p><p><br /></p><p>คีย์บอร์ดแอปเปิ้ลที่ซื้อมือสองมา ปุ่มไม่ดี เซ็ง คิดว่าซื้อราคาสูงแบบไม่ต่อน่าจะดี แต่ก็ไม่ดี ซ่อมไม่ได้ด้วย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีแบบไม่ดีมาก ไม่ดีแค่นิดเดียว แต่ด้วยความเพอเฟคชั่นนิสอีกละ มันเป็นปุ่มที่ต้องกดด้วย ก็เลยซื้อใหม่ เสียเงินสองรอบเลย สรุปว่าได้คีย์บอร์ดใหม่แล้ว พิมพ์ได้ดีเหมือนเดิม ทีนี้ก็จะต้องหาทางขายคีย์บอร์ดอีกอันที่มีด้วย</p><p><br /></p><p>รู้สึกความสุขหายไป ต้องกอบกู้ตัวเองก่อนนะ หลายสิ่งอย่าง</p>nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-21120254789673710792023-02-15T15:38:00.003+07:002023-02-15T15:38:37.998+07:00โดเมนเนมหมดอายุ - Expired domain name<p> ร้อยวันพันปี เรามาเขียนบล็อกน้อยลง</p><p>ตอนแรกเอาไว้บ่นไง ตอนนี้ไม่บ่น หรือไปบ่นทางอื่นหว่า</p><p>อีเมลเข้ามาว่า โดเมนเนมหมดอายุ เราก็ต่อไป เอาวะ ต่อ ๆ ไปก่อน รักษาชื่อนี้ไว้</p><p>เขียนอะไรไม่เขียนอะไรค่อยว่ากันอีกที สวัสดีฮะ</p>nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-87424769196403339152021-12-12T09:15:00.002+07:002021-12-12T09:15:29.715+07:00จะหมดปีแล้วไม่ได้เขียนเลย - almost at the end of the year<p> ปีนี้ ไปนิวยอร์กอีกแล้ว ชีวิตดีจริง ๆ ก็คือว่าไปฉีดวัคซีนนั่นเอง ฮ่าาา</p><p>กลับมาตอนสิงหา เริ่มสนใจคริปโต</p><p>ต่อมาเปิดเพจ เปิดหน้า แชร์เรื่องสต็อกโฟโต้</p><p>ปีนี้รายได้ทรง ๆ ที่ห้าพัน 🙏🏻 อยากได้เพิ่มอีก อยากขับรถเบ๊นซ์</p><p>ปีก่อนคิดว่า kdp จะช่วยอัพรายได้ แต่ก็ยัง แต่ก็ทำอยู่</p><p>ปีนี้คิดว่าคริปโตจะช่วยเพิ่มรายได้ แต่ก็ต้องดูกันยาว ๆ นะ</p><p>ไปเล่นเกม farmers world นะ เป็นเกษตรกรนะ ที่ราบสูงเบา ๆ นะ 😆</p><p>ดื่มไวน์มากขึ้น ตอนนี้รู้สึกว่าจะรู้จักไวน์ cab ทาง napa valley ว่ารสมันจะประมาณนี้นะ</p><p>อยากรู้ว่าจะได้รถเบนซ์จริง ๆ ไหมนะ ชาตินี้ 😊</p>nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-69093149591104480742020-10-17T12:10:00.007+07:002020-10-17T12:10:53.584+07:00ห้าหกวันก่อนปวดหลัง - back pain<p> วันเสาร์ที่แล้วตอนเย็น ๆ เริ่ม ๆ จะปวดหลัง ก็ไปเล่นเซิฟสเก็ตตามปกติ วันศุกร์ก็ยังไปโยคะอยู่เลย</p><p>วันเสาร์ดื่มเบียร์ไปสองขวดเล็ก คิดว่าจะช่วยให้ผ่อนคลายและอยากกินให้หมดเพราะซื้อมานานแล้ว กลัวเบียร์บูด ฮ่าาาาา</p><p>เช้าวันอาทิตย์ปวดหลังมาก แบบตอนนั่งชักโครกเวลาขยับตัวมันจี๊ด ๆ จื๊ด ๆ เหนื่อยเลย ถ้าไม่ถูกมุมมันจะเจ็บ</p><p>นอนพัก นั่งไม่ค่อยได้</p><p>วันต่อ ๆ มาเอวเบี้ยวเลย เคยเป็นแบบนี้มาสองสามครั้ง</p><p>ชีวิตน้อ ร่างกายมันเสื่อม ห้ามไม่ได้เลยจริง ๆ</p><p>กินยาคลายกล้ามเนื้อที่มีไปก่อน ยังดี มีอยู่ แต่ก็ไม่ชอบกินยา ไม่อยากกินยามากในชีวิตนี้ ชอบให้หายเองมากกว่า แต่อันนี้มันรบกวนชีวิตประจำวันละ</p><p>นั่ง ๆ นอน ๆ ไป อาทิตย์ จันทร์</p><p>ต่อมาวันอังคาร ลองใช้แอพชื่อรักษา โหลดมาจะวีดีโอคุยกับหมอ เติมเงินไป 200 หมอออโธปิดิกส์ไม่ว่างคุยเลย เลยคุยกับเภสัชบอกว่าปวดหลัง สั่งยาทางแอพก็ได้ ไม่ต้องคุยหมอละ ปรากฏว่า ยาจะส่งเคอรี่มา อีก 2-3 วันได้ โธ่ แต่ก็สั่งไปเพราะว่าเติมเงินไปแล้ว สั่งยากับพลาสเตอร์แปะปวดหลังไป 185 บาท เหลือตังค์ค้างในแอพอีก 15 บาท ไม่เสียค่าส่งด้วย นับว่าดี ถ้าอยู่กทม.ก็น่าจะได้ยาภายใน 2 ชั่วโมงแล้วแหละ ตามที่แอพว่าไว้ เนี่ยแหละ ความเจริญยังมาไม่ถึง</p><p>เลยเอาวะ ลากสังขารขับรถไปร้านยาสี่พี่น้อง ร้านยาใกล้บ้าน จำได้เพื่อนบอกว่าดี ซื้อยากับพลาสเตอร์ไปอีกร้อยกว่าบาท</p><p>ราคายาในแอพกับที่ร้านนี้ก็พอ ๆ กันเลย กลับมากินข้าว กินยา</p><p>รักษาตัวเองไป</p><p>ในการนี้มีความโชคดีคือ โชคดีที่มีเงิน โชคดีที่มีแกรบฟู้ด ฟู้ดแพนด้า ฯลฯ</p><p>โชคดีที่มีสติเข้าใจโลกอยู่ เลยไม่ทุกข์มากเท่าไหร่ แต่ก็ทุกข์อยู่ คนเราเนอะ</p><p>เล่าสู่กันฟังไปนะ</p><p>เรื่องมีเยอะ แต่เล่าไม่เยอะ เล่านิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็เล่าอยู่ สวัสดี</p>nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-54320364627605386942020-01-02T00:16:00.000+07:002020-01-02T00:16:22.278+07:00Year 2020เมื่อวานไปเค้าดาวที่ไทม์สแควร์<br />
<br />
เราทำได้จริง ๆ ไปถึงตั้งแต่บ่ายสอง มันก็ไม่ยากจนเกินไปนะ เป็นเพราะเตรียมตัวมาดี อ่านมา ศึกษามา พอถึงเวลาจริงก็ราบรื่นตามนั้น ภูมิใจในตัวเองจริง ๆ และนี่ก็เป็นอีก 1 หลักฐานที่พิสูจน์ว่า คนเรา ถ้าอยากได้อะไร มันได้หมดแหละ<br />
<br />
2015 ทำร้านกาแฟ อิลลัสเตรชั่น<br />
2016 อิลลัสเตรชัน ไอคอน<br />
2017 ไอคอน<br />
2018 ไอคอน ฟอนต์<br />
2019 ทำไอคอน อิลลัสเตรชั่น วีดีโอ<br />
2020 ว่าจะทำคานวาnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-125304263982371712019-12-10T11:49:00.002+07:002019-12-10T11:49:22.558+07:00วันฝนตก - rainy day in NYCวันนี้ฝนตก พรุ่งนี้ฝนตก มะรืนหิมะตก ตามพยากรณ์อากาศน่ะนะ<br />
<br />
วันนี้เลยอยู่บ้านทั้งวัน ตอนเช้าออกไปกินกาแฟกะหารเช้าที่ร้านหัวมุมถนน ห้าบาท<br />
<br />
กลับมาอยู่บ้าน กลางวันกินขนมปังกะองุ่นในตู้เย็น<br />
<br />
ตอนเย็นกินสเต็กที่เหลือเมื่อวานกะเบียร์หนึ่งกระป๋อง<br />
<br />
วันนี้ดูยูทูบ เกี่ยวกับนิวยอร์ค ภาษาอังกฤษ ทำรูป อ่านอะไรไปเรื่อยเลย<br />
<br />
หมดไปอีกหนึ่งวันในนิวยอร์ค ขอบพระคุณnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-27076785804241597122019-12-05T01:20:00.003+07:002019-12-05T01:20:57.612+07:00มานั่งห้องสมุดสาธารณะ - Public library in Queensสิ่งที่ดีของแถวที่อยู่คือมีห้องสมุดสาธารณะที่นั่งทำงานได้ มีไวไฟ มีปลั๊ก มาเดินดูวันก่อนก็ดูหน่วยก้านดี และได้มาลองนั่งจริง ๆ เมื่อวานนี้ตอนสักบ่ายสอง<br />
<br />
พอบ่ายสามเด็กเลิกเรียนเท่านั้นแหละ มีเด็กเข้ามานั่งห้องสุดละก็ yelling กัน แบบส่งเสียงดังอะ เด็กเปรตจริง ๆ และก็มีคนอเมริกันบางคนชอบพูดคนเดียว อะไรทำนองนี้<br />
<br />
วันนี้เลยมานั่งตอนบ่ายกว่า ว่าจะนั่งเอ็กพอร์ตวีดีโอ เดี๋ยวดูกันว่าจะเป็นไง<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEioBgvSRVbOV9JNynPMki96kDzXlPOqRGjgMWwqDm1O7l_Iyhz4oy_BydwbHTv5q4azzqVO-rFGdsCK_mMGFiEoGyDEQ3MjP2VY4Dr9vMGIf0ZwX40gKxbVbWJDAdIFrcNl1KZwx1rQ5K8/s1600/IMG_8496.JPG" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" data-original-height="1200" data-original-width="1600" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEioBgvSRVbOV9JNynPMki96kDzXlPOqRGjgMWwqDm1O7l_Iyhz4oy_BydwbHTv5q4azzqVO-rFGdsCK_mMGFiEoGyDEQ3MjP2VY4Dr9vMGIf0ZwX40gKxbVbWJDAdIFrcNl1KZwx1rQ5K8/s320/IMG_8496.JPG" width="320" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">นั่งตรงนี้</td></tr>
</tbody></table>
<br />nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-31968768242801656682019-12-03T09:08:00.003+07:002019-12-03T09:08:42.560+07:00คนนิวยอร์คกินอาหารเป็นฤดู - Eating in Seasonมีคนที่อยู่นิวยอร์คบอกมาว่างี้<br />
<br />
ฤดูหนาว คนแถวนี้จะไม่ค่อยกินสลัด จะกินราเม็ง ก๋วยเตี๋ยวอะไรงี้<br />
ฤดูร้อน จะกินสลัด กินของปิ้งย่าง<br />
<br />
ก็เป็นไปได้นะnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-1016918643790313632019-11-20T23:30:00.001+07:002019-11-20T23:30:15.713+07:00อยู่นิวยอร์คแล้ว - I'm in NYCมาเที่ยวอยู่นี่ได้ 10 วันแล้ว<br />
<br />
พบว่า<br />
<br />
มันก็คือเมืองเมืองหนึ่ง มีสถานที่ คน ของขาย ระบบการเดินทาง ฯลฯ แบบที่เมืองควรจะมี<br />
<br />
ที่สะอาดก็มี ที่สกปรกก็มี ที่บ้าน ๆ ที่หรู ๆ พิซซ่าอันละ 1 พิซซ่าอันละ 4 มีให้เลือก<br />
<br />
คนทำงานต่าง ๆ กันไป<br />
<br />
มันก็แค่นี้แหละ<br />
<br />
ตอนนี้ยังหาที่สงบ ปลอดภัย นั่งทำงานสร้างสรรค์ไม่ได้<br />
<br />
ตอนนี้ออกไปเดินดูเมืองทุกวัน เดินจนเจ็บเท้า และก็รู้สึกว่าถ้าเราจะเดิน เราจะเหนื่อยหาข้อมูลว่าวันนี้ต้องเดินไปที่ไหนอะไรยังไง และพอไปถึงที่ต่าง ๆ ก็ต้องใช้พลังสมองในการศึกษาว่าประวัติของสถานที่นี้เป็นมายังไง รู้สึกเหมือนเรียนรู้ทั้งวัน<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpKdE4GUZLh8oTxgFR2n3WUdmpgrnwTGdSOYJ1sZbvlEOrAKKeTG9NZwON4X8oEMs8tgFD8ofXZ8JvCeNz2eIRvVTDNo05y9z4T2ol1PFQI4MK51qEn7Hj_NF1uP74xoM4LMLenZr2lPM/s1600/DSC04673.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" data-original-height="1067" data-original-width="1600" height="266" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpKdE4GUZLh8oTxgFR2n3WUdmpgrnwTGdSOYJ1sZbvlEOrAKKeTG9NZwON4X8oEMs8tgFD8ofXZ8JvCeNz2eIRvVTDNo05y9z4T2ol1PFQI4MK51qEn7Hj_NF1uP74xoM4LMLenZr2lPM/s400/DSC04673.jpg" width="400" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ไฮ ๆๆ Statue of Liberty</td></tr>
</tbody></table>
<br />nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-53247433619443161402019-11-03T22:50:00.002+07:002019-11-03T22:50:44.701+07:00จะไปนิวยอร์คอาทิตย์หน้า - I will go to NYC next weekถ้าเราคิดถึงมันได้ เราก็ทำมันได้<br />
<br />
เอาว่ะ เอาจริง มาจริง จะไปนิวยอร์คละนะ<br />
<br />
วันนี้ตื่นมาด้วยความฝันแปลก ๆ รู้สึกเนือย ๆ เหมือนจะไม่สนุกทั้งวัน<br />
<br />
ตื่นมาอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เอาผ้าไปใส่เครื่อง<br />
<br />
ออกไปกินกาแฟสตาบัคส์แถวบ้าน สั่งกาแฟโคลบรูวไอริชครีมวิทคอฟฟี่เจลลี่ และครัวซองเนยมากิน กะว่าจะอ่านหนังสือเดอะสตอรี่เทลเลอร์ซีเคร็ท ก็ไม่อ่าน ไม่มีใจอยากอ่าน<br />
<br />
มีกล้องอยู่ในกระเป๋า มีความคิดขึ้นมาว่า เราไม่ได้อยากล้วงกล้องออกมาถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอแบบจริงจัง มันไม่ใช่สไตล์ หรือจะมาตั้งกล้องทำ vlog อยู่ตามร้านกาแฟ อันนี้ก็ไม่ใช่แนว อยากกินกาแฟ กินขนมอยู่เงียบ ๆ ไม่เอิกเกริก ชื่นชมบรรยากาศไป อย่างนี้มากกว่า วันนี้ก็อยู่ร้านกาแฟไถมือถือไป<br />
<br />
สิบโมงกว่าไปเดินซื้อของ สิ่งที่ต้องซื้อคือ กระดาษทิชชู ถุงซิปล็อก กระดาษกรองกาแฟ<br />
<br />
กลับบ้านมาตากผ้า<br />
<br />
กินไวไวหอยลายผัดฉ่าใส่ไข่ใส่หมูใส่ปลาหมึกแห้งเป็นอาหารกลางวัน<br />
<br />
บ่ายเล่น Rov เกือบทั้งบ่าย<br />
<br />
นั่งสมาธิ แล้วก็ง่วง<br />
<br />
นอนตอนสี่โมงแบบกึ่ง ๆ ว่าจะหลับแต่ก็ไม่หลับเท่าไหร่<br />
<br />
ตื่นมาเล่นเกมและนั่งลิสต์ว่าจะจัดของอะไรไปนิวยอร์คบ้าง เขียนส่ิงที่คิดลงกระดาษ<br />
<br />
กินกัมมี่แบร์วอดก้าที่ทำไว้ มันต้องแช่เย็นจริง ๆ ด้วย มันถึงจะยังเป็นตัว ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับยี่ห้อวอดก้าด้วยหรือเปล่า<br />
<br />
ตอนเย็นเริ่มทำขนม อยู่ ๆ จะทำก็ทำ ต้องใช้ครีมชีสให้หมดเพราะว่าจะไปนิวยอร์ค 2 เดือน คือทำชีสทาร์ต วันนี้เกิดอาการคิดถึงแก้มด้วย<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWnwx7yDm5a3p2uLuM3CYiMmt-10bxq665zYavXmjGLIpKf6clfPRcn9ImIgKmhdP-bpDwCXKVcJqlEJXG5N6ehKoHZEM2V0LDeleZ1djHRdcGoG3uqx74gejhHVTd6-Nc0AN3bvegeqQ/s1600/73123805_10157465111607597_3131299379491635200_o.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="1600" data-original-width="1200" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgWnwx7yDm5a3p2uLuM3CYiMmt-10bxq665zYavXmjGLIpKf6clfPRcn9ImIgKmhdP-bpDwCXKVcJqlEJXG5N6ehKoHZEM2V0LDeleZ1djHRdcGoG3uqx74gejhHVTd6-Nc0AN3bvegeqQ/s320/73123805_10157465111607597_3131299379491635200_o.jpg" width="240" /></a></div>
<br />
<br />
ลืมซื้อโยเกิร์ต ขึ่มอไซค์ไปซื้อโยเกิร์ตเซเว่นแถวบ้าน ระหว่างขี่มอไซค์ก็คิดว่า รู้สึกเหงา คิดถึงว่าตอนปลายปีที่แล้วยังทำชีสทาร์ตกับแก้ม และตอนนี้แก้มตายแล้วเมื่อกลางปี ชีวิตคนเราเนอะ เกิดมาคนเดียว ตายไปคนเดียว รู้สึกเหงา ก็ให้รู้ว่ารู้สึกเหงา รู้มันไปอย่างนั้น<br />
<br />
ทำขนมไป<br />
<br />
ทำขนมถ่ายรูปลงเฟสบุค พอมีคนมาไลค์ ใจมันชุ่มชื่นขึ้นมา พอมีเพื่อนมาเม้น ใจมันก็ดี๊ด๊าขึ้นมาอีก รู้สึกหายเหงาขึ้นมา โซเชี่ยลนี่มันยังไงนะ บอกไม่ถูก เราควรเล่นหรือไม่ควรเล่น บางทีมันก็ทำให้เรารู้สึกดีบางทีมันก็ทำให้เรารู้สึกแย่ วันนี้ทำขนมยังไม่เสร็จ กะว่าจะอบพรุ่งนี้และทำต่อให้เสร็จ<br />
<br />
ไปนิวยอร์คก็ไม่รู้จะทำอะไร รู้สึกกลัว กลัวเหงา กลัวเบื่อ ไปตั้ง 2 เดือน จะได้อะไรหรือไม่ได้อะไรก็ไม่รู้<br />
<br />
กะว่าไปดูเทพีเสรีภาพ ไปกิน ไปเดินดูเมือง แค่นี้แหละ ไปใช้เงิน<br />
<br />
ทางธรรมก็ไปสะสมสัญญา สิ่งที่เห็นก็คือรูปเท่านั้นเอง<br />
<br />
ช่วงนี้ก็อ่านก็ฟังอะไรไปเรื่อยเปื่อยเยอะ ถ้าเราศึกษาทางธรรม เราต้องไม่ซึม ต้องไม่เฉื่อย ไม่เนือย ถ้าซึม ๆ ปลง ๆ เกิดมาแล้วก็ตาย ปลง ๆ ไป นี่ผิดทางแล้ว เราก็เอะใจว่า เราอาจจะมาผิดทางอยู่ก็เป็นได้ รึป่าวนะ ทุกวันนี้ รักษาศึลข้อ 1-4 ได้ ข้อ 5 ได้บ้างไม่ได้บ้าง นั่งมาธิเกือบทุกวัน พยายามมีสติตลอดเวลาทั้งวัน รู้สึกได้ว่าชีวิตอารมณ์ไม่สวิงมาก ตอนเวลาขับรถ ชิวมากขึ้น ใครอยากแซงเชิญ<br />
<br />
มีงานที่ดี ไม่ต้องทำงานกับคนอื่น ไม่มีความกดดันใด ๆ อยากพักก็ได้ อยากทำก็ได้<br />
<br />
หรือว่าเหงา จะมีแฟนมั้ยชาตินี้ ไม่รู้อะ นี่คือสิ่งที่ไม่รู้ได้ด้วยตัวเอง<br />
<br />
ฟังคลิปโจนจันไดพูดในเท็ดทอล์อก ทำไมชีวิตต้องยาก ถ้าเรามีเวลากับตัวเองเยอะ เราจะหาได้ว่าเราอยากทำอะไร ตอนนี้สิ่งที่เราทำที่เรียกกว่างาน ก็ทำไปแบบงั้น ๆ ไม่ได้ชอบมาก แพชชั่นคืออะไร อ่อ คือเสาวรส เอี๊ยดดด เดี๋ยว มีกีตาร์อยู่ อยากเล่นกีตาร์เก่ง ๆ แต่ก็ไม่หยิบมันขึ้นมา งงตัวเองมาก งงมากแม่ แล้วก็เล่นเกม รู้ว่าไร้สาระมาก คือเกม มันก็วน ๆ อยู่แบบนี้ มันละยากมากเลย มันเป็นราคะ<br />
<br />
จำได้ในคลิปตอนนึงหลวงพ่อปราโมทย์บอกว่า<br />
โทสะ มีโทษมาก ละง่าย<br />
ราคะ มีโทษน้อย ละยาก<br />
โมหะ มีโทษมาก ละยาก<br />
<br />
ฟังคลิปน้องจอยลูกบัณฑิตร้องเพลง let it be แล้วน้ำตาซึมเลยวันนี้<br />
<br />
สงสัยวันนี้จะเซนส์ซิทีฟnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-62120651644668750802019-08-17T22:11:00.002+07:002019-08-17T22:11:55.087+07:00มีความคิดว่าจะไปนิวยอร์ค - thinking about go to New York Cityในโลกยุคใหม่นี้ เวลาคิดอะไรเราก็จะป่าวประกาศให้โลกได้รู้ และกูเกิ้ลก็จะรู้ เฟสบุคจะรู้<br />
<br />
ทำให้โฆษณาที่เกี่ยวข้องมันขึ้นมาตามสื่อต่าง ๆ ที่เราใช้อยู่หน้าคอม<br />
<br />
ได้อ่านหนังสือเรื่อง the four แล้วก็รู้สึกว่า บอษัทเหล่านี้มันร้ายจริง ๆ แต่ยังไงเราก็ต้องอยู่ไปน่ะนะ<br />
<br />
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าด้านดีนั้นก็มีอยู่มากมาย เช่น อยากไปนิวยอร์คเหรอ หาข้อมูลสิ แค่สงสัยอะไรก็เซิชกูเกิ้ล และเราก็ได้คำตอบทันที จากหลาย ๆ แหล่ง มันช่างตอบโจทย์ได้ความพึงพอใจมาก ๆ<br />
<br />
ต่อไปนี้ก็คงจะอ่าน ๆๆๆๆ รีเซิช ๆๆๆๆ แล้วจะยังไงก็ค่อยว่ากันอีกทีเนอะnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-28830418420235238942019-07-11T22:02:00.002+07:002019-07-11T22:02:39.775+07:00เกือบปีแล้ว - Almost one yearเกือบปีแล้ว ไม่ได้เขียนอะไรเพิ่มเลย เพราะว่าบางทีก็คิด แต่คิดในใจ ไม่ประกาศให้ชาวโลกรู้<br />
<br />
ไม่ต้องการใครก็ไม่รู้ที่บังเอิญผ่านมารับฟัง อาจเป็นเพราะเราโตขึ้น<br />
<br />
เราเรียนรู้วิธีอยู่บนโลกนี้ได้ประมาณหนึ่งแล้ว เราผ่านบทเรียนต่าง ๆ ในชีวิตที่มากขึ้น ๆ<br />
<br />
เราทุกข์น้อยลง ก็เลยบ่นน้อยลง ด้วยความที่แรก ๆ เขียนบล็อกเพื่อระบายสิ่งต่าง ๆ (ก็คือบ่นนั่นแหละ) แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า บ่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ก็เลยไม่บ่นดีกว่า<br />
<br />
ต่อไปอาจจะเขียนแชร์เกี่ยวกับความคิดอะไรงี้มากขึ้นนะ<br />
<br />
เมื่อกี๊ตอนอาบน้ำนึกออกอยู่นะว่าจะเขียนอะไรบ้าง แต่ตอนนี้นึกไม่ออกละ ก็เลยมาเขียนเวิ่นเว้อ<br />
<br />
ชีวิตตอนนี้โดยรวมก็ดีนะ มีเงินใช้ มีที่นอน มีแมคบุคใหม่มือสองซื้อมาจากอีเบย์สองพันเก้าร้อยเหรียญ กิกิ ส่งมาแบบผ่านชิปปิ้ง (รอเป็นเดือนแน่ะ ใจหายตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ แต่สุดท้ายแมคบุคโปรก็มา)<br />
<br />
ก็ยังทำงานวาดรูปขายออนไลน์เหมือนเดิม อยากทำวีดีโอด้วย โมชั่นกราฟฟิค ฯลฯ ก็เลยซื้อคอมที่สเป็กแรงหน่อย<br />
<br />
สาธุ ขอให้ขายคอมเครื่องเก่าได้<br />
<br />
อยากไปนิวยอร์ค พอร์ทแลนด์ แกรนด์แคนยอน บาหลี อะไรทำนองนี้ แต่ก็ขึ้เกียจหาข้อมูล ที่จริงแล้วเก็บเงินไปก่อนดีกว่า ฮ่าาาาาnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-66922669440558993712018-09-07T12:19:00.002+07:002018-09-07T12:19:44.926+07:00ยางมัดผมหาย - I lost my hair tieยางมัดผมสุดไฮโซ ประหนึ่งว่าเส้นละร้อย ซื้อมาจากร้านเซฟโฟร่าที่ซานฟราน 3 อัน $8<br />
<br />
แจกชาวบ้านไป เหลือไว้ใช้ที่ตัวเอง 1 เส้น<br />
<br />
เส้นเดียวเท่านั้น หาย!<br />
<br />
โลกทั้งใบเหมือนจะสลาย หนังมัดผมของชั้ลลลลล คิดเลยนะว่าจะไปตัดผม จะได้ไม่ต้องใช้หนังมัดผม<br />
<br />
แต่ก็เซิชหาดูว่าจะซื้อที่ลาซาด้าอะไรพวกนี้ ไปเจอเว็บ <a href="http://beauticool.com/">beauticool.com</a> (โฆษณาให้นะ)<br />
<br />
มีขาย 215 บาท ราคาถูกกว่าเซฟโฟร่าอีก แต่บวกจัดส่งอีก 50 บาท ก็เลยพอ ๆ กัน แต่ถ้าซื้อของอย่างอื่นด้วย เค้ามีจัดส่งฟรีด้วย แต่ก็ไม่รู้จะซื้ออะไร<br />
<br />
เลยจัดมา 1 กล่อง จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต<br />
<br />
ส่งเร็วดี แพ็กมาใหญ่เลย แต่ของเราก็นิดเดียวอะนะ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzYG9kYWPABiYih5-1_7Z4JShrAmFQfVZ1vmgr66tXE3kaOZLsEY9rnkpS5duK1PpQUignuTR1dL3vlcc-oe6ugmnreUpnCBvExEd_Xsr5PT3_m_dzu4hY9rWhiNkvnRWb4Jk2k8qYuAo/s1600/Photo+9-7-18%252C+9+41+22+AM.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" data-original-height="1200" data-original-width="1600" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzYG9kYWPABiYih5-1_7Z4JShrAmFQfVZ1vmgr66tXE3kaOZLsEY9rnkpS5duK1PpQUignuTR1dL3vlcc-oe6ugmnreUpnCBvExEd_Xsr5PT3_m_dzu4hY9rWhiNkvnRWb4Jk2k8qYuAo/s640/Photo+9-7-18%252C+9+41+22+AM.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">แพ็กมาอย่างดี ห่อบับเบิ้ลมาด้วย ทั้ง ๆ ที่ของเรามันไม่แตกหรอก 555 ดี ๆๆ</td></tr>
</tbody></table>
<br />
สบายใจละ<br />
<br />
ก็เลยเล่าสู่กันฟัง<br />
<br />nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-51974215553390885432018-02-27T12:10:00.001+07:002018-02-27T12:10:31.845+07:00อยู่เมลเบิร์นแล้ว - I'm in Melbourneในที่สุด ก็ได้มา เมลเบิร์นก็คือเมลเบิร์น อากาศดี พระอาทิตย์ตกสองทุ่ม<br />
<br />
ใช้ได้<br />
<br />
นอยเอเอ็ม<br />
<br />
ตอนนี้เจ็บคอ ดันไม่สบายซะได้<br />
<br />
ขอให้เจอแมวตัวเป็น ๆ ทีเถอะ<br />
<br />
เราทำได้ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้ ก็แค่ขอวีซ่าสองครั้งเอง ก็ได้มา สบาย ๆ มาถึงตม.แค่มองหน้าเทียบกับพาสปอร์ต ไม่ถามซักคำ แต๊งกิ้วแล้วก็เข้ามาเลยnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-34905071331839282052018-02-20T15:43:00.001+07:002018-02-20T21:51:33.914+07:00วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียผ่านแล้ว - got travel visa australiaในที่สุดก็ได้วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียมาครอบครอง<br />
<br />
ขอไปสองครั้ง ครั้งแรกไม่ผ่าน ครั้งที่สองผ่าน<br />
<br />
สรุปให้สั้น ๆ เผื่อนคนที่ไม่อยากอ่านยาว<br />
1. เราขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบ single ก็ได้แบบ signle 3 เดือน เราวางแผนไปทั้งหมด 24 วัน<br />
2. ระยะเวลา ซับมิตฟอร์ตมวันที่ 8 กพ. เก็บไบโอเมตริค 9 กพ. มีคนโทรมาสัมภาษณ์ 19 กพ. หลังจากมีคนโทรมาสัมภาษณ์อีกประมาณ 5 นาทีอีเมลผลวีซ่าก็มาเลย สรุปใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วันทำการ<br />
3. เงินในบัญชีมีอยู่ประมาณแสนห้า<br />
<br />
จะเล่าให้ฟังนะ<br />
<br />
หลังจากครั้งแรกที่ไม่ผ่านก็นอยด์ไปนิดนึง คือเราอาจจะประเมินต่ำไป คิดว่ามันจะง่าย ๆ แบบว่า เมกาก็ไปมาแล้ว อังกฤษก็ไปมาแล้ว ออสก็คงจะชิล ๆ<br />
ปรากฏว่า ขอวีซ่าไป ซับมิทฟอร์มไปปุ๊บวันนี้เย็น ๆ ยังไม่ทันไปเก็บไบโอเมตริค วันรุ่งขึ้นอีกเมลว่าวีซ่าไม่ผ่านมาเลยจ้า ไม่มีการโทรมาสัมภาษณ์อะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ฟิ้ววววว....สามพันกว่า ปลิว<br />
<br />
เราถึงขั้นงงว่า เฮ้ย ไม่ได้ไปเก็บไบโอเมตริค ผลออกแล้วเหรอ แต่หลังจากอ่านกระทู้พันทิปก็พบว่า มีเหตุการ์แบบนี้เกิดขึ้นได้เหมือนกัน<br />
<br />
ดังนั้น ในการขอครั้งต่อไปของเราต้องทำให้ดีที่สุด<br />
<br />
ในจดหมายเหตุผลที่วีซ่าไม่ผ่าน เค้าบอกเราดังนี้<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6Ug1sobhcI5n8BsTtj1NpPTMEKh2WTgPfA7TIGi_Gm10igIRz1crwN-UXfIXD5BpKmm2BbZKlQJP6hXuvS9F2mUa3tqRmSs9RWxyB5JbzKLJVUZghauMbaoOoTTyX7Wr4KxOEv6jJjvg/s1600/Screen+Shot+2561-02-20+at+2.42.58+PM.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="371" data-original-width="608" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi6Ug1sobhcI5n8BsTtj1NpPTMEKh2WTgPfA7TIGi_Gm10igIRz1crwN-UXfIXD5BpKmm2BbZKlQJP6hXuvS9F2mUa3tqRmSs9RWxyB5JbzKLJVUZghauMbaoOoTTyX7Wr4KxOEv6jJjvg/s1600/Screen+Shot+2561-02-20+at+2.42.58+PM.png" /></a></div>
<br />
<br />
ประเด็นหลัก ๆ คือ<br />
1. ไม่เชื่อว่าเราจะไปอยู่ออสเตรเลียแบบชั่วคราว ก็คือว่าไม่เชื่อว่าจะกลับไทยนั่นแหละ<br />
2. เรื่องของหน้าที่การงานและการเงินไม่สตรอง<br />
<br />
จากการที่ไปอ่านมา จากหลายที่มาก เจ้าหน้าที่เค้าจะสนใจว่าเงินที่คุณได้มานั้นได้มายังไง ถ้ามีเงินก้อนใหญ่เข้ามาต้องบอกว่ามันมายังไง แบบว่ามีเอกสารบอก เช่นเราขายงานได้เงินมาตู้ม เราก็เอาสัญญาที่ตกลงกันว่าจะขายงานกันเป็นจำนวนเงินเท่านี้นะ แนบไปด้วย เราว่าน่าจะรวมไปถึงคนที่ ถูกหวย ขายบ้านขายรถได้ ได้โบนัส ถอนออกมาจากหุ้น ไรเงี้ย ควรแนบเอกสารไปด้วย<br />
<br />
ครั้งแรกที่เรายื่น เราไม่ได้ยื่นเอกสารทางการงานเลย เพราะทำงานเป็นกราฟฟิคดีไซน์ฟรีแลนซ์ ทำกับหลายที่ ไม่มีต้นสังกัด เรายื่นแค่สเตทเมนท์เซฟจากคอมของธนาคารกรุงเทพ ยอดเงินมีอยู่ประมาณแสนสามหมื่นบาท และการเคลื่อนไหวบัญชีมีเงินมันมีเข้ามาตู้มสองแสน กับสี่ห้าหมื่น ๆ อะไรเงี้ย<br />
<br />
เราจึงแก้เกมโดย<br />
ประเด็นที่ 1 ที่ว่า ไม่เชื่อว่าเราจะไปอยู่ออสเตรเลียแบบชั่วคราว เราส่งเอกสารเพิ่มดังนี้<br />
1. ทะเบียนรถยนต์(เนี่ย ๆๆ ชั้นมีรถนะ)<br />
2. บิลค่าไฟที่ให้ตัดบัญชีเรา(มันจะมีชื่อเราอยู่ เพื่อที่จะสื่อว่า เนี่ย ๆๆ ชั้นมีบ้าน ชั้นจ่ายค่าไฟ)<br />
3. ข้อนี้ไม่แนะนำนะ แต่เราซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว คือว่าซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนขอวีซ่า เพราะมีตั๋วโปร เราเลยแนบตั๋วเครื่องบินไปด้วย(เราก็เห็นคนไม่แนะนำกันเยอะ แต่คนก็ซื้อตั๋วก่อนอยู่ดี ฮาาาาา)<br />
<br />
<br />
ประเด็นที่ 2 เรื่องของหน้าที่การงานและการเงินไม่สตรอง ครั้งนี้จะจัดเต็ม<br />
1. เราแคปเจอร์หน้าจอเว็บไซต์ที่ทำทำงานด้วยเกือบทั้งหมด สิบกว่าเว็บที่เราวาดรูปขาย เซฟเป็นไฟล์ pdf ไป แล้วก็เขียนหัวข้อว่า online agencies that I work for เอาลิงค์พอร์ตโฟลิโอใส่ไปด้วย<br />
2. เราเซฟ history จากใน paypal ว่ามีคนจ่ายเงินให้เรานะ เซฟเป็นไฟล์ pdf มาประมาณ 6-7 เดือน ให้เห็นว่ามีเงินเข้า<br />
3. เราไปธนาคาร ไปขอเสตทเมนท์(รอบนี้มียอดเงินแสนห้า)และbank cirtificate(อันนี้เค้าจะมีสรุปว่ายอดเงินในบัญชีเรามีเท่าไหร่ เราบอกให้เค้าแปลงเป็นหน่วย AUD ด้วย ของเรามีประมาณ 6000AUD) แบบจริงจัง เสีย 200 รอรับได้เลยของธนาคารกรุงเทพ เอามาสแกนแล้วแนบไปกับที่ขอวีซ่า<br />
4. สเตทเม้นแบบโหลดเอาจากอินเตอร์เน็ตแบงกิ้งของธนาคาร อีก 3 ธนาคาร ได้แก่ ไทยพาณิชย์ กสิกร กรุงไทย ซึ่งเงินก็มีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แบบหลักพัน หลักหมื่นต้น ๆ แต่เราก็คิดว่า การมีบัญชีธนาคารเยอะ ๆ ก็เป็นหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเราจะกลับมาไทยเหมือนกันนะ แบบว่ามีความผูกพันธ์ทางธุรกรรมทางการเงิน(อันนี้มโนเองนะ) เราว่านะ การที่เราจะไปเที่ยวได้ เราต้องแสดงให้สถานทูตเห็นว่าเรารวย รวยแบบไปเที่ยวได้ รวยด้วย ผูกพันธ์กับเมืองไทยด้วย อะไรเงี้ย น่าจะผ่านได้ง่าย<br />
5. แคปเจอร์หน้าจอสรีมมิ่ง พอร์ตหุ้นว่ามีเงินนะ มีอยู่หมื่นห้าได้<br />
6. เอาสัญญาเซนต์ขายงาน แนบไป 2 สัญญา ว่าขายงานนะ ครั้งก่อนได้หกหมื่น ครั้งนี้ได้แสนแปด อะไรก็ว่าไป เราคิดว่ามันคือที่มาของเงิน<br />
7. เอกสารใบภาษีของ shutterstock ตั้งแต่มี 2014 2015 2016 2017 ให้เห็นว่าเราทำงานที่นี่มานานนะ อะไรทำนองนี้<br />
8. เอกสารสรุปคำนวณภาษีจากเว็บ TSD ว่าเรามีหุ้นนะ มีปันผลนะ อะไรเงี้ย<br />
<br />
<br />
แผนการท่องเที่ยว เราทำแบบคร่าว ๆ มาก หาไว้แต่ที่พัก พักโฮสเทล เรายังไม่ได้จองนะ แค่แคปหน้าจอว่า เนี่ย จะจองที่นี่นะ เค้ามีโปรโมชั่นแบบนี้(ซึ่งตอนนี้เราก็จองแล้วที่แรกจริง ๆ จ่ายเงินแล้วเพราะวีซ่าผ่านแล้ว ลั้นลา ๆ ส่วนที่อื่นเดี๋ยวรอไปถึงออสค่อยว่ากัน อยากไปเดินดูบ้านเมืองก่อน)<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKlNgQ9K22Tj-SXACt4ksepUcObpiES4_EMzLI2lIRVNiNj-Ykbjj3U_QtDK5lK8V-qp5xr5AMQHpPBdcOMnH9mgt_ccS25evf6FT66QkWPRd-XUAnWewj_54jDZTzLLZLFQsTtrQXHx4/s1600/Screen+Shot+2561-02-20+at+3.05.21+PM.png" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" data-original-height="495" data-original-width="813" height="389" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKlNgQ9K22Tj-SXACt4ksepUcObpiES4_EMzLI2lIRVNiNj-Ykbjj3U_QtDK5lK8V-qp5xr5AMQHpPBdcOMnH9mgt_ccS25evf6FT66QkWPRd-XUAnWewj_54jDZTzLLZLFQsTtrQXHx4/s640/Screen+Shot+2561-02-20+at+3.05.21+PM.png" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ทำในเวิร์ด แล้วเซฟเป็น pdf แนบไป</td></tr>
</tbody></table>
<br />
อีกอย่างที่อยากเล่าให้ฟัง ด้วยความที่ใกล้จะเดินทาง แต่วีซ่ายังไม่ออก เราเลยหาทางว่าจะมีคาถาหรือมีวิชากำลังภายในไหนได้บ้างที่จะช่วยเร่งวีซ่า ใน immi account เราสถานะมันขึ้น assetment in progress เราก็แบบว่า ทำไมคนอื่นเค้าได้เร็ว แล้วเราได้ช้า เซิชหาข้อมูลอยู่นั่น บางคนเก็บไบโอเมตริคเช้า วีซ่าออกเที่ยง บางคนวีซ่าออกเย็น ป้าด มันจะเร็วอะไรปานนั้น ของเราผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ไม่ออก<br />
เราเลยส่งอีเมลพร้อมตั๋วเครื่องบินว่า เนี่ย...เราใกล้จะเดินทางแล้ว ช่วยเร่งวีซ่าให้หน่อย(แต่เขียนเป็นภาษาอังกฤษแบบสุดภาพนะ แบบว่า could you please blah blah blah.....)ไปตามที่ info.... vfs เค้าบอกว่า เค้าไม่มีหน้าที่ในการพิณาวีซ่า เร่งไม่ได้ แล้วเค้าก็ให้อีเมลสถานทูตออสเตรเลียมา เราเมลไป เป็นออโต้เมลตอบกลับมาว่า เมลคุณจะไม่ได้รับการฟอร์เวิร์ดต่อนะ เราคิดว่าเค้าคงไม่รับเร่งวีซ่าหรอก แต่เราก็ถือว่าเราได้เมลไปแล้ว ข้อมูลตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยเพื่อน ๆ ขอวีซ่าได้เร็วขึ้นนะ คือเราทำไปแล้วมันไม่ได้ผล เราเลยมาบอกว่ามันไม่ได้ผล<br />
<br />
ถ้าจะให้ดี ก็ควรขอวีซ่าล่วงหน้า เผื่อเวลาไว้เยอะ ๆ แต่ก็นั่นแหละ บางทีมันก็ รู้....แต่มันไม่ได้ทำ เราก็คิดว่าเราเผื่อเวลาแล้วนะ แต่พอมันใกล้วันเดินทางมันก็ชักหวั่นใจว่าจะไม่ทัน แต่ของเราสรุปก็ทัน ถ้าไม่ทันคงได้เสียเงินเลื่อนตั๋วโปร(ซึ่งราคามันก็จะไม่โปรนะซี่ ปัดโถ่ว!)<br />
<br />
ที่จริงจะว่าไป เราก็ขอวีซ่าล่วงหน้านะ แต่ครั้งแรกดันไม่ผ่าน เสียเงินขอวีซ่าสองรอบ ...เจ็ดพัน ดูสิชีวิต<br />
<br />
เรื่องเจ้าหน้าที่โทรมาสัมภาษณ์<br />
เบอร์ 023446300 โทรมาตอนประมาณสี่โมงเย็น เป็นจนท.ผู้หญิง คนไทย เค้าคุยประมาณ 5 นาที มีคำถามประมาณนี้ ไปเที่ยวที่ไหน ไปกี่วัน ทำงานอะไร ระหว่างเที่ยวจะเอาเงินจากไหนใช้ เล่าให้ฟังหน่อยว่าจะแผนเที่ยวจะทำอะไรบ้าง เรียนที่ไหน ในระยะสองปีนี้ได้เดินทางไปไหนมาบ้าง มีแผนจะไปกี่เมือง จะไปนิวซีแลนด์ไหม<br />
<br />
ในระหว่างรอผลวีซ่า เราก็ถือเป็นการฝึกจิตนะ มันลุ้น มันกลัวไม่ผ่าน แต่เราต้องวางใจ เราต้องเชื่อว่ามันจะผ่าน สวรรค์ต้องเปิดทางให้เรา เราก็นั่งสมาธินะ เพื่อให้บุญจากการนั่งสมาธิส่งผลให้วีซ่าผ่านอย่างราบรื่น แล้วเราก็จะได้มีสติปัญญาในการคิด การเตรียมเอกสาร แล้วเราก็เตรียมของเหมือนว่าวีซ่าผ่านแล้ว รอวันเดินทาง เช่น หาข้อมูลท่องเที่ยว ทำความสะอาดบ้าน ไปขูดหินปูน เซิชหาที่แลกเงิน หาข้อมูลเรื่องการใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศ เอารถไปเข้าศูนย์ ฯลฯ อะไรเงี้ย คือเราก็ถือว่า ถ้าวีซ่าผ่าน เราก็ได้จัดการชีวิตเรียบร้อย แล้วไปเที่ยวได้ ถ้าวีซ่าไม่ผ่าน ก็ถือว่าได้จัดการชีวิตล่ะวะ อาจจะต้องเตรียมขอวีซ่าครั้งที่ 3 และเลื่อนตั๋วเครื่องบิน คือว่า เราคิดว่า ไม่มีอะไรมาหยุดเราได้ เราก็จะทำจนถึงที่สุด ถึงจะยอมแพ้ แค่โดนปฏิเสธวีซ่าครั้งเดียวทำอะไรเราไม่ได้หรอก ฮ่า ๆ<br />
<br />
ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้ เฮ่!<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-65684774617895195292018-02-11T11:55:00.000+07:002018-02-11T11:55:44.632+07:00การนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเก็บข้อมูลไบโอเมตริค - Australian visa biometric collection appointmentหลังจากยื่นวีซ่าไปแล้ว เราต้องนัดล่วงหน้าเพื่อเก็บไบโอเมตริคด้วย พอเก็บเสร็จก็เข้าหน้าเว็บ immi account เพื่อไปกดปุ่ม information provided<br />
<br />
เราก็ดูจากกระทูนี้ https://pantip.com/topic/37039582<br />
<br />
ไปที่นี่ https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisteredLogin<br />
<br />
ใครสร้างแอคเคาท์แล้วก็ล็อกอินเข้าไป หรือสร้างแอคเคาท์ใหม่ก็ได้ คลิกที่ New user? มันจะพาไปหน้านี้<br />
<br />
https://online.vfsglobal.com/GlobalAppointment/Account/RegisterUser?Length=7<br />
<br />
คือตอนแรกเรามีปัญหากับการตั้งพาสเวิร์ดมาก ต้องตั้งให้เงื่อนไขตามนี้<br />
<blockquote class="tr_bq">
Your Password should have minimum 8 and maximum of 15 characters with at least 1 Uppercase, 1 Lowercase Alphabet, 1 Number and 1 Special Character ($ @ # $ ! % * ? &)</blockquote>
นั่นแหละ เราตั้งให้มีตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก ตัวเลข และ $ ก็ผ่าน<br />
<br />
ผ่านแล้ว จะล็อกอิน ไม่ได้อีก มันขึ้นแบบนี้ Failed to get visiting country and residing country details<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhvlmOaUCyAfKArAfQImWnXYyYLC9pTctqPSnjrII9j9fbYnbvtvOyYauOoW82ZZrbILysDUQlc9WKOFWcJg0CxA_3f6tSvOKkKeEQSDOTdXNbbrvXnUZTP8lBRrk-MNcO6cSoIoli0yNc/s1600/FailtologinAppointment.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" data-original-height="581" data-original-width="1021" height="364" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhvlmOaUCyAfKArAfQImWnXYyYLC9pTctqPSnjrII9j9fbYnbvtvOyYauOoW82ZZrbILysDUQlc9WKOFWcJg0CxA_3f6tSvOKkKeEQSDOTdXNbbrvXnUZTP8lBRrk-MNcO6cSoIoli0yNc/s640/FailtologinAppointment.jpg" width="640" /></a></div>
<br />
<br />
เปลี่ยนเบราเซอร์ก็แล้ว เคลียร์แคชก็แล้ว ทำยังไงก็ไม่หาย<br />
เราเลยโทรหาสถานทูตอีกแล้ว ถามเค้า เค้าบอกว่าเค้าก็เคยเจอเคสแบบนี้<br />
<br />
วิธีแก้คือให้อีเมลหา info.auth@vfshelpline.com (หาได้จากหน้านี้ http://www.vfsglobal.com/Australia/Thailand/thai/contact_us.html)<br />
แล้วแนบ แคปเจอร์หน้าจอที่มันล็อกอินไม่ผ่าน และบอกยูสเซอร์เนมพาสเวิร์ดเค้า เค้าจะแก้ให้<br />
<br />
เราเมลไปตอน 10.39 AM เค้าตอบเมลมาตอน 11.33 AM ก็รวดเร็วใช้ได้เหมือนกัน<br />
<br />
ตัวอย่างข้อความที่เราเมลไป<br />
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;"><br /></span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">Dear VFS team,</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<br /></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">My name is xxxxxx xxxxxxxx. I have a problem with appointment login page. It says "Failed to get visiting country and residing country details"</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<br /></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">My email : xxxxxxx@xxxxxxxxxxx.xxx</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">Password : xxxxxxxxx</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<br /></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">Please help</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<br /></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">Best,</span></div>
<div style="background-color: white; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">ชื่อเรา</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;"><br /></span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="color: black; font-family: Calibri, sans-serif, serif, EmojiFont;">พอล็อกอินได้ก็เข้าไปจองคิวนัดหมายตามกระทู้นี้เลย </span><span style="background-color: transparent;">https://pantip.com/topic/37039582</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="background-color: transparent;"><br /></span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="background-color: transparent;">พอถึงวัดนัดจริงก็ปริ๊นใบนัดกับเอาพาสปอร์ตที่จะเดินทางไป</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="background-color: transparent;">เราไปที่ศูนย์เชียงใหม่ ไปถึงเค้าก็จะถามว่านัดไว้มั้ย ขอดูใบนัดพาสปอร์ต แล้วถึงให้เข้าไป เราไปถึงก่อนเวลา เค้าก็ให้เราเข้าก่อนนะ ไปนั่งรอคิว แล้วพอถึงเวลานัดเราเค้าก็เรียกเลย เป๊ะเฟร่อ หรือบังเอิญก็ไม่รู้นะ</span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<span style="background-color: transparent;"><br /></span></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
เสียค่าใช้จ่ายไป 851 บาท มีแสกนลายนิ้วมือกับถ่ายรูปให้เห็นหูด้วย อุตส่าทำผมกะลาครอบไปต้องเอาผมคล้องหูอีก เสียใจ....กับทรงผมจริง ๆ</div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<br /></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มจนจบก็เกือบ ๆ ชั่วโมงรวมรอคิว</div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
<br /></div>
<div style="background-color: white; color: #212121; font-family: "Times New Roman", serif; font-size: 12pt; margin: 0in 0in 0.0001pt;">
สาธุ ขอให้ได้วีซ่า single ก็เอา multiple ก็ดีมาก ๆ</div>
nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-1603118579416038742018-02-11T11:16:00.000+07:002018-02-11T11:56:55.163+07:00ขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียแต่ไม่ผ่าน - Australian travel visa IMMI Refusal Notificationมีตั๋วเครื่องบินราคาถูก jetstar กรุงเทพ เมลเบิร์ล กรุงเทพ เราเลยอยากไปเที่ยว ก็ซื้อตั๋วเลยจ้า<br />
หมื่นสี่กว่า ๆ รวมต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม<br />
<br />
ทีนี้มาขอวีซ่าท่องเที่ยวไปออสเตรเลีย ดูตามกระทู้นี้เลย<br />
https://pantip.com/topic/33377717<br />
<br />
ยื่นไปวันพฤหัสที่ 4 มค. ตอน 16.09 ยังไม่ได้ไปเก็บไอโอเมตริค กะว่าไปทำวันจันทร์ ปรากฏว่า วันศุกร์ที่ 5 มค. เวลา 14.38 มีอีเมลมาว่า IMMI Refusal Notification with Decision Record ห๊าาาา อัลไลกัน ยังไม่ได้ไปเก็บไบโอเมตริคก็พิจารณาวีซ่าได้เหรอ<br />
<br />
พอวันจันทร์ เลยโทรถามสถานทูต เบอร์นี้ 021187100 เป็นระบบอัตโนมัติ สุดท้ายกด 0 ติดต่อเจ้าหน้าที่ เราก็ถามว่า ยังไม่ได้ไปเก็บไบโอเมตริค ผลวีซ่าก็ออกได้เหรอ เค้าบอกว่า ได้ และยืนยันผลตามนั้น<br />
<br />
เราก็โอเค อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปเสียตังค์ค่าไบโอเมตริคล่ะว้า<br />
<br />
ในจดหมาย Refusal เค้าบอกตรง Reason for Decision ว่า<br />
ไม่เชื่อว่าเราจะกลับไทย<br />
หลักฐานการทำงานไม่สตรอง<br />
<br />
ประมาณนี้<br />
<br />
เราทำงานเป็นฟรีแลนซ์(หรือเรียกว่าเป็นเจ้าของกิจการก็ได้เนาะ อิอิ) เราวาดรูปขายทางเน็ตกับเว็บต่างประเทศ(shutterstock อะไรพวกนั้น) ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีใบลางาน มีการรับเงินผ่าน paypal แล้วค่อยโอนเงินเข้ามาในแบงค์ไทย<br />
<br />
ตอนเรายื่นครั้งแรก เงินในบัญชีมี 13x,xxx ประมาณแสนสามกว่า เราเซฟไฟล์จากออนไลน์แบงกิ้ง แล้วแนบไป แค่นั้น ใบเดียว<br />
หลักฐานการทำงาน เราแค่กรอกว่าเราทำงานกับ shutterstock ตอนกรอกวีซ่าแค่นั้น ไม่ได้ยื่นอะไรเพิ่มเติม<br />
<br />
เราคิดว่าวีซ่าออสจะง่าย ๆ แต่เราก็ประเมิณผิดไป<br />
<br />
เอาล่ะ อย่างน้อยเค้าก็บอกเหตุผลที่ปฏิเสธวีซ่าเรา และเราจะยื่นครั้งต่อไป เราจะเตรียมเอกสารให้แน่นหนาขึ้น ครั้งแรกขอแบบ multiple ไป ครั้งที่สองจะขอแบบ single ดูว่าจะได้มั้ยnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-30277622107434925522017-09-08T19:34:00.001+07:002017-09-08T19:34:02.794+07:00รู้สึกเซ็งมาอีก - upset againหรือว่าจะเป็นวันนั้นของเดือน หรือว่าฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง<br />
<br />
วันนี้รอคนมาติดตั้งเครื่องซักผ้า นัดบ่ายโมง เค้ามาบ่ายสอง....เซ็งที่ 1<br />
<br />
ระหว่างติดตั้ง เค้าเปิดมือถือดูรายการตลกไปด้วย เราก็คิดว่า ชีวิตมันชิว ๆ ดีเนอะ คิดว่าเค้าดูมีความสุขในชีวิตกันจัง แล้วเราล่ะ การที่ต้องมาติดต่อเรื่องต่อเติมบ้าน ให้เค้ามาทำนั่นนี่นู่นให้ที่บ้าน เป็นงานที่เราไม่ชอบเลย มันเหมือนต้องอยู่คนละฝั่งกับคนที่เราไปจ้างงาน แบบว่า ต้องคอยจับผิดเค้า ช่างมือดำแล้วทำกำแพงเลอะเงี้ย เราก็ไม่ชอบ ต้องดูว่าเค้าทำงานเนี้ยบมั้ย ต้องติ ต้องคอยตรวจงาน เป็นอะไรที่ไม่สนุกเลย เครียด กลัวว่าเราจะโง่รึป่าว กลัวว่าเค้าจะหลอกรึเปล่า แล้วช่างเค้ารู้จริงมั้ย อะไรเงี้ย ไม่สนุกเลย เซ็งที่ 2<br />
<br />
ไปร้านติดตั้งครัวบิ๊วอิน ทำสัญญา ครัวนี่ก็แพงสลัด ๆ ทำอะไรนิดอะไรหน่อย ก็คิดเงิน ถ้าจะติดติดซิงค์ 800 นี่คือต้องมีท่อน้ำดีน้ำทิ้งให้ละนะ เราต้องไปหาช่างที่อื่นมาหาท่อน้ำดีท่อน้ำทิ้งในผนังให้อีก มือจับแบบตัว J อันละ 200 แล้วถ้าจะเจาะผนังก็ไม่รับประกันอีก ทำปลั๊กไฟจุดละ 500 หินสังเคราะห์สีขาวแพงกว่าหินสีดำอีก วัสดุไฮกลอสแพงกว่าพาทิเคิลเคลือบลามิเนตอีก แล้วที่เราชอบนี่แพง ๆ ทั้งนั้น จัดเต็มเป็นแสน รู้สึกหวิว ๆ เลย เราเอาบัตรเดบิตให้รูด รูดไม่ผ่านอีก บัตรหมดอายุ เอ้อนั่น เซ็ง 3 จะโอนเงิน โอนเกินครั้งละ 5 หมื่นไม่ได้อีก เสียค่าธรรมเนียม 2 รอบ เซ็ง 4<br />
<br />
พอละ ๆ<br />
<br />
เรื่องดี ๆ คือ เกิดมาหน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์มีกล้อง รถก็สตาร์ทติดดี แอร์เย็น มีข้าวกิน มีเงินจ่ายค่าซื้อของ แค่นี้ก็ดีแล้วชีวิตnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-39087752880434390032017-08-13T10:46:00.000+07:002017-08-13T10:46:13.038+07:00ช่วงนี้รู้สึกเบื่อชีวิต - depressช่วงก่อนก่อน<br />
เปลี่ยนยาง เพราะว่ารู้สึกว่ายางมันผิวแบบแตก ๆ แล้ว ไม่มั่นใจเวลาขับรถฝนตก<br />
<br />
ช่วงก่อน<br />
รู้สึกโดนตัดหางปล่อยวัด โดยการที่ต้องจ่ายค่าพรบ. ประกันรถเอง<br />
<br />
ช่วงนี้<br />
ต่อเติมบ้าน ใช้เงินตัวเอง รู้สึกเงินจะหมด ไม่มั่นคงเลย และต้องคิดว่าจะต่อเติมบ้าน ทำครัวทำหลังคาแบบไหน ซึ่งเป็นงานที่ไม่ชอบทำ ไม่ได้อยากจะคิดว่าจะใช้กระเบื้องลายไหนขนาดเท่าไหร่ อะไรขนาดกี่เซนติเมตร อะไรสู่งกี่เซน ท็อปเคาน์เตอร์แบบไหน หลังคาแบบไหน เสาแบบไหน เอาเสาวางตรงไหน หลังคาตรงไหนถึงตรงไหน ไม่ชอบคิดพวกนี้ แต่อยากให้มันเสร็จมาแล้วถูกใจเลย ซึ่งในความเป็นจริงเราก็คิดว่า มันจะถูกใจนั้นคงเป็นไปได้ยาก ถ้าเราไม่บอกว่าเราอยากได้อะไร<br />
<br />
ทำฟอนต์มา 10 ฟอนต์ ขายได้รวม ๆ ทำมาสองเดือน ก็ $168.98 มันก็พอได้นะ แต่ก็ยังไม่พอใจ<br />
<br />
ไอคอนก็รายได้ลดลง<br />
<br />
ภาพสต็อกก็ทรง ๆ<br />
<br />
รวม ๆ ก็เดือนละพัน แต่ก็ยังรู้สึกไม่อุ่นใจ<br />
<br />
การมีเงินก็ไม่ได้ประกันว่าเราจะรู้สึกสงบอุ่นใจ เราจะต้องมีเงินเท่าไหร่เราถึงจะรู้สึกอุ่นใจว่ามีเงินแบ็คอัพเราอยู่ หรือจะเป็นเพราะว่า ถึงเราจะหาเงินได้เยอะ แต่พ่อเราบอกว่ ระวังไม่สบายและเงินก็จะหมดไปกับการรักษาตัว เพราะว่าเราไม่ได้เป็นข้าราชการ สิ่งนี้หรือมันอาจจะฝังเข้าไปในจิตใต้สำนึก ถ้าเราคิดว่าเราอาจจะไม่สบายแล้วเงินจะหมด มันก็อาจเกิดเหตุการณ์เราไม่สบายแล้วเงินก็หมดจริง ๆ ก็ได้ พ่อไม่น่าใส่โปรแกรมแบบนี้ให้เลย แต่ในเมื่อพ่อใส่โปรแกรมมาแล้ว เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว เราก็ต้องรีโปรแกรมใหม่<br />
<br />
เราต้องผ่านช่วงเวลานี้ไป เรารู้ตัวว่าเราเศร้า เศร้าอะไรก็ไม่รู้ วันนี้ล้างจานอยู่ นึกถึงพ่อแม่ก็เศร้า เศร้าที่เราทั้งหมดมีกรรมร่วมกัน เศร้าที่พ่อแม่จะต้องมีลูกแบบนี้ ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ และลูกก็ต้องมีพ่อแม่แบบนี้ ทำให้ลูกทุกข์ใจ กรรมที่เจ็บแสบที่สุดคือกรรมที่เกิดกับคนในครอบครัว เพราะมันหนีไปไหนไม่ได้ ยังไงมันก็คือคนในครอบครัว ดูสิ สังสารวัตร แต่เราก็เกิดมาแล้ว ก็ใช้ชีวิตไป หาเงินใช้ชีวิตทางโลกให้มันหมดชาตินี้ไป ระว่างทางก็ปฏิบัติธรรมไป พอตายไปก็ไปนิพพาน คิดมันก็คิดได้ แต่ความเบื่อความเศร้าความซึม มันก็จะแวะเวียนมาหาเราอยู่ร่ำไปน่ะนะ<br />
<br />
แวะมาอัพเดทบล็อกก็เมื่อเวลาแย่ ๆ บล็อกนี้มันศูนย์รวมความคิดลบ ๆ จริง ๆ<br />
<br />
แต่ก็ดีเมื่อได้เขียน จะได้ทบทวนความคิด จะได้ระบายความคิดออกไปบ้าง เรารู้สึกว่า ไม่มีคนฟังเรา เพื่อนไม่ฟังเรา เพื่อนฟังแล้วก็ตอบสนอง แบบไม่เข้าใจเราอะ พอเราพูด เขาก็จะบอกว่า ถ้าเป็นเขาเขาจะงั้นงี้งู้น มันก็ใช่ไง ก็ถ้าเป็นเขา เขาไม่รู้สึก เขาจะทำงั้นงี้งู้น ก็เป็นเรื่องของเขา ก็ถูกแล้ว แต่เราไม่ได้รู้สึกว่า ถูกเข้าใจ เพราะฉะนั้น ต่อไป ไม่ต้องพูดให้ใครฟังดีกว่า หรือไม่ก็ต้องเลือกคนที่จะพูดให้ฟัง<br />
<br />
แต่สิ่งดี ๆ ของครอบครัวคือ พ่อแม่ พ่อแม่ ถ้าเราบอกให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่จะฟังเรา และถึงเราทะเลาะหรือรู้สึกแย่ ๆ กับพ่อแม่บางครั้ง แต่มันก็จะไม่มีทางเลิกคบหรือเลิกคุยกันแน่ ๆ เพราะยังไงเราก็คือพ่อแม่ลูกกัน แต่กับเพื่อนเราสามารถตัดขาดไปเลยก็ได้ พ่อแม่ก็ดีอย่างนี้<br />
<br />
ถ้าทำบ้านเสร็จ ถ้าเงินเหลือ อยากไปบาหลี ไม่รู้ว่าจะไปทำไมเหมือนกัน ก็ไป ๆ มัน อยากหาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ทำไมน้อ คน gen y มันขี้เบื่ออย่างนี้ เมื่อไหรจะเจอสิ่งที่ใช่ "my thing" อะ เราเล่าความเครียดเรื่องบ้านให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ก็บอกว่า เดี๋ยวจะออกตังค์ให้ บางครั้งพ่อแม่ก็บล็อกเรา บางครั้งพ่อแม่ก็จะช่วยเรา เห้อออออ....<br />
<br />
รู้สึกไม่ไว้ใจใครเลยอะ เราไม่สามารถฝากชีวิตหรือความรู้สึกหรือคาดหวังคนอื่นได้เลย พอไม่ไว้ใจใครก็จะรู้สึกโดดเดี่ยว แล้วเราก็จะใช้ชีวิตไปวัน ๆ มันก็แค่ตื่นมา หาอะไรกิน ไปวาดรูป ไปโยคะบ้าง กลับบ้าน ชีวิตมันแค่นี้เหรอ คนเราเกิดมาแค่นี้เหรอ เราเลยเบื่อไง แต่เราถามแม่ แม่ก็ไม่เบื่อนะ คนอื่นอาจจะไม่เบื่อ คนที่เบื่อคือคนที่มีปัญหาหรือเปล่านะ เราก็รู้ด้วยนะว่าความสุขมันอยู่ที่เรา ไม่ได้อยู่ที่คนอื่นไม่ได้อยู่ที่สิ่งของภายนอกที่จะทำให้เรามีความสุข รู้แต่ก็ไม่สามารถไปถึงความสุขนั้นได้ ข้าวก็มีกิน บ้านก็มีอยู่ เงินก็มีใช้ แล้วชีวิตยังไม่รู้สึกอุ่นใจและความสุขอีก เห้ออออ.....<br />
<br />
รู้สึกว่าไม่มีที่อยู่ที่บ้าน ไม่มีที่นั่งทำงานหน้าคอม ต้องขึ้นไปทำบนห้อง มันบรรยากาศไม่ดีเลย มันมืด เปิดแอร์มันก็หนาว เตียงก็ยุบ มันห้องนอนอะ มันเก้าอี้ไม้แข็ง ๆ กับโต๊ะพับที่พ่อซื้อไว้ในห้อง นั่งทำงานได้ไม่ดีเลย พอลงมาข้างล่าง ก็ไม่มีโต๊ะนั่งของตัวเอง และที่บ้านก็เปิดทีวี ในทีวีก็มีแต่ข่าวแย่ ๆ แย่แบบแย่ ๆ มีแต่เรื่องชาวบ้านแบบว่าไม่รู้ซะยังจะดีกว่า รู้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นมา แต่ที่บ้านก็เปิดทีวีตลอด พอเรามาอยู่ข้างล่างเราก็ต้องฟังข่าวหรือดูภาพอะไรพวกนี้น่ะเหรอ เราก็ขึ้นไปอยู่บนห้อง บนห้องก็ไม่เวิร์คอีก แบบไม่มีที่อยู่อะ เห้ออออ......nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-16852776373271268902017-06-07T00:10:00.000+07:002017-06-07T00:14:00.071+07:00ไม่มีอะไรจะบ่นเลย - nothing to complainเริ่มบล็อกนี้จากการอยากบ่น บ่น ๆ บ่นไปในเน็ตให้คนผ่านไปผ่านมาได้อ่าน(คนที่ผ่านมาอ่าน ก็ว่างเนอะ อ่านเรื่องบ่นชาวบ้าน ฮาาาา)<br />
<br />
พอเขียนไป ๆ ความคิดเราก็ปรับไป เปลี่ยนไป จนถึงจุดที่เข้าใจว่า บ่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น พอในชีวิตจริงเลิกบ่น ชีวิตในเน็ตก็เลิกบ่นไปด้วย เลยไม่ได้เขียนบล็อกเลย เอ้า!<br />
<br />
ชีวิตคนเราดีขึ้นได้จากการเปลี่ยนความคิดจริง ๆ เมื่อโลกภายในเปลี่ยน โลกภายนอกก็เปลี่ยนตาม ปัญหาที่เราผ่านมันมาได้ ก็ทำให้เราเก่งขึ้น ช่วงขาลงก็ขาลงชั่วคราว ที่จริงช่วงขาขึ้นก็ขาขึ้นชั่วคราวด้วยนะ โลกเรามันก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้าเริ่มเข้าใจสัจธรรมนี้ เราก็ไปนิพพานกันเถอะ ไม่ต้องมาเกิดกันอีกแล้ว เมื่อมีเกิดก็มีแก่เจ็บตาย มันก็วน ๆ อยู่อย่างนี้ ดังนั้น แบ่งเวลาหันหน้าหาทางธรรมกัน<br />
<br />
ทุกวันนี้ชีวิตเรา ทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ ที่ไหนก็ได้ อยากทำเมื่อไหร่ก็ทำ อยากหยุดก็หยุด ขายรูปออนไลน์อะนะ เอาไลฟ์สไตล์ชีวิตเป็นที่ตั้ง แล้วก็ทำไป บางอย่างในชีวิตมันก็ไม่ได้ตรงไปตรงมา พูดอธิบายยากเนอะ แต่ส่ิงที่จริงเลยคือ ทุกอย่างเริ่มจากความคิดทั้งนั้น ไปดีกั่ว บั๊ยnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-91078135411789707872017-02-03T22:09:00.000+07:002017-02-03T22:09:07.422+07:00สรุปค่าใช้จ่ายไปลองอยู่อเมริกา - cost to live in USAช่วงนี้ค่าเงินอยู่ที่ประมาณ 35 บาทกว่า<br />
<br />
ไป 42 วัน 41 คืน Dec 20,2016 - 31 Jan, 2017<br />
<br />
<b>ทั้งทริป อยู่ที่ $4394.23 ประมาณ 153929.88 บาท</b> ว้าว ๆๆ เราก็สามารถใช้เงินเราได้ทั้งหมดนะเนี่ย คือแบบ เราก็เจ๋งเหมือนกันนะ มีเงินแสนห้าไปเที่ยวอะ (ยักไหล่)<br />
<br />
ตั๋วเครื่องบิน<br />
- Korean Air CNX-ICN-SFO ไปกลับ 32565 บาท คิดเป็น $930.43<br />
<br />
ค่าที่พัก $1359.88 แยกได้ดังนี้<br />
- คนในเครกลิสต์ 2 คืน 66<br />
- Amsterdam hostel 5 คืน 150.65<br />
- Adelaide Hostel 4 คืน 221.42 ไม่น่าเลย จองใน booking.com มันบวกค่านั่นนี่เพิ่ม วิธีจองที่ถูกที่สุดคือ จองในเว็บของโฮสเทลเอง จำไว้เลย<br />
- Airbnb แถว sunset district 7 คืน 258 นี่ก็บวกเพิ่มจุกจิก ไม่ได้ถูกกว่าอยู่โฮสเทลเลยเอาจริง ๆ ไม่มีอาหารเช้าด้วย แต่เราอยากลองใช้ Airbnb ดู และอยากลองอยู่แถบบ้านคนดู เลยเลือกที่นี่<br />
- Adelaide Hostel รอบสอง พัก 23 คืน 663.81 รอบนี้อีเมลไปขอราคาพิเศษ เพราะจะพักนาน ก็ได้ด้วย เหลือคืนละ 28.57 ก็ดี นอนยาวเลย<br />
<br />
ค่ากิน ใช้ เดินทาง ตอนอยู่ซานฟรานแบบเต็มที่ คิดเป็น $2103.92<br />
อยากกินอะไรก็กิน กินปู กินอาหารญี่ปุ่น สเต็ก กินกาแฟ ชามุก กินอาหารแบบประหยัดก็มีนะ ช่วงที่ไปแรก ๆ ซื้ออาหารแช่แข็งมากิน ฯลฯ<br />
<br />
<br />
ความคิดช่วงนี้<br />
การไปซานฟรานครั้งนี้ ทำให้เราขยายคอมฟอร์ตโซนของเราออกไป เราสามาถทำอะไรก็ได้ ถ้าเรามีเป้าหมาย แต่เรารู้สึกเนือย ๆ เฉื่อย ๆ อะ คือคนเรา ถ้าตั้งเป้ามันทำได้ แต่ปัญหาคือ ไม่มีเป้าไง ไม่รู้ทำไม คือเราไม่อยากทำอะไร ไม่อยากไปไหนเลย นี่คือความรู้สึกของช่วงนี้นะ<br />
<br />
มีอยู่ทีนึงตอนอยู่ซานฟราน 3 สัปดาห์ได้ รู้สึกเบื่อมากเลย แบบเออ ก็ซานฟราน จะเลื่อนตั๋วเครื่องบินกลับไทยเลยมั้ย อะไรเงี้ย แต่ก็อยู่ให้ครบตามที่วางแผนไว้ คือแบบเราก็คิดว่า คนเราก็แค่คิด แล้วก็ทำตามแผน ก็แค่นั้นแหละชีวิต เราไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเท่าไหร่เลยอะ ถ้าผิดแผน ก็หาทางใหม่ ถ้าตามแผนก็ทำไป อะไรเงี้ย ไม่มีตื่นเต้น ดีใจ เสียใจแบบสุด ๆ เลย<br />
<br />nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-91288384488347592042017-01-29T02:58:00.000+07:002017-01-29T02:58:11.557+07:00อีก 3 วันกลับบ้าน - 3 days to go back homeสวด ๆ ไปเลย อยู่จนไม่รู้จะทำอะไร<br />
<br />
เต็มที่มากเลย พอใจมาก อยู่เต็มที่ กินเต็มที่ ไม่อดอยาก ไม่โหยหาอาหารไทย ร้านอาหารไทยเยอะดี<br />
<br />
ดีแล้วที่ตัดสินใจมา ถ้าไม่มาก็ไม่แล้วใจซักที ขอบคุณที่มีเงินมากินใช้<br />
<br />
อยู่โฮสเทลมากเกินไป โหยหาความเป็นส่วนตัว<br />
<br />
หนาวเกินไป ในตอนแรก แต่ตอนนี้ก็เริ่มอุ่นขึ้นมาละ ก็โออยู่ คนเราต้องการที่อุ่นที่อยู่เพื่อพัก และพร้อมที่จะไปเผชิญที่เย็นข้างนอก แต่ถ้าที่พักไม่อุ่นจะซัฟเฟอร์มาก<br />
<br />
กิน จนไม่รู้จะกินอะไร<br />
<br />
เดินจนปวดเข่า หลัง ๆ ไม่อยากเดินละ ขี้เกียจเดิน เลยนั่งรถบัสเอา<br />
<br />
บางวันก็กลัว กลัวอะไรก็ไม่รู้ กลัวโฮมเลสเข้ามาหา หรือมาพูดด้วย<br />
<br />
กลัวสายตาคนอื่น ต้องก้าวข้ามอันนี้ไปให้ได้ ต้องช่างมัน<br />
<br />
ถนนหนทางตอนหลัง ๆ นี่ดีเพราะเริ่มจำถนนได้ ไม่ต้องดูแผนที่บ่อย<br />
<br />
ขึ้นรถสาธารณะหลายอย่าง รถบัส ไลท์เรล รถbart รถราง รถ อยู่ powell เคยไปรอรถสาย N ที่รอรถบัส รอยังไงก็ไม่มา มาแต่สายตัวเลข กับสาย F รอจนเหนื่อย เลยเซิชเน็ตดู อ้าว ต้องลงไปรอที่สถานีรถ bart ข้างล่าง โอ เก็ตเลย<br />
<br />
มานี่ได้อะไรบ้างนะนี่<br />
<br />
ได้รู้จักเมืองซานฟรานซิสโก มันก็เป็นอีกเมืองหนึ่งอะนะ มีคน มีห้าง มีร้าน มีอะไรต่าง ๆ เหมือนที่ไทยมีนี่แหละ มันเป็นวิถีชีวิตของคนเมืองนี้<br />
<br />
มาได้เห็นความเหลือเฟือของอเมริกา อาหารไซส์ใหญ่ ทิชชู่มีใช้ไม่ขาด กาแฟกับชามุกราคาพอ ๆ กัน<br />
<br />
สตาร์บัคส์ก็คือกาแฟที่มีมาตรฐานหนึ่งในอเมกา มันราคาอเมริกาพอมาบ้านเรามันก็เลยแพง ที่นี่ คนโฮมเลสก็กินสตาบัคส์ เอาแก้วสตาร์บัคส์นั่นแหละมาขอเงิน โอ้ย<br />
<br />
จะดีมาก ๆ ถ้าซานฟรานไม่มีโฮมเลส ไม่ชอบโฮมเลสจู่โจมเลย หะ ๆๆ แต่พอไปเดินแถวทางบ้านคน หรือทางที่ไม่มีโฮมเลส มันก็รู้สึกดีอะนะ โฮมเลสชอบอยู่ถนน market, eddy, ellis, leavenworth และตามห้องสมุดและสวนสาธารณะต่าง ๆ เราก็ทำใจกล้า ๆ เดินไปอะนะ เดินไม่หยุด ก็ไม่มีอะไรนะ หรือบางทีเราคิดมากไปเองก็ไม่รู้<br />
<br />
คนแปลก ๆ เยอะ เดินพูดคนเดียว นั่งรถสาธารณะต่าง ๆ แล้วก็พูดอยู่คนเดียว คือแบบก็กลัวเบา ๆ อะนะ อย่ามาใกล้ แต่บางทีกลิ่นนี่ก็แบบแรงอะนะ<br />
<br />
สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือ ปู ที่ฟิชเชอร์แมนส์วอฟ มาก็จะมากินปูนี่แหละ<br />
<br />
ช็อกโกแล็ตร้อน กิลาเดลี อันนี้ก็อร่อย วิปครีมอะไรไม่รู้ อร๊อย อร่อย 55nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-34647656847269622762017-01-08T12:30:00.000+07:002017-01-08T12:30:05.816+07:00วันที่ 16 ในเมกา - 16 days<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="epmgr-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqXTnBBbSA-fbqr-lyEf6AaPc5jOAev3tyMzLNpICClA6zyvvaKRolP9634yHhCSjDS1vRryYf5iyuex13vkazV3cLtdcR4fwecPpDUKM0rpUlihYyvuRK4d1CihvkZb_RXv59uDNMeUg/s1600/DSC_6700.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="426" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgqXTnBBbSA-fbqr-lyEf6AaPc5jOAev3tyMzLNpICClA6zyvvaKRolP9634yHhCSjDS1vRryYf5iyuex13vkazV3cLtdcR4fwecPpDUKM0rpUlihYyvuRK4d1CihvkZb_RXv59uDNMeUg/s640/DSC_6700.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">เมืองซานฟรานซิสโก มองเห็นเบย์บริจด้วย</td></tr>
</tbody></table>
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="epmgr-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="epmgr-0-0" style="font-family: inherit;"><br /></span></div>
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="epmgr-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span style="font-family: inherit; letter-spacing: -0.24px;">[วันที่ 16 เริ่มรู้สึกอินกับเมือง] จะเล่าให้ฟังฮะ พิมพ์มาเมกา เพราะว่าอยากรู้ว่า ถ้ามาอยู่แล้วจะรู้สึกยังไง การมาอยู่ประเทศโลกที่หนึ่งนี่ ความคิดแรกคือ มันต้องดีมาก ๆ แน่ ๆ เลย ทั้งผู้คนเฟรนลี่และบ้านเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อยและความอิสระในการแสดงออกของผู้คน</span></div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="acurt-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="acurt-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="acurt-0-0" style="font-family: inherit;"><br data-text="true" /></span></div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="f7rsr-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="f7rsr-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="f7rsr-0-0" style="font-family: inherit;">วันนี้ต้องไปทำภาระกิจคือเอากาแฟไปให้เพื่อนของเพื่อนที่ยูซีเบิร์กลี่ ซึ่งอยู่เมืองใกล้ ๆ กัน ต้องนั่งรถไฟไป ตามสเต็ป คือนั่งรถไฟ(ชื่อว่ารถ BART)ผิดสาย ก๊ากกก ก็ถามเจ๊ที่นั่งข้าง ๆ นั่งสัปหงกอยู่ เป็นชาวเอเชียเหมือนกัน(แถวนี้เอเชียเยอะ) ว่านี่รถไฟสายสีอะไรเนี่ย ขึ้นมามั่วเนี่ย รถนี้จะไปไหน เขาก็บอก เราก็ออ ๆ พอจะเริ่มจับทางได้ (จากประสบการณ์เคยใช้แต่บีทีเอสที่กทม. มันก็มีแค่สองสาย อันนี้มันมีสี่ห้าสาย ก็งง) ก็คือต้องดูป้ายที่ชานชาลา เวลารถไฟมา มันจะบอกเราว่ารถนี้ปลายทางไปไหน</span></div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="96kql-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="96kql-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="96kql-0-0" style="font-family: inherit;"><br data-text="true" /></span></div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="6v2jn-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="6v2jn-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="6v2jn-0-0" style="font-family: inherit;">พอกลับ รถ BART ก็เริ่มชิว แบบก็ดูสายรถ ไม่ลนเหมือนนั่งครั้งแรก(จริง ๆ นั่งครั้งแรกที่สนามบิน แต่มันเป็นปลายทางก็ไม่ยาก คือนั่งอันไหนมันก็เข้าเมืองเมืองทั้งนั้น) ก็นั่งรถกลับ แวะซื้อของแถวร้านซีวีเอสที่ซีวิคเซ็นเตอร์ ก็เจอคนโฮมเลสประปราย แต่ไม่ได้รู้สึกกลัวเหมือนตอนแรกแล้ว เค้าก็อยู่ของเค้าไป เราก็เดินของเราไป แล้วก็นั่งรถบัส(ชื่อว่ารถมูนิ)กลับบ้านแอร์บีเอ็นบี พอใกล้ ๆ ถึงบ้านก็นั่งรถบัสเลยป้ายไปเพราะว่าจะไปซื้ออาหารเย็นก่อนกลับบ้าน(ทำตัวเหมือนคนเมือง รู้แล้ว ว่าต้องลงรถยังไง อี้ว่ะ ก็นั่งไป) ก็ไปซื้อสตรอเบอรี่มาเป็นอาหารเย็น แล้วก็เดินกลับบ้านอีกประมาณสิบนาที</span></div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="660s9-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="660s9-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="660s9-0-0" style="font-family: inherit;"><br data-text="true" /></span></div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="fcepe" data-offset-key="flt08-0-0" style="background-color: white; color: #4b4f56; font-family: "San Francisco", -apple-system, BlinkMacSystemFont, ".SFNSText-Regular", sans-serif; font-size: 14px; letter-spacing: -0.24px; white-space: pre-wrap;">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="flt08-0-0" style="direction: ltr; font-family: inherit; position: relative;">
<span data-offset-key="flt08-0-0" style="font-family: inherit;">ระหว่างเดินก็คิดว่า ชีวิตมันก็เป็นอย่างเงี้ยเนาะ เมืองนี้ก็มีชีวิตแบบนี้ ไม่ได้มีอะไรว้าว ๆ แต่มันเป็นของมันแบบนี้ และวันนี้เป็นวันที่รู้สึกว่า เออ เริ่มอยู่ได้ เริ่มรู้ทาง รู้ว่าไปไหนอะไรยังไง เนี่ยแหละ ประสบการณ์ชีวิต ที่ได้มาสัมผัสเอง เมืองซานฟรานซิสโกนี่ก็มีอะไรหลายอย่างเหมือนเมืองไทยนั่นแหละ แต่ที่ไทยถูกกว่า(ก๊ากกก) แต่ที่นี่อาหารจะจัดเต็มในเรื่องของปริมาณอะนะ และกาแฟแถวนี้ก็ใช่ว่าจะอร่อยทุกร้าน มันก็มีทั้งดีและไม่ดี คือที่ไหน ๆ ก็มีความหลากหลายแตกต่างกัน งี้แหละ</span></div>
</div>
nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-31162845972526105752017-01-03T06:24:00.001+07:002017-01-03T06:24:40.592+07:00อากาศหนาวกับความสุขที่หายไป - cold weather and the loss of happinessเมื่อวานย้ายจากโฮสเทลในดาวน์ทาวน์มาอยู่อีกฝั่งนึงคือฝั่ง sunset มันคือฝั่งที่อยูอาศัยมีบ้านอยู่เยอะ ๆ ร้านอยู่น้อย ๆ<br />
<br />
นั่งรถบัสสาย 7 มาอย่างสบายใจ ประมาณห้าสิบนาทีก็ถึงที่ เดินมาอีกหน่อยก็ถึงบ้าน บ้านนี้จอง airbnb ไว้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ อยากรู้ว่ามาอยู่ทางฝั่งเงียบ ๆ แล้วจะเป็นยังไง<br />
<br />
เดินมา เจอบ้าน เวลาประมาณ 11 โมงเช้านะตอนนั้น แต่ไม่ได้นัดเวลาเจ้าของบ้านไว้ ไปถึงก็บ้านล็อกอะสิทั่นผู้ชม! ทำไงดีวะ เวลานั้น มีกระเป๋าแบคแพ็คอันใหญ่หนึ่งอันสะพายหลัง อันเล็กหนึ่งอันสะพายหน้า พร้อมด้วย แถบนี้อยู่ใกล้ทะเล ลมแรงน่ะสิฮะ แถมยังหนาวเป็นพิเศษด้วยวันนี้ ตายแน่ ๆ เจอกริ่ง กดกริ่ง ....เงียบ ดีที่มีมือถือมีเน็ต เลยหาเบอร์เจ้าของบ้านแล้วแมสเสจไปหา ...เอหรือจะโทรดีนะ คิดในใจ แต่ก็ไม่โทร คิดอยู่ สักพักมีคนเดินออกมาพอดี เอ้ย ไอ ๆ เนี่ยไอจองแอร์บีเอ็นบีไว้ แต่ติดต่อเจ้าของบ้านไม่ได้ คนนั้นก็ถาม ยูอ่าน house's manual รึยัง อ้าว มีด้วยเหรอ แล้วคนนั้นก็เดินออกไปเลย พร้อมทั้งประโยคส่งท้าย That's your problem โอ้ กอชชช เยี่ย มายพรอบเบล็ม แต่ก็ยังดี เค้ายังเปิดประตูให้หนึ่งชั้น มันจะมีประตูด้านในอีกชั้น ซึ่งใส่โค้ดไว้<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEivu26C4NOV8cKbpOSFihaVqZVKUvpZs7UoZEghOjupQP2JkLZ9HlhMjGm1CHh9Ya3mrFzU4Bfo1CYg4TPiZxHBXppRgcie6sB5NdcAjo-HSgLKVI4GRKOZyiBTN2XGPvZzqYpOTluLK5Y/s1600/IMG_2452.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEivu26C4NOV8cKbpOSFihaVqZVKUvpZs7UoZEghOjupQP2JkLZ9HlhMjGm1CHh9Ya3mrFzU4Bfo1CYg4TPiZxHBXppRgcie6sB5NdcAjo-HSgLKVI4GRKOZyiBTN2XGPvZzqYpOTluLK5Y/s320/IMG_2452.jpg" width="240" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ด้านนอกเป็นกุญแจแบบนี้ ซึ่งต้องใส่รหัสเพื่อเอาลูกกุญแจข้างในมาไขประตู<br />มันมีช่องเก็บของอยู่ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ</td></tr>
</tbody></table>
พออ่านในมือถือ จากที่จองแอร์บีเอ็นบี ที่เจ้าของบ้านให้ข้อมูลบ้านไว้ ได้ความว่า ด้านในมีหรัสผ่าน ดังนี้ **** ก็เลยลองกดดู โป๊ะเชะ แคร่ก! ประตูเปิดเว้ยเฮ้ย<br />
<br />
ดีใจมาก เข้ามานั่งข้างใน บ้านไม่มีใครอยู่เลย นั่งซักพัก กะว่ารอเวลา เพราะว่าเวลาเช็คอินจริง ๆ คือบ่ายสาม เราคิดว่าบ่ายสาม มันต้องมีใครซักคนมารับเราเช็คอินดิ<br />
<br />
ซักพักเจ้าของบ้านแมสเสจกลับมา พร้อมวิธีเปิดประตูหน้าบ้าน พร้อมวีดีโอสาธิตด้วยนะ เราก็เออเฮ้ย ใช้เป็นแล้ว ออกไปเดินเล่นดีก่า<br />
<br />
อื้อหือออออ เดินออกไปได้ซัก 10 ก้าว ยังไม่ทันข้ามถนน คือลมแรงทะลุเสื้อหนาวสองชั้น เราใส่เสื้อยืดหนึ่ง เสื้อหนาวสอง เอาไม่อยู่เฮ้ย แต่ในเมืองแบบนี้เอาอยู่อะ วกกลับมาด่วนเลยจ้า ต้องได้ควักเสื้อขนเป็ดปล้อง ๆ ของยูนิคโลมาใส่ มันกันลมได้ดีด้วย ใส่เสร็จแน่นมาก เลยเอาเสื้อขนเป็ดนี้ใส่ไว้ข้างในแทนแจ็กเก็ตตัวนอก เดินออกมา ก็โอขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังหนาวอยู่ มันลมมากจริง ๆ วันนี้<br />
<br />
ฝั่งนี้ของเมืองอยู่ติดกับทะเลแปซิฟิก มองจากถนนเห็นทะเลเลยอะ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJ-pA9HDcKKkExxouX4_c4TGTypliv7M0gJuw_8SODwmZeZQ7RhKPFKYW9zEI1ni5GLUmcv2a8BJ-N3Ickq7UQYgIucw_C5WdAheAZ2qGFLgzBj2ckk8jNy491Mg4gfpHBIwe6IEKbHgI/s1600/IMG_2451.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjJ-pA9HDcKKkExxouX4_c4TGTypliv7M0gJuw_8SODwmZeZQ7RhKPFKYW9zEI1ni5GLUmcv2a8BJ-N3Ickq7UQYgIucw_C5WdAheAZ2qGFLgzBj2ckk8jNy491Mg4gfpHBIwe6IEKbHgI/s640/IMG_2451.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">มองเห็นทะเลอยู่ข้างหน้า</td></tr>
</tbody></table>
<br />
<br />
ลองเดินไปทะเลดู คือแบบ ลมแรงมาก พัดทรายปลิว ทรายเข้ารองเท้าอีก ตีนก็เย็น ทรายก็ทราย แล้วคนแถวนั้น แม๊ง เดินเท้าเปล่าริมชายหาด ทรายสีดำด้วย ชายหาดก็ไม่ค่อยสวย แล้วก็มีคนเอาหมามาเดิน มีคนวิ่งออกกำลังกาย คือแบบ ถ้าอากาศงี้ที่ไทยคือ ไฟท์มากอะ แต่ที่นี่คงเป็นปกติ เทียบกับไทย อากาศเราโอเคกว่าเยอะเลย หนาวอะ ลมด้วย<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggRRx3l_a8eRLfap5E_FOY_26n2w1ES0sEXBFK-AhJqBDudw3ZwsI2maHBm6yaN2MRAuSynxg_yxdSx5tlL_Zu0GmqCjZ1Ryo_TnWTvq0RgkOPDZShhEXCBRnRLD85NfM3VQUY9evm14c/s1600/IMG_2485.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEggRRx3l_a8eRLfap5E_FOY_26n2w1ES0sEXBFK-AhJqBDudw3ZwsI2maHBm6yaN2MRAuSynxg_yxdSx5tlL_Zu0GmqCjZ1Ryo_TnWTvq0RgkOPDZShhEXCBRnRLD85NfM3VQUY9evm14c/s640/IMG_2485.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ลมแรงและหนาวจุง</td></tr>
</tbody></table>
จะหาร้านกาแฟนั่ง ปรากฏ คนเยอะทุกร้าน แม่เจ้า คือแบบต่อคิวจนล้นออกมานอกร้านอะ มันจะอะไรกันขนาดนั้น เลยแบบ โอ้ย เอาไงดีวะ เนี่ยก็บ่ายแล้วยังไม่ได้กินไร ร้านไหนก็คนเยอะ เลยเดินเข้าเซเว่น พร้อมกับซื้อเบอร์เกอร์ และของกินประทังชีวิต พร้อมทั้งมาม่าและไข่ กะว่าเอาไปกินที่บ้านก็ได้วะ เพราะว่าแบบว่า แถวนี้ไม่ค่อยมีร้านขายของเลยอะ แล้วก็หนาวอะวันนี้ ขี้เกียจออกมาอีก<br />
<br />
เดินกลับบ้าน กินอะไรไปซักพัก นั่งรอ ก็มีคนมาจริง ๆ ด้วย มาจัดเตียงจัดอะไรให้ เค้าทำบ้านเค้าเป็นที่พักอะ ซื้อเตียงสองชั้น เตียงเสริม กั้นห้องต่าง ๆ แล้วเจ้าของบ้านก็อยู่ชั้นล่าง แล้วให้เรา ๆ ทั่น ๆ อยู่ชั้นบน มีคนมาอยู่ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว บรรยากาศไม่เหมือนโฮสเทล บรรยากาศไม่เหมือนบ้าน บรรยากาศแบบเหมือนอยู่กับใครก็ไม่รู้ อะไรเงี้ย หรือเรายังไม่ชินก็ไม่รู้<br />
<br />
และปัญหาก็เริ่มตรงนี้ เราถามเค้าว่า มีฮีทเตอร์มั้ย เค้าบอกว่า มันเสีย น่าจะได้ซ่อมพรุ่งนี้ เราก็แบบ เหวอแล้ว ตายแล้ววันนี้ หนาวมาทั้งวัน นั่งเล่นคอม มือเย็นได้อีก<br />
<br />
นั่งเล่นคอมแบบเย็น ๆ อยู่มาถึงตอนเย็น ก็ไปอาบน้ำ เจอคนที่อยู่ห้องเดียวกัน เค้าบอกว่า เค้าก็อยู่แบบไม่มีฮีทเตอร์นี่แหละ เราแบบไม่มีความสุขเลยอะ กะว่ามาที่นี่จะนั่งเงียบ ๆ ทำงาน ปรากฏว่ามันหนาวจนทำงานไม่ได้ คือมันก็หนาวแบบ 7 8 9 องศาอะนะ แต่เราไม่ได้ขยับตัวไง มันเลยยิ่งหนาว แต่ถ้าออกไปเดินอะไรงี้ก็โออยู่ คือแบบไม่มีความสุขอะ คิดเลยนะว่า ฉันมาทำอะไรที่นี่ โฮสเทลที่อยู่ก็ดีอยู่แล้ว ที่อ่านรีวิวมาแล้วว่าที่นี่มันดีคืออะไร คิดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า เค้าเซฟค่าไฟหรือเปล่า เขามีแต่เขาไม่เปิดหรือเปล่า ดูสิ ความคิดทางแย่ ๆ ก็มา แบบไม่สนุกเลยอะ หนาวเกินไป<br />
<br />
บ่นกับเพื่อนที่อยู่ไทย บ่นไป กำลังคิดว่า เอาวะ ออกไปหาเบียร์กิน นี่ก็หกโมงกว่า น่าจะโอ กินเบียร์น่าจะอุ่นขึ้น เดินออกบ้านไป แปะ ๆ อ่าว ฝนตก! เอาวะ ตกนิดหน่อย เดินออกไปอีก แปะ ๆๆๆ เอ้ย หนาวก็หนาว ลมก็ลม ฝนตกอีก เดินกลับมาบ้านมาเอาร่ม ไฟท์มาก พอเดินออกไป ลมพัดแบบร่มจะปลิว ฝนก็ฝน แปะ ๆๆๆ ยังไม่ตกหนักนะ ตกแบบแปะ ๆ ลมด้วย คือเราไฟท์ไปว่ะ เราว่า เราเลยเดินกลับมาแบบยอมแพ้เลย<br />
<br />
ต้มมาม่ากิน รสต้มยำกุ้ง ยี่ห้อมาม่าที่ซื้อมาจากเซเว่นแถวนี้ โอ้โห หน้าตาดีเว้ย แต่พอกิน จืดดดดดดด จืดชืดมาก นี่เหรอคือต้มยำกุ้ง กะว่าจะเจอของเด็ดซะแล้ว ปรากฏไม่เด็ดเลย ก็แหลก ๆ ไปนะ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoh7cpWEC9wVbT7y14LYQrLcP8rbFWoMcP3vKP_p2jEbM-4JeCByZY5-Hm0esQOmYmMgQno_t4GPbUF-IWTxmBcKXeBKQrhf26_zuu0IkR2RTlZa0zqrZXFCAfDKa8dKsQOPBhomaHo08/s1600/IMG_2515.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoh7cpWEC9wVbT7y14LYQrLcP8rbFWoMcP3vKP_p2jEbM-4JeCByZY5-Hm0esQOmYmMgQno_t4GPbUF-IWTxmBcKXeBKQrhf26_zuu0IkR2RTlZa0zqrZXFCAfDKa8dKsQOPBhomaHo08/s400/IMG_2515.jpg" width="300" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">มาม่า ดูดี๊ ดูดี เหมือนต้มอยู่ไทยเลย</td></tr>
</tbody></table>
<br />
ไปอาบน้ำ ดีหน่อยว่ามีน้ำอุ่น หายหนาวมาได้นิดนึง แต่ก็ไม่อยากทำอะไรต่อละ ก็นอนแบบใส่เสื้อผ้าจัดเต็ม ก่อนนอนได้คุยกับรูมเมทเป็นเด็กอายุ 19 อยู่เลย ชาวเวียดนาม ภาษาอังกฤษดีมาก มาเรียนไบโอเมดดิคอลเอ็นจิเนียริ่ง อยู่มหาลัยวอชิงตันรัฐมิสซูรี่ ปิดเทอมเลยมาเที่ยว อะไรเงี้ย ดูเป็นคนฉลาดเลยทีเดียวเชียว ก็ดีได้คุยแลกเปลี่ยนแนวความคิด ตอนเราอายุ 19 เรายังไม่อะไรกะชีวิตเลย<br />
<br />
แล้วก็นอนตอนสี่ทุ่มกว่า<br />
<br />
กลางคืน รูมเมทอีกคนนึงเข้ามา เป็นผู้ชาย สักพัก นอนกรนจ้าาา<br />
<br />
คร่อก ๆๆ ทั้งคืน<br />
<br />
เอาวะ อยู่ไป ตื่นมาตอนเช้า หนาวอะ หนาวแบบไม่อยากลุก ลุกออกไปก็ไม่มีฮีทเตอร์ แต่สุดท้ายก็ลุก หาอะไรกิน แล้วก็คิดในใจว่า โอ...อาหารเช้าก็ต้องเตรียมเอง ที่โฮสเทลมีอาหารเช้าให้ มีกาแฟร้อน ๆ ให้ ที่นี่ ต้องทำเองหมดเลย ห่อเหี่ยวมาก ๆ<br />
<br />
ได้แต่นั่งเล่นคอมบ่นกับเพื่อนที่อยู่ไทย<br />
<br />
คิดอะไรไม่ออกเลย กะว่า จะย้ายที่อยู่ดีมั้ย จะอดทนอยู่ต่อดีมั้ย บลา ๆๆ นั่งอยู่หน้าคอมถึงสิบเอ็ดโมง มือเย็นอะ คิดอะไรไม่ออก ก็เลยคิดว่า เอาวะ เดิน เดินออกไปหาอะไรกิน หาร้านนั่ง อุ่นขึ้นน่าจะคิดอะไรออก ก็เดินออกไป<br />
<br />
มีน้องที่รู้จักกันที่ไทย เขาโตที่นี่ เขาชวนไปนอนบ้าน 2 คืน หนีหนาว ก็คิดอยู่ว่าไม่อยากรบกวนเขา ก็เลยบอกเขาว่า คิดก่อน<br />
<br />
จะหาร้านกาแฟนั่ง โอ้ย เต็ม เต็ม คือแบบ เต็มอะ ก็เลยเดินไปอีกตามถนน เจอร้านอาหารจีน เอาวะ คนน้อย เข้าไปนั่งกินข้าวก็ได้ อุ่นมาหน่อยเดียวเองอะ กินข้าวราดผัดบล็อกโคลี่ กินข้าวแถวนี้ได้มาแต่ส้อม เหอะ ๆ<br />
<br />
อิ่ม<br />
<br />
เดินกลับบ้าน ได้รับแมสเสจจากตัวแทนเจ้าของบ้าน ว่ายังซ่อมไม่ได้<br />
<br />
โอ่ย น่อ<br />
<br />
เราก็คิด ปัญหาอะไรที่แก้ได้ด้วยเงิน สิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา<br />
<br />
ก็เลยหาโฮสเทล จะอยู่เอาวะ โฮสเทลที่เคยอยู่นี่แหละ หาเปรียบเทียบราคาอะไรไป ตัวแทนเจ้าของบ้านเข้ามาจัดบ้านพอดี เขาจะมาเตรียมเตียง ประหนึ่งเป็นเฮาส์คีปปิ้ง แต่ก็เป็นเจ้าของบ้านด้วย บ้านนี้อยู่กันสองคนเจ้าของบ้านอะนะ คนนึงไม่อยู่(คนที่ลงลิสติ้งไว้ในแอร์บีเอ็นบี) อยู่อีกคนนึงเป็นตัวแทน<br />
<br />
เขาบอกว่า เขาคุยกับเพื่อนเขา เพื่อนเขาบอกว่า ลองเปลี่ยนถ่านน่าจะดี ถ่านแผงควบคุมฮีทเตอร์อะนะ<br />
<br />
เขาก็เลยซื้อถ่านมาเปลี่ยน ปรากฎว่า เปลี่ยนถ่านเสร็จ ดีจ้าาาาาาา<br />
<br />
ขอบคุณสวรรค์มาก ๆ เกือบกดจองโฮสเทล เกือบเก็บของออกบ้านไปแล้วอะ เราดีใจมาก ๆ ขอบคุณเขาและกอดเขาเลย<br />
<br />
บทเรียนครั้งนี้ เมื่อมีปัญหา ก็หาทางแก้ไข ไม่ว่าจะแก้ที่ปัญหาหรือถอยออกมา อย่างน้อยเราก็ต้องทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมั่งอะน่า ถ้าเขาไม่ซ่อมฮีทเตอร์ เราก็แค่ย้ายออก<br />
<br />
ช่วงเวลาก่อนตัดสินใจเป็นอะไรที่อึดอัดกับชีวิตจริง ๆ มันหนาว<br />
<br />
เราคิดว่าคืนนี้จะดีขึ้น ขอบคุณnongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-9177833636636785036.post-61581647065910493492016-12-29T13:12:00.001+07:002016-12-30T07:25:34.697+07:00Transit tour ที่เกาหลีช่วงก่อนวันจะไปอเมกา ว้าวุ่นมาก คำนวณว่าตังค์จะพอมั้ย จะนอนที่ไหน เซิช airbnb booking.com อ่านรีวิวที่ tripadvisor โฮสเทลนั้นเป็นยังไง ฯลฯ อ่านรีวิวนั่นนี่ พันทิป บล็อก อ่านไปทั่ว เป็นช่วงเวลาสะสมข้อมูล จะจองเลยมั้ย หรือจะงั้น จะงี้ หลับดึก และไม่ค่อยมีสติ หลุดโฟกัสง่าย<br />
<br />
เราต้องรอเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลี 9 ชั่วโมง ไปถึงหกโมง บินอีกทีสี่โมงเย็น ก็เซิชว่าสนามบินอินชอนมีอะไรบ้าง ปรากฏว่ามีทรานสิททัวร์ของสนามบิน สำหรับคนที่รอเครื่องนาน ไปทัวร์ในเกาหลีได้ เราก็คิดว่า เอาเนี๊ยแหละ ไปทัวร์ฆ่าเวลา จะได้เหยียบเกาหลีด้วย<br />
<br />
คืนวันบิน ไปอย่างเรียบง่าย ให้เพื่อนไปส่ง 1 คนที่หน้าสนามบิน เพราะบินดึกเลยไม่อยากให้ใครไปส่ง ออกจากเชียงใหม่ประมาณเที่ยงคืน ใช้เวลาบิน 4.55 ชั่วโมง ก็พยายามหลับ จะได้มีแรงไปเที่ยวเกาหลี เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าไทยไป 2 ชั่วโมง<br />
<br />
เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดี แถวหน้ามีเด็ก! เด็กทารกซึ่งร้องไห้แบบกรี๊ด ๆ ฟังแล้วจี๊ดเข้าไปในโพรงสมองเลยอะ<br />
สัจธรรมที่คิดได้คือ มีเกิดก็ต้องมีดับ มีร้องไห้ ก็ต้องมีหยุดร้องไห้ ก็พยายามทำใจเย็นไว้<br />
<br />
แต่สิ่งที่ช่วยชีวิตอีกอย่าง ซึ่งคุณแอร์ผู้แสนน่ารักเอามาให้ก็คือ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrHszSGoC61Fkj-1YL_e7osauCkMcmXUiNNyv54OXlhij6FTOz7MJ-fSQkQMsxQHBEMZ-P_i7UI0FLVmSTHDB4oTfgWaV32O3r12s1AbYyatjLA9ulyVZ1nf5H_iefazETQNUpLfR-fJk/s1600/IMG_1730.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="400" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrHszSGoC61Fkj-1YL_e7osauCkMcmXUiNNyv54OXlhij6FTOz7MJ-fSQkQMsxQHBEMZ-P_i7UI0FLVmSTHDB4oTfgWaV32O3r12s1AbYyatjLA9ulyVZ1nf5H_iefazETQNUpLfR-fJk/s400/IMG_1730.jpg" width="300" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">เอียร์ปลั๊กช่วยชีวิต แต่เอาอุดหูแล้วมันหูอื้อ ๆ ไงไม่รู้ แต่ก็อุดไป</td></tr>
</tbody></table>
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJnxGk_4CYS7Yc6Ayt0D4P-AoIaWdqQag3RxzEJp29S1kr_zmB2juIXgI9bNXv8YvdTiS3pb_qpJIVbtQHJFoLdjElZntbrghF5QGmjWw5K8oYV8R5OjYcit78D7jPm-vXcKxvPaHVw6I/s1600/IMG_1729.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJnxGk_4CYS7Yc6Ayt0D4P-AoIaWdqQag3RxzEJp29S1kr_zmB2juIXgI9bNXv8YvdTiS3pb_qpJIVbtQHJFoLdjElZntbrghF5QGmjWw5K8oYV8R5OjYcit78D7jPm-vXcKxvPaHVw6I/s640/IMG_1729.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">สิ่งอำนวยความสะดวก แต่เราไม่ดูหรอกนะ ดูแล้วจะมึนหัว</td></tr>
</tbody></table>
<br />
ตีสาม โดนปลุกมากินข้าว! เวลาไทยไง แต่เวลาเกาหลีก็ตีห้าแล้ว<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRTY972qsUkagJALnVxNJeGva7gCR1BjNdf12l6HFMkkIBstAMUqbUa-y-uW9nyph1SH7dXlzZQ8J6x9PolnNXbQQhetfJulf8Yz691rCQpgHePkA9KpVF4dqNgGXFkTEwN0DlSDPnU6c/s1600/IMG_1734.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRTY972qsUkagJALnVxNJeGva7gCR1BjNdf12l6HFMkkIBstAMUqbUa-y-uW9nyph1SH7dXlzZQ8J6x9PolnNXbQQhetfJulf8Yz691rCQpgHePkA9KpVF4dqNgGXFkTEwN0DlSDPnU6c/s640/IMG_1734.jpg" width="640" /></a></div>
<br />
<br />
ก็ต้องกิน อ่านในเน็ตเจอมาอันนึงเค้าบอกว่า ถ้าไม่อยากเจ็ทแล็กมาก จะไปประเทศไหนให้ปรับเวลาเป็นที่นั่นเลย ไม่ต้องมาคิดแล้วว่าเวลาไทยเท่าไหร่ เราก็เลย โอเค่ กิน!<br />
<br />
กาแฟขมมาก แหลกเกือบไม่ลง กินแค่ออมเล็ต ผัก โยเกิร์ต ก็อิ่มละ แตงโมอร่อยดี ชื่นใจ<br />
<br />
มาสนามบินอินชอนครั้งแรก<br />
<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhRbL96vqCsCeal5cL61t6q0iTy3LKiPYRJSUHuErumn8NWyvJwG6_WnojyllHqlumSGBxxYSvyVrM8OC1E_MAeJIBrWkBugXnoxHeKWx_by4kp0VGeCwqRKpt5MFTCP6kEnaiEVilJuSI/s1600/IMG_1740.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhRbL96vqCsCeal5cL61t6q0iTy3LKiPYRJSUHuErumn8NWyvJwG6_WnojyllHqlumSGBxxYSvyVrM8OC1E_MAeJIBrWkBugXnoxHeKWx_by4kp0VGeCwqRKpt5MFTCP6kEnaiEVilJuSI/s640/IMG_1740.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ว้าว ๆๆ อินชอน</td></tr>
</tbody></table>
ไหน โอ้ มีโต๊ะทรานสิททัวร์อินฟอเมชั่น ไปถามหน่อยซิ ด้วยความที่เราก็เป็นคนรอบคอบ ก็เลยจองในเน็ตไว้ก่อน(ก็กลัวมาแล้วไม่ได้ไป) ก็เอาเลขจองที่แคปไว้ในโทรศัพท์ให้เค้าดู<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg8TKIJ1y9Wm-f7dVgNiFPgfl_WoY9Z5C0nP5s1D1tKVqL2U8VM833Mt4f53QC9H9UWgi0T99rnL00TDxZDr80kiOT8xXpBBFZKQDEC3vqLvXvCK2HlA7DzJK8gUwJYBWm1kZagGeqZcmY/s1600/IMG_1743.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg8TKIJ1y9Wm-f7dVgNiFPgfl_WoY9Z5C0nP5s1D1tKVqL2U8VM833Mt4f53QC9H9UWgi0T99rnL00TDxZDr80kiOT8xXpBBFZKQDEC3vqLvXvCK2HlA7DzJK8gUwJYBWm1kZagGeqZcmY/s640/IMG_1743.jpg" width="480" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ได้ใบมากรอก</td></tr>
</tbody></table>
ปรากฏว่า ชั้ลต้องไปต่อแถวตรวจคนเข้าเมือง แล้วต้องไปที่โต๊ะทรานสิททัวร์ประตูแปด อะไรซักอย่าง ฟังเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็เลย เอาวะ ต่อแถว!<br />
<div>
<br /></div>
<div>
สิ่งที่เห็น....</div>
<div>
<br /></div>
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhy_CvP5Tdnb8-9bhsnz2caHh4g-cOW9BDUOQ56INmA2gMjbW9ALuZn7Vci1ka50MXhB5n7J-3wsLD4vssqEDvz4X2JeZfbwOj889Ts8yh8N-OHouXKXFgK-JqhAPItE9jYEoIoEPwWaD8/s1600/IMG_1742.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhy_CvP5Tdnb8-9bhsnz2caHh4g-cOW9BDUOQ56INmA2gMjbW9ALuZn7Vci1ka50MXhB5n7J-3wsLD4vssqEDvz4X2JeZfbwOj889Ts8yh8N-OHouXKXFgK-JqhAPItE9jYEoIoEPwWaD8/s640/IMG_1742.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ต้องไปให้ทันก่อน 7.45น. กิ๊สสสส</td></tr>
</tbody></table>
<div>
แล้วแถวยาวมาก ๆๆๆ นี่ก็เจ็ดโมงกว่าแล้ว แต่ก็ต่อไป เคยตกเครื่องมาแล้วเพราะตรวจคนเข้าเมืองเนี่ยแหละ ระหว่างต่อแถวก็กรอกใบบัตรขาเข้าไป ตรงที่อยู่เขียนว่า transit tour(จนท.เค้าเขียนให้อยู่ก่อนแล้ว) ต่อแถวไปก็ลุ้นไป สนามบินก็ไม่คุ้นเคย เพิ่งเคยมา</div>
<div>
<br /></div>
<div>
ก็ผ่านตม.มาได้อย่างฉิวเฉียด 7.40 ได้ วิ่งลงมาชั้นหนึ่ง เหลียวซ้ายเหลียวขวาตรงที่เอากระเป๋า เดินวนไปวนมา ไหนวะประตูแปด เดินไปถามจนท. เค้าบอกเดินออกไปอีก เอ้าาา ตรูเสียเวลาเดินวนไปวนมาเนี๊ย</div>
<div>
<br /></div>
<div>
7.45 น. รีบวิ่งไปตรงเคาน์เตอร์ทรานสิททัวร์เลยจ้า เอาใบให้เค้า จ่ายตังค์ $10 เป็นค่าอาหารกลางวัน $7 แล้วก็ประกันอีก $3 เค้าบอกว่า everybody is waiting for you แล้วก็มีเจ๊ผู้หญิงเสื้อดำบอกว่า follow me เราก็เดินตามเค้าไปเลยจ้า สรุปว่าทัน ดีใจมาก</div>
<div>
<br /></div>
<div>
ตอนแรกคิดด่าจะชิล ๆ เพราะว่าเครื่องลงหกครึ่ง ไปทัวร์แปดโมง โอ้ย เหลือ ๆ ปรากฏว่า มีต่อแถวตม.เนี่ยแหละ เกือบไม่ได้ไป</div>
<div>
<br /></div>
<div>
เดินออกประตูสนามบินไปขึ้นรถทัวร์ ลมเย็นเกาหลีปะทะหน้า ว้าวววว เกาหลีหนาวจุงงงงง<br />
<br />
นั่งรถทัวร์ไปโซล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนะ เราเลือก city tour 1 ใช้เวลา 5 ชั่วโมง จะได้ไป Gyeongbok palace กับถนนอินซาดง (Insadong street)<br />
<br />
ไปเดินวังก่อน<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrJ0x_4RZtahwhorZP5E5WPo4Qc-KtPpvJ6A2KV_y3lN7w1do6BONBI-WwB1txhWq550rWXHEzmSXcrqbPHSbQBkVAbqgTp8dFpkZA1GcprdcXhdsJoHnOiXdvjsKg8mKOdIQSkMI_VQY/s1600/IMG_1749.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgrJ0x_4RZtahwhorZP5E5WPo4Qc-KtPpvJ6A2KV_y3lN7w1do6BONBI-WwB1txhWq550rWXHEzmSXcrqbPHSbQBkVAbqgTp8dFpkZA1GcprdcXhdsJoHnOiXdvjsKg8mKOdIQSkMI_VQY/s640/IMG_1749.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">มันก็วังอะนะ มีตึกหลังคาทรงอย่างนี้ทั้งนั้น</td></tr>
</tbody></table>
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhpV9vYanwyTkbicCLt8pzto7_SDRDXdmTSvsmkIjIEKAumUIGeLIhsYumQGmlKN0kcEYqLfsN0hleKaaEGkllPR4YO48msPWNswZPu3ZUEk0wlsO1AWfv5eSyzgWZHwsMOLJgFrnCcyN4/s1600/IMG_1759.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhpV9vYanwyTkbicCLt8pzto7_SDRDXdmTSvsmkIjIEKAumUIGeLIhsYumQGmlKN0kcEYqLfsN0hleKaaEGkllPR4YO48msPWNswZPu3ZUEk0wlsO1AWfv5eSyzgWZHwsMOLJgFrnCcyN4/s640/IMG_1759.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">เงี้ย วัง</td></tr>
</tbody></table>
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0fEDFSLP2X5xYUe4Ckd4TPJp8yRQALJAb_am7LxQus1y-MjC32qMxvtjsOb_A6s_uiEn_rlUryfM_brCU5dKC3aPF46QHzCtdfV-Rn5IyijHFdbYOK5hlgg9HzoYEvat64iadqJBWfnI/s1600/IMG_1765.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0fEDFSLP2X5xYUe4Ckd4TPJp8yRQALJAb_am7LxQus1y-MjC32qMxvtjsOb_A6s_uiEn_rlUryfM_brCU5dKC3aPF46QHzCtdfV-Rn5IyijHFdbYOK5hlgg9HzoYEvat64iadqJBWfnI/s640/IMG_1765.jpg" width="480" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ไกด์จะกางร่มสีส้ม จะได้ดูไว้เป็นเครื่องหมาย กันเราหลง จะได้มองหา</td></tr>
</tbody></table>
<br />
แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันที่ร้านทัวร์จัดให้ เค้าจะมีให้เราเลือก 3 เมนู เราเลือกอันที่ 2 มันเรียกว่าอะไรจำไม่ได้ละ นั่งกันกันกับเพื่อน ๆ ที่ไปทัวร์ด้วยกันนั่นแหละ ก็ถือโอกาสได้สปีคอิงลิช แต่ละคนก็มาจากแต่ละที่จริง ๆ<br />
<br />
แล้วก็เดินเล่นถนนอินซาดง นัดเวลากลับกันตอน 11.35น. เพื่อกลับสนามบิน<br />
<br />
กะว่าจะไปหาชาเขียวกิน ก็เลยสุ่ม ๆ เอาซักร้านนึง<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhk9A7Xmv_mEeLH2RaHQnomzcsXejkMAqptAHC9DbzOeTd75auj7_IxAVUA77AkJGHRk2HzzsiQ7qFU4u3YMMQAeNH9s_eLYURXtCZq8m6fl6KIraxb0-7a-Jm0SLY3mCXK4rhN4guYFOw/s1600/IMG_1780.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="640" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhk9A7Xmv_mEeLH2RaHQnomzcsXejkMAqptAHC9DbzOeTd75auj7_IxAVUA77AkJGHRk2HzzsiQ7qFU4u3YMMQAeNH9s_eLYURXtCZq8m6fl6KIraxb0-7a-Jm0SLY3mCXK4rhN4guYFOw/s640/IMG_1780.jpg" width="480" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">มันก็ชาเขียวอะนะ แก้วนี้ถ้าซื้อแบบไม่นั่งกินที่ร้านจะได้ลดราคา<br />
อันนี้ 6700 krw ใช้บัตรรูดเอา ไม่ได้แลกตังค์มา เวิร์คอยู่</td></tr>
</tbody></table>
ก็เดิน ๆ ดู ก็เป็นถนนที่มีงานแฮนด์เมดขายเยอะอะนะ<br />
<br />
<table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" class="tr-caption-container" style="margin-left: auto; margin-right: auto; text-align: center;"><tbody>
<tr><td style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEirp4oBOrGZN0tgBLtwCS4e71YY8PD2_TjA6v9KSU2fKCdM1K5RFtrg_YMkpDTiWeO7C74ZijvZQZ-EjdN_HtZF5qpO18BaqAyTQ7XaU74kp-z3UMGCdgkwbT6g0B7bUBjD8YX_zNXh-HE/s1600/IMG_1782.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: auto; margin-right: auto;"><img border="0" height="480" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEirp4oBOrGZN0tgBLtwCS4e71YY8PD2_TjA6v9KSU2fKCdM1K5RFtrg_YMkpDTiWeO7C74ZijvZQZ-EjdN_HtZF5qpO18BaqAyTQ7XaU74kp-z3UMGCdgkwbT6g0B7bUBjD8YX_zNXh-HE/s640/IMG_1782.jpg" width="640" /></a></td></tr>
<tr><td class="tr-caption" style="text-align: center;">ขนมรูปขรี้ ไม่ได้ซื้อนะ ดูเฉย ๆ</td></tr>
</tbody></table>
<br />
เสร็จแล้วก็เดินกลับรถทัวร์ ลุงคนขับบอก no no no coffee เอ้า ที่ซื้อชาเขียวมากินนี่เอาขึ้นรถไม่ได้เหรอ ก็เลยต้องกินให้หมด<br />
<br />
ถึงเวลารถออก ด้วยชาเขียวที่กินเข้าไป จึงปวดฉี่ แต่ก็ต้องอดทน จนมาถึงสนามบิน ก็ไปฉี่<br />
<br />
และก็ต้องต่อคิวเข้าไปสนามบินชั้นในอีก นี่อุตส่าห์เตรียมเสื้อผ้ามากะว่ามาลองอาบน้ำนะ เซิชเน็ตมาเค้าบอกว่า ชั้นสี่ สนามบินอินชอนมีที่อาบน้ำ แต่เราก็คงขอบาย ขี้เกียจแล้ว<br />
<br />
อาบแบบเช็ดตัวทิชชู่เปียกเอาเฉย ๆ ก็ละกัน แล้วก็ไปรอหน้าเกตเลยดีกว่า ซึ่งกว่าจะเดินไปถึงเกต แบบว่า สนามบินก็กว้างสุด ๆ อะ เดินแล้วเดินอีก ในที่สุดก็มาถึงที่นั่งรอ มีมุมให้เสียบชาร์ตมือถือได้ด้วย และอินเตอร์เน็ตแรงดีจริง ๆ เอ้อ ตอนเข้าไปโซลก็มีพับบลิกไวไฟให้ใช้ทั่วไปเลยอะ ดีจริง ๆ อัพเดทได้ตลอดเว<br />
<br />
จบที่เกาหลีแต่เพียงเท่านี้ รอขึ้นเครื่องไปซานฟราน<br />
<br /></div>
nongpimmyhttp://www.blogger.com/profile/17042384523164560964noreply@blogger.com0