ผมจะไม่โทรหาเธออีกแล้ว
ปวดร้าว
ผมร้องไห้ ผมอ่อนแอ
ผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับเธอคนนี้ไว้ในบล็อกนี้ แต่ผมไม่พับบลิช และคงไม่มีวันพับบลิช
นี่เป็นการกระทำที่เป็นเหตุผล
เหตุผลที่ย่ำยี บดขยี้อารมณ์ความรู้สึกผมมาก ๆ
นี่ไง ผมทำตามเหตุผลแล้ว
ส่วนอารมณ์...เราก็อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย
เมื่อทำตามเหตุผล อารมณ์ก็ไร้ความหมาย
การให้ความใกล้ชิดกับใครสักคนหนึ่ง ความเจ็บปวดเป็นราคาที่คุณต้องจ่าย
คนที่รักกันมาก ๆ ยังต้องทะเลาะกันเลย ยิ่งทะเลากัน ก็ยิ่งเข้าใจกัน
ผมก็คนหนึ่ง ที่อยากจะเสี่ยงกับสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่า ผมก็ต้องยอมรับมัน
ทำไมชีวิตมันถึงเป็นแบบนี้
ผมหวังว่าผมจะเข้มแข็งขึ้น
หรือมันอาจจะเป็นอีกอย่างคือ
ผมจะกลัวมากขึ้น
กลัวที่จะรู้จักใครมาก ๆ ใกล้ชิดใครมาก ๆ
กลัวที่จะให้ความไว้วางใจใคร
ผมไม่รู้สึกเลยว่าใครจะรักผมจริง
ผมอยากรู้สึกว่าถูกรัก รู้สึกได้เอง
อยากมีความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของตัวเอง ไม่ใช่จากการบอกกล่าวจากคนอื่น
แม่ส่งอีเมลล์หาผม
ปีใหม่นี้ ลูกสบายดีอยู่ไหม? ไม่ได้กลับบ้านแม่คิดถึงอยู่ และเป็นห่วงด้วย เกรงจะเหงา แต่แม่+พ่อ+น้องก็ไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านเรานั่นแหละจ้ะ
คิดถึงและเป็นห่วง
ผมตอบกลับไป
เหมือนเดิม ขาดกำลังใจในการดำเนินชีวิตอะแม่ รู้สึกไม่มั่นคง กลัวไปหมดเลย เฮ้ออ..
แม่ตอบกลับมา
ลูกรักกำลังใจ ใครๆให้เป็นล้านก็ไม่เท่าเราให้ตัวเองนะลูก ลูกแม่เป็นคนดี+เก่ง อย่ากลัวที่จะดำเนินชีวิต ลูกมีแม่+พ่อ น้อง น้า ที่รักและเป็นกำลังใจและจะคอยดูแล+ช่วยเหลือ แม่สัญญาว่าจะดูแลลูกจนชีวิ ตจะหาไม่ วันที่ 12 ถ้าไปหาหมอมาแล้ว แม่จะโทร.หา ถ้าหมอให้กินยา แม่ก็อยากให้ลูกลองกินดู เพราะว่ายาจะช่วยปรับสารเคมีในสมองเราได้นะ
ผมอยากจะเชื่อในสิ่งที่แม่พูด แต่ผมก็คลางแคลงใจ ผมรู้สึกไม่มั่นคง
ใช่ ผมกลัว
กลัวไม่มีใครรัก
ผมจะมีค่าพอให้ใครมารัก
อาจารย์ที่ปรึกษาคนก่อนก็ทิ้งผมไป
เธอคนนั้น ก็ทิ้งผมไป
ผมกลัวถูกทิ้ง
No comments:
Post a Comment
คอมเมนท์ดิ ดิ ดิ ดิ!