พูดไม่ดีเลย พูดมาก
เราก็คงผิดเอง ที่จำวันเข้าเป็นวันที่ 4 ครั้งก่อนโทรคุยเจ้าของบอกว่าออกได้เป็นวันที่ 3
วันนี้เราโทรไปจะคอนเฟิร์มว่าออกวันที่ 3 เจ้าของบอกว่าเค้าไม่ได้ดูเอกสาร ต้องออกวันที่ 2
ขี้เกียจเขียนเป็นบทพูด มันจะยาว
แต่เจ๊คนนี้ พูดแบบไม่ให้เราได้พูด ทำไมไม่ฟังเราวะคะ พนักงานที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ก็ไม่อยากจะโทรไปจัดการเรื่องให้ ต้องให้เราติดต่อเอง เอ้ย ชีวิต
เจ๊: เวลาเค้าเช่าหอกันเค้าก็ต้องออกปลายเดือนกันทั้งนั้น ดิชั้นไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลยนะคะ
พูดไปโน่น
คุยกันไปกันมา เราก็ยอมโอเค จ่ายรายวันต่ออีก 1 คืน แล้วคุณนี่ก็ยังไม่ยอมจบประเด็นง่าย ๆ นะ พูดคุยกันจนเราต้องขึ้นเสียง จนเราต้องบอกว่า คุณฟังก่อน โอเค จ่ายรายวันก็จ่ายรายวัน จบไป
ทีนี้จะขึ้นประเด็นใหม่คือค่ามัดจำจะคืนยังไง เค้าก็บอกว่าจะโอนมาให้ที่เคาน์เตอร์ข้างล่าง เราก็งงว่าคือจะจ่ายเงินเข้าบัญชีเราหรือโอนมาให้คนที่เคาน์เตอร์แล้วให้ไปกดเงินมาจ่ายเรา เป็นงินสดหรือเงินโอน แล้วจะใช้เวลาทำนานมั้ย แค่จะถามว่าใช้เวลาทำนานมั้น หาจังหวะถามไม่ได้ ต้องบอกให้เค้าหยุดพูดอะ
สรุปว่าเค้าจะโอนเงินมาไว้ให้คนที่เคาน์เตอร์ แล้วหักค่าใช้จ่าย จ่ายเรา
การจ่ายค่าห้องของที่นี่ก็ต้องโอนเข้าบัญชีเค้า เพราะเค้าไม่ไว้ใจลูกจ้างที่อยู่เคาน์เตอร์
การคุยโทรศัพท์กันในครั้งนี้ทำลายความเชื่อของเราที่ว่า เราเป็นคนดี เราก็จะได้เจอคนดี ๆ
แต่คนนี้ที่เจอคุยแบบหักหาญน้ำใจกันมาก
คุยเสร็จเราน้ำตาคลอเลย อยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ ทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย แต่ก็นั่นละฮะทั่นผูชม ต้องรีบบูทความโพสสิทีฟให้กลับคืนมา
ไม่อยากดรามา
วันนี้พิมพ์ด้วยอารมณ์หลังจากคุยเลย ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เลยอีกแม้แต่วันเดียว นี่แบบคิดไปถึงจะเลื่อนตั๋วเครื่องบินเลยนะ
1. แต่ทั้งหมดทั้งมวล คงจะต้องโทษเรานี่แหละที่จำวันผิดเองตั้งแต่แรก เราบอกเค้าว่าเรามาอยู่วันที่ 4 เค้าถึงบอกเราว่าออกได้วันที่ 3
2. ถ้าคุณเจ้าของพูดดี ๆ นะ เราจะไม่ว่าอะไรเลย คนเราผิดพลาดกันได้ อยู่ที่การสื่อสารเท่านั้นแหละว่าจะทำให้สถานการณ์หลังจากนั้นดีหรือไม่ดี
No comments:
Post a Comment
คอมเมนท์ดิ ดิ ดิ ดิ!