Friday, September 27, 2013
ผ่าตัดซิสต์ที่รังไข่ข้างขวา - right ovarian cyst sergery
ตีห้าครึ่งพยาบาลมาปลุกแล้ว สวนตรูด
วันนี้พยาบาลโหด เสียบตูดไม่เข้า เราถามว่าทาวาสลีนยัง พยาบาลบอกทาแล้ว
มีเจ็บเบา ๆ
สวนตูดต้องเอาน้ำสบู่ใส่ตูดเรา 1000 cc ถ้าคนไข้ไหว ก็ซัดรวดเดียวพันซีซี เมื่อวันก่อนผ่าตัดทำไปสองรอบ
วันนี้ บอกพยาบาลว่าพอแล้ว แต่พยาบาลบอกว่า อีกนิดเดียว กระซิก ๆ เราก็เลยต้องกลั้นใจกลั้นตูดไว้
เสร็จแล้วก็ไปนั่งห้องน้ำ เอาน้ำที่ใส่ตูดออก เอ้อ รอบนี้ใช้น้ำอุ่น ๆ ด้วยนะ
แล้วก็ทำใจ ไปอาบน้ำ แล้วก็ใส่เสื้ออีกแบบที่เป็นเหมือนเสื้อประกบด้านหน้าด้านหลัง แล้วมีเชือกมัด ใส่ไม่เป็นเลย ให้แม่ช่วยใส่ให้
เสร็จแล้วกลับมานอน
พยาบาลเอายานอนหลับมาให้กิน 1 เม็ด กับน้ำจึ๋งนึง
เอาแล้ว พยาบาลอีกคนมาจะใส่ท่อฉี่ คุยกับเพื่อนเมื่อวานเพื่อนบอกว่า ก็ตีหน้ามึนไปเลย
เราก็เอาวะ ใส่ก็ใส่
นอนหงายชันขาขึ้น พยาบาลก็เปิดผ้า เอากระโถนมารองตูด กระโถนเย็นเจี๊ยบ แล้วก็เช็ด ๆๆ ตรงนั้นน่ะนะ แล้วก็เอาผ้าเจาะรูสี่เหลี่ยมมาวาง แล้วก็ใส่ท่อฉี่ ทำเร็วมาก เรานึ่นึกไม่ออกเลยว่าเอาสายยางเส้นใหญ่ขนาดนั้นมายัดใส่ท่อฉี่ได้ยังไง รูมันอยู่ตรงไหน 555
เสร็จปึ๊บ รู้สีกเหมือนปวดฉี่ตลอดเวลา พยาบาลบอกว่า จะเป็นอย่างนี้ไปประมาณ 15 นาที
ซักพักก็มีคนมารับประมาณ 6 โมงครึ่งได้ ย้ายเตียงไปเตียงรถเข็น
เข็นไปตามทาง เรารู้สึกตัวตลอด ถือไอแพดไว้ตลอด
ไปจนถึงหน้าห้องผ่าตัด ถ่ายรูปแชะกับแม่รูปนึง บอกลาแอชลี
เข้าไป เค้าเข็นเราไปไว้หน้าห้องผ่าตัด ในทางเดินนั้นมีคนเดินไปเดินมา เราเห็นมีอ่างล้างมือ 3 อ่าง เวลาล้างมือเค้าจะเอาเข่าดันเปิดก๊อก
อ้อ ระหว่างนั้นก็จะมีคนมาถามชื่อเราเป็นระยะ ๆ กะว่าไม่ผ่าผิดตัวแน่
พอได้ฤกษ์เข้าห้องผ่าตัด ก็ได้ย้ายเตียงอีกรอบ
แอร์ห้องผ่าตัดเย็นมาก เราได้ห่มผ้าอีก มีคนเอาถุงเท้ายาว ๆ มาใส่ให้ แล้วก็แปะที่วัดคลื่นหัวใจ เอาที่หนีบนิ้วมาหนีบ
เราหนาวจนรู้สึกว่าสั่นเลยแหละ
เตียงผ่าตัดจะเล็ก ๆ พอดีตัวเรา หมอจะได้ไม่ต้องเอื้อมมาก
ข้อสังเกต จากที่เราเห็น คิดว่าหมอผ่าตัดใส่รองเท้าแตะนะ หะ ๆ
แล้วเวลาอันน่าตื่นเต้นก็มาถึง!!
มีหมอบอกให้เราว่า ดมออกซิเจนนะครับ
วันนั้นลมหายใจเราแบบว่าจะสั้น ๆ อะ หรือว่าปกติเป็นคนหายใจสั้น ๆ อยู่แล้วก็ไม่รู้
คิดว่าคงเป็นแก๊สยาสลบ
เราลองพยายามฝืน พยายามลืมตา แต่รู้สึกเลยว่าตาค่อย ๆ กระพริบสั้นลง ๆ จนตาปิด
.....................
..............................
.......................................
เวลาผ่านไป
รู้สึกตัวอีกทีคือมีคนมาเรียกชื่อ
ดูนาฬิกา น่าจะ สิบโมงสี่สิบห้า
เราอยู่ในห้องพักฟื้นหลังผ่าตัด
ซักพักเค้าก็เข็นเราออกข้างนอก ก็เจอแม่ เจอแบบมีสติ แต่จะง่วง ๆ หน่อย
แม่ส่งไอแพดให้ เราก็บอกแอชว่า ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว แอชตื่นเต้น ไม่คิดว่าเราจะมีสติ ฮ่า ๆๆๆ
ระหว่างที่เราผ่าตัด แม่ก็โพสต์สเตตัสเฟสบุคให้เรา แบบว่ารายงานข่าวว่างั้นเหอะ
แล้วก็กลับไปห้องพิเศษเตียงคู่ของเราต่อไป
วั้นนั้นก็ยังไม่ได้กินอะไร ยังใส่น้ำเกลือและสายฉี่ ใส่สายฉี่นี่ไม่สนุกเลย พับเผื่อยสิ มันเกร็ง ๆ เวลาจะขยับตัว กลัวสายฉี่หลุด(ถ้าหลุดต้องมาเสียบใหม่อีก)ไม่รู้มันแน่นแค่ไหนหรือมันเสียบไปลึกแค่ไหน
เข็มน้ำเกลือนี่ นึกว่าเข็มเป็นเหล็ก ที่แท้เข็มเป็นพลาสติก(คือตอนเจาะก็ใช้เข็มเหล็กนั่นแหละแต่ถอดออกมา มันจะเหลือแต่เข็มพลาสติก(เทคโนโลยีเค้าอะนะ)) เราเลยไม่กล้าขยับมือมากกลัวเข็มทิ่มทะลุเส้นเลือด พึ่งมารู้ทีหลังตอนที่พยาบาลมาเอาเข็มออกให้นั่นแหละ ฮาาาาา.....
นอนตะแคงจะเจ็บตรงช่วงไหล่ขวา พยาบาลบอกว่าตอนผ่า หมอจะใส่ลมเข้าไปในท้องด้วย ลมอาจขึ้นมาถึงข้างบน
อันนี้เท็จจริงแค่ไหนก็ไม่รู้นะ แต่หลังผ่าตัด เค้าจะให้เรากินยาขับลม แอร์เอ็กซ์ อะนะ เราคิดว่า ลมที่ใส่ไปมันอยู่ในช่องท้อง ไม่ใช่อยู่ในลำไส้ มันจะขับได้เหรอ จะเกี่ยวมั้ย แต่เราก็รู้สึกว่าท้องมันป่องนะ
แล้วลมที่ใส่ไป(ไปศึกษามาสรุปว่าเค้าใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) มันก็ต้องอยู่ในช่องท้องนั่นแหละ เพราะท้องเราก็มีผนังกั้น ลมไม่น่าขึ้นมาบนอกหรือไหล่ได้
สรุปว่าก็ช่างมัน เรื่องลม เอาง่าย ๆ ว่ารู้สึกแกน(ภาษาเหนือ)ตรงไหล่ขวาเวลานอนตะแคง
ตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ ก็มีเพื่อนมาเยี่ยม เย่ ๆ
มีอยู่ทีนึง เรารู้สึกอยากอ้วกมาก หลังจากเพื่อนคนนึงกลับไป เราบอกพ่อว่า เอาหัวเตียงลง
พอเรานอนราบ ซักพักมีเพื่อนมาอีก
เราก็ชันตัวเอาหัวเตียงขึ้นมาอีก
ทีนี้ น้ำลายฟูมปาก ภาษาเหนือเรียก น้ำลายปุ๊ จะเป็นน้ำลายเปรี้ยว ๆ ที่ออกมา แล้วก็จะอ้วก
พ่อเอาถุงมาให้บ้วนน้ำลาย
ก่อนหน้านั้นพยาบาลบอกว่าถ้าคลื่นไส้หรืออะไรก็ขอยาได้ ตอนแรกเราไม่เอา คิดว่าเราโอเค แต่อยู่ไป ๆ ไม่โอเค เราบอกว่าไปตามพยาบาลเอายาหน่อย
ระหว่างนั้นก็เหมือนจะอ้วกออกมา แต่ เอืออออกกกก ออกมาเป็นลม เหมือนเราเรอ เราก็คิดว่าท้องเราก็ไม่มีอะไร อาหารก็ไม่ได้กิน โดนสวนตรูดอีกต่างหาก พอลมออกมา ก็รู้สึกดีขึ้นอีกเป็นกองเลย
พยาบาลเดินเข้ามาถือถาด มีเข็มมีไรมากมาย เราบอกว่า รู้สึกโอเคแล้ว ไม่เอายาแล้วค่ะ
ก็จบไป เห่อ.....
วันนั้นก็ไม่ได้ทำไรมาก นอนไปมา จิบน้ำเบา ๆ
พยาบาลเข้ามาวัดไข้วัดความดันตลอด
คืนนั้นก็ได้ถอดสายน้ำเกลือ สายฉี่จะได้ถอดตอนเช้าวันถัดไป ที่จริงจะถอดเลยก็ได้ แต่พยาบาลถามว่า แล้วเราลุกไปเข้าห้องน้ำเองได้มั้ย เรายังไม่ค่อยมั่นใจ คืนนั้นเลยต้องนอนกับสายฉี่ไปอีก
ก็ไม่แปรงฟัน ไม่อะไรซักอย่างละนะ นอนไปอย่างงั้นน่ะ
เช้ามาได้ถอดสายฉี่ ดีใจมาก
ก็ลุกจากเตียง ก็เดินได้เลย เย้ ๆๆๆ ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บด้วย ผ่าตัดส่องกล้องมันดีอย่างนี้นี่เอง
ก็กินข้าวอะไรปกติ เดินไปมาได้ แต่ก็นอนเยอะ เออแต่หมอนห้องพิเศษนอนไม่สบายเลย รู้สึกหมอนห้องผ่าตัดดีกว่า มันเป็นก้อนแข็ง ๆ ดี ที่ห้องพิเศษเหมือนเป็นหนังแฟบ ๆ ใส่ปลอกหมอน
สรุป
ไปเตรียมตัวผ่าตัดวันจันทร์
ผ่าวันอังคารเช้า และวันอังคารก็นอนทั้งวัน
วันพุธ นั่ง ๆ นอน ๆ เดิน ๆ
วันพฤหัส เคลียร์เงิน ออก รพ.
ค่าใช้จ่ายนอนโรงพยาบาล 3 คืน รวมผ่าตัด 12,xxx บาท
เราใช้สิทธิ์ประกับสุขภาพถ้วนหน้า(สิทธิ์สามสิบบาท)
ค่าผ่าตัด สี่พันห้า แต่ค่าห้องพิเศษกับบริการพยาบาลนี่คืนละสองพันกว่า น่ะจะ
ขอบคุณสำหรับการผ่าตัดที่ผ่านไปได้ด้วยดี
วันที่เราเขียนบล็อกนี่ ก็หลังจากวันผ่าตัดมาสองอาทิตย์ได้
ได้ไปฟังผลตรวจชิ้นเนื้อที่โรงพยาบาล
ก็ไม่ได้เป็นมะเร็ง เย่ ๆ เป็นซิสต์ขนาดประมาณ 5 cm มีไขมันกับเส้นผมอยู่ข้างใน ไม่มีฟัน 555
และหมอก็ไม่นัดอีกแล้ว คือถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ไม่ต้องไปหาหมอ
ตัดไหมก็ไม่ต้อง สมัยนี้ใช้ไหมละลาย ไหมอยู่ในตัวเรา ไม่เห็นฝีเข็มเลย ไม่รู้เย็บยังไง
มีแผล 4 รู รูใหญ่ที่ใช้ใส่กล้องอยู่ตรงสะดือประมาณ 2 cm แเต่เราคิดว่าถ้าหายมันก็น่าจะกลืนไปกับสะดือนั่นแหละ และอีกสามรู อยู่ตรงแนวขอบกางเกงใน เป็นขีด ๆ ประมาณ 1 cm
ก่อนผ่าตัด เราก็พยายามออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง จะได้ฟื้นตัวเร็ว ๆ เราก็ไปวิ่ง ไปโยคะ ไรงี้
ละก็ จบการผ่าตัดซิสต์ด้วยประการละฉะนี้
ขอบคุณที่ครอบครัวมีเงินจ่ายสำหรับการผ่าตัดในครั้งนี้
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment
คอมเมนท์ดิ ดิ ดิ ดิ!