เล่น FB ได้แช็ทกะเพื่อน เพื่อนบอกว่าจะไปปฏิบัติธรรม
เราคิดในใจ เฮ้ย ดีเหมือนกันว่ะ
ตอนแรกบอกแม่ไว้แล้วว่าจะกลับบ้าน เพราะสงกรานต์อยู่เชียงใหม่ต้องเหงา ๆ แน่ ๆ เลย กลับบ้านซะยังจะดีกว่า
แต่พอมีตัวเลือกนี้มา มันก็ท้าทายให้เราเปลี่ยนใจ
บอกเพื่อนไปว่า ขอนอนคิดคืนนึง
วันต่อมาก็โทรไปบอกแม่ว่า เปลี่ยนใจไม่กลับบ้านละ
คิดในใจ "ทำสิ่งที่แตกต่างจากที่เคยทำทุก ๆ ปีบ้าง"
มันก็ดีนะ "ลองในสิ่งที่ไม่เคยทำ จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง"
หาข้อมูลวัดร่ำเปิงเลย http://www.watrampoeng.com/
โอ๊ ฮิโซใช้ได้ มีเว็บไซต์ มีเว็บบอร์ด มีพระ+แม่ชี มาตอบเว็บบอร์ดด้วย
วันที่ 10 ไปเซอเวย์ก่อน ไปวัดเลย วันนั้นวัดมีงานพอดี ก็เลยดูวุ่นวาย แต่ก็เอาเห๊อะ อยู่ไปน่ะกะ ก็ไปซื้อสไบด้วย
อ้อ วันนี้พ่อแม่น้องมาหา เอาชุดขาวมาให้ด้วย
เรากำหนดไว้ว่าจะไป 12-16 เมษา 54
วันที่ 12 ก็ตื่นเช้าเลย กินข้าวกะเดียร์น่ารัก
ไปลงทะเบียนที่วัดตอน 7 โมง
เข้ากลุ่ม รับศีล
กินข้าวกลางวัน แล้วก็เข้าห้องพัก
มาอยู่วัด ไม่ต้องพกตังค์มาซักบาทก็ได้ เค้าให้กินข้าวเช้ากลางวันฟรี
วันแรก โคตรเซ็ง
สวดมนต์ ๆๆๆๆ นั่งมาธิ ๆๆๆๆๆ เดินจงกลม ๆๆๆๆ
แล้วก็ให้เรานั่งมาธิกะเดินจงกลมเองอีก
อ้อ มันมีเค้าเรียกว่าสอบอารมณ์ด้วยนะ
ก็ไปสอบกะพระ กะแม่ชี บอกเค้าว่า นั่งสมาธิแล้วรู้สึกยังไง อึดอัดหรือเมื่อยอะไรก็บอกไป
เดินจงกลมรู้สึกยังไง
เค้าจะให้คำแนะนำเรา
กิจวัตรประจำวันคือ ต้องมาเข้ากลุ่ม สวดมนต์ ฟังธรรม 3 เวลา ตีสี่ครึ่ง บ่ายโมง หกโมงเย็น
เวลาที่เหลือให้ กราบสติปัฏฐาน เดินจงกลม นั่งสมาธิ
คำศัพท์ นั่งมาธิ เดินจงกลม ในวัดเค้าเรียกว่า"ปฏิบัติ"
แม่ชีบอกว่า วันนึงควรปฏิบัติให้ได้อย่างต่ำ 6 ชั่วโมง
อุ๊แม่เจ้า ไม่ให้ตรูได้พักเลย
วันแรกเซ็ง เค้าเดินจงกลมกัน เราก็เดินออกมานั่งข้างนอก
พอดีไปเห็นเณรขนของจากรถเข้าร้านค้าในวัด ก็เลยไปช่วย
วันแรกปวดเมื่อยมาก ไม่รู้เมื่อยเพราะปฏิบัติหรือขนของ....- -"
นับวันกลับกันเลยทีเดียว
แต่ก็คิดว่า ในเมื่อเราตัดสินใจมาเองนี่ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ ๆ ไป ให้ปฏิบัติก็ปฏิบัติไป
ทุกทีไม่ใช่คนอย่างนี้นะ ถ้าอันไหนไม่ถูกตรรกะเรา เราไม่ทำ นี่เค้าให้ทำก็ทำ ง่ายมะล่ะ
การมาวัด เป้าหมายคือ "มาฝึกตัวเอง มาฝึกสติ"
แม่ชีบอกว่า ไม่ต้องไปช่วยเค้ากวาดลานวัด หรืออะไร ๆ ก็ได้ เพราะเรามาฝึกตัวเอง ให้ปฏิบัติไป เห็นแก่ตัวซะบ้าง ฮาาา...
โอเค เราก็คิดในใจ งั้นก็จะนั่งมาธิเดินจงกลมอย่างนี้แหละ
ดูซิมันจะเป็นยังไง
วันแรกปฏิบติได้ซัก 2 ชั่วโมง อีกสามวันถัดมาเราทำได้วันละ 5-6 ชั่วโมง
นั่งสมาธิกับเดินจงกลมเนี่ยนะ ทำสลับ ๆ กันไป
สุดยอดไปเลยจอร์จ
และแล้วเราก็อยู่ครบเวลา
ปิดมือถือ สงบเสงี่ยม อยู่ได้
ออกวัดวันที่ 16 ตอนเช้า
ถ้าถามว่าจิตใจเป็นไงบ้าง
มันก็ดีนะ เค้าสอนเราเหมือนกะปล่อยวางอะ ตัวเรายังไม่ใช่ของเราเลย อะไรทำนองนั้น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แล้วก็หลักของพระพุทธศาสนา ศึล สมาธิ ปัญญา
นี่ก็เป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง บุญจากการภาวนา ที่เรากำหนดสติ นั่งสมาธิเดินจงกลมเนี่ยนะ
การมาวัดครั้งนี้คงได้บุญเพิ่มหลายกองเลยอะ
ในพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่าบังเอิญ
เช่น ที่เรามาเจอกัน มันมีเหตุร่วมกันมา มันถึงเป็นผลให้เรามาเจอกัน
ช่วงที่อยู่วัด ก็เจอคนน่ารัก...อีกละ 55
ก็ได้แต่มอง.... มองได้ แต่อย่าชอบ เดี๋ยวมันจะเกินมากกว่าเป็นเพื่อนกัน <-- ร้องเพลงเฉย ๆ
ก็มีบุญได้แค่มอง แล้วก็จบกันไป เหอะ ๆ
พอกินข้าวกินน้ำเสร็จ ก็ต้องล้างถ้วย ล้างแก้วเอง
มีอยู่วัน เราต่อแถวล้างแก้วอยู่ ป้าคนนึงจะมาแซงคิว
ก็แซงแหละ หน้าเราพอดี ป้าคนนึ้แขนพันผ้าไว้ด้วย แขนน่านะเจ็บ
มีคนถามล้างแก้วให้ป้า แต่ป้าก็จะล้างเอง
แต่... ป้าก็แซงคิวอะ แซงคิวอ้ะ!!
เราก็เลยพูดกะป้าว่า "ป้าคะ แขนเจ็บแล้วล้างแก้วเองเนี่ย มันก็ดี แต่แซงคิวเนี่ยมันไม่ดีนะคะ"
ป้าหันมามองหน้า ปะทะสายตากันจิ๊ดนึง ...ป้าไม่พูดอะไร
เราก็เลยพูดไปอีกที "หนูว่าครั้งต่อไปป้าควรจะไปต่อแถวตามคิวนะคะ"
บรรยากาศแอบมาคุนิด ๆ.....
แล้วเราก็ล้างแก้วเสร็จ จบกันไป
เห็นป้าหลังจากนั้นก็ต่อคิวนะ เหอะ ๆ
วัดร่ำเปิงนี่ นานาชาตินะ
มีฝรั่งมาปฏิบัติธรรมด้วย ทั้งชายหญิง ฝรั่งเป็นพระเป็นชีก็มี(แม่ชีนาเดสดา) แล้วยังมีฝรั่งเป็นภิกษุณีอีก แม่เจ้า...
ถ้าใครอยากปฏิบติธรรม แบบเน้นปฏิบัติ เราคิดว่าวัดนี้เวิร์ค ระบบดี จัดการคนเยอะ ๆ ได้ดี
สุดท้าย เพื่อนบอกว่า "ชั้นก็ไม่คิดว่าแกจะมา" แตร่ว..!
No comments:
Post a Comment
คอมเมนท์ดิ ดิ ดิ ดิ!