Pages

Saturday, December 27, 2014

ความเชื่อสั่นคลอน - my believe

วันนี้โทรคุยกับเจ้าของหอพัก chic color suit ที่อ่อนนุช 10 หรือ สุขุมวิท 81 ใส่รายละเอียดไว้เลย เผื่อคนมาเซิชเจอ

พูดไม่ดีเลย พูดมาก

เราก็คงผิดเอง ที่จำวันเข้าเป็นวันที่ 4 ครั้งก่อนโทรคุยเจ้าของบอกว่าออกได้เป็นวันที่ 3

วันนี้เราโทรไปจะคอนเฟิร์มว่าออกวันที่ 3 เจ้าของบอกว่าเค้าไม่ได้ดูเอกสาร ต้องออกวันที่ 2

ขี้เกียจเขียนเป็นบทพูด มันจะยาว

แต่เจ๊คนนี้ พูดแบบไม่ให้เราได้พูด ทำไมไม่ฟังเราวะคะ พนักงานที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ก็ไม่อยากจะโทรไปจัดการเรื่องให้ ต้องให้เราติดต่อเอง เอ้ย ชีวิต

เจ๊: เวลาเค้าเช่าหอกันเค้าก็ต้องออกปลายเดือนกันทั้งนั้น ดิชั้นไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลยนะคะ

พูดไปโน่น

คุยกันไปกันมา เราก็ยอมโอเค จ่ายรายวันต่ออีก 1 คืน แล้วคุณนี่ก็ยังไม่ยอมจบประเด็นง่าย ๆ นะ พูดคุยกันจนเราต้องขึ้นเสียง จนเราต้องบอกว่า คุณฟังก่อน โอเค จ่ายรายวันก็จ่ายรายวัน จบไป

ทีนี้จะขึ้นประเด็นใหม่คือค่ามัดจำจะคืนยังไง เค้าก็บอกว่าจะโอนมาให้ที่เคาน์เตอร์ข้างล่าง เราก็งงว่าคือจะจ่ายเงินเข้าบัญชีเราหรือโอนมาให้คนที่เคาน์เตอร์แล้วให้ไปกดเงินมาจ่ายเรา เป็นงินสดหรือเงินโอน แล้วจะใช้เวลาทำนานมั้ย แค่จะถามว่าใช้เวลาทำนานมั้น หาจังหวะถามไม่ได้ ต้องบอกให้เค้าหยุดพูดอะ

สรุปว่าเค้าจะโอนเงินมาไว้ให้คนที่เคาน์เตอร์ แล้วหักค่าใช้จ่าย จ่ายเรา

การจ่ายค่าห้องของที่นี่ก็ต้องโอนเข้าบัญชีเค้า เพราะเค้าไม่ไว้ใจลูกจ้างที่อยู่เคาน์เตอร์

การคุยโทรศัพท์กันในครั้งนี้ทำลายความเชื่อของเราที่ว่า เราเป็นคนดี เราก็จะได้เจอคนดี ๆ

แต่คนนี้ที่เจอคุยแบบหักหาญน้ำใจกันมาก

คุยเสร็จเราน้ำตาคลอเลย อยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ ทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วย แต่ก็นั่นละฮะทั่นผูชม ต้องรีบบูทความโพสสิทีฟให้กลับคืนมา

ไม่อยากดรามา

วันนี้พิมพ์ด้วยอารมณ์หลังจากคุยเลย ไม่อยากจะอยู่ที่นี่เลยอีกแม้แต่วันเดียว นี่แบบคิดไปถึงจะเลื่อนตั๋วเครื่องบินเลยนะ

1. แต่ทั้งหมดทั้งมวล คงจะต้องโทษเรานี่แหละที่จำวันผิดเองตั้งแต่แรก เราบอกเค้าว่าเรามาอยู่วันที่ 4 เค้าถึงบอกเราว่าออกได้วันที่ 3
2. ถ้าคุณเจ้าของพูดดี ๆ นะ เราจะไม่ว่าอะไรเลย คนเราผิดพลาดกันได้ อยู่ที่การสื่อสารเท่านั้นแหละว่าจะทำให้สถานการณ์หลังจากนั้นดีหรือไม่ดี

Friday, December 26, 2014

วันเกือบสุดท้ายของการทำงาน - almost the last day working here

วันนี้เป็นวันเกือบสุดท้ายของการทำงานที่กรุงเทพฯนี่

และเป็นวันสุดท้ายที่จะเจอใครหลาย ๆ คนที่ทำงาน สัปดาห์ก่อนวันสิ้นปี บางคนก็ลางานเพื่อที่จะหยุดยาว เราก็จะไม่ได้เจอเขาเหล่านั้นแล้ว เขาเรียกว่าหมดบุญหรือหมดเวรหมดกรรมกันรึเปล่านะ

อยากจะไปแบบเงียบ ๆ ไม่ต้องร่ำลา ไม่ต้องบิ๊วอารมณ์ หรือพูดอะไร ขี้เกียจคิดว่าจะพูดอะไร คือไม่ได้อยากพูดอะไร

งานก็เอาใส่แฮนดี้ไดรฟ์ไว้ให้แล้ว มันก็เสร็จเท่าที่มันจะเสร็จได้อะนะ

มันรู้สึกว่า เหมือนเป็นผู้ที่ไม่ได้ถูกคัดเลือกแล้วต้องออกจากเกมไป ไม่ใช่เราตัดสินใจออกเอง

แต่ก็นั่นล่ะฮะทั่นผู้ชม

ชีวิตออกไปจากจุดนี้ จะไปทางไหนอีกก็ไม่รู้

และทุกวันนี้ใช้ชีวิตตามเป้าหมายรึป่าวนะ แล้วเป้าหมายคืออะไรนะ

เป้าหมายคือชีวิตมีความสุข อยากตื่นมาทำงานทุกวัน ได้ร่วมงานกับคนที่คิดบวกมีความคิดสร้างสรรค์
เป็นงานที่ทำประโยชน์ต่อชาวโลก
อยากทำงานเมื่อไหร่ก็ทำ อยากหยุดเมื่อไหร่ก็หยุด
มีรายได้อย่างเหลือเฟือที่อยากจะเอาไปใช้อะไรก็ได้
งานนั้นมันคืองานอะไรกันนะ

Thursday, December 25, 2014

ความมีชีวิตชีวาของกรุงเทพ - lively Bangkok

Terminal 21 : Dec 25, 2014
วันนี้รู้สึกใจหายเหมือนกัน

หลังจากมาทำงาน ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เกือบ 6 เดือน มาแบบคนบ้านนอกเลย ไม่รู้อะไรเลย มาศึกษาเรียนรู้ใหม่หมด

จากความกลัว เราได้แผ่ขยายคอมฟอร์ตโซนออกไปแล้ว ได้สร้างอาณาจักรใหม่ ที่เราคุ้นเคย เราหายกลัว

เหลือเวลาอยู่กรุงเทพอีกไม่กี่วัน

ในความวุ่นวายของกรุงเทพก็มีความสบาย ๆ ของมันเหมือนกัน เดินทางก็สะดวกอยู่พอสมควร จะเอาอะไรก็มี

เดินทางอยู่ก็ได้แต่ยิ้มอยู่ในใจ

Merry christmas นะทุกคน

Thursday, December 18, 2014

ชีวิตตามสไตล์ - My life

ถ้านับถึงตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกเกือบ 2 สัปดาห์จะครบ 6 เดือน ที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ

ปลายปีนี้ก็จะกลับเชียงใหม่ละ

อย่างที่เขาว่า The right book will come into the right hand at the right time (ใครว่าวะ)

เฉกเช่นการมาใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯนี่เหมือนกัน(งั้นเลยเรอะ) ถ้ามาเร็วกว่านี้ อาจจะไม่ประทับใจ เพราะในใจเด็กบ้านนอก มันจะมีการต่อต้านการใช้ชีวิตในเมืองหลวงอยู่นิดนึง ภาพในจินตนาการคือ เมืองหลวง ร้อน วุ่นวาย สับสน อันตราย

แต่พอมาใช้ชีวิตเองจริง ๆ ทำให้เราได้เห็นว่า ทุก ๆ เมืองก็มีทั้งด้านดี ด้านไม่ดี เอาเข้าจริง ๆ กรุงเทพฯ มันก็อยู่ได้

เหตุการณ์มันเริ่มจากตอนเรียนป.โท รับทุนมา เลยต้องหางานในหน่วยงานของรัฐเพื่อทำงานชดใช้ทุน แต่เราก็ไม่ค่อยชอบ(ทำได้ไม่ดี)ในสายที่เราเรียนมา ระหว่างเรียนเราก็เลยไปสมัครทำงานร้านกาแฟด้วย แบบว่าอยากใช้แรงงาน ไม่อยากใช้สมอง... -..-"

พอเรียนจบ ทำงานร้านกาแฟ พอถึงจุดหนึ่งก็ลาออกร้านกาแฟ และประจวบเหมาะกับเพื่อนเราคนหนึ่งได้มาชวนให้เปิดร้านกาแฟด้วยกัน เราก็ตอบตกลง เหตุการณ์นี้ทำให้เจ้าของร้านกาแฟเก่าที่เราเคยทำงานด้วยไม่พอใจเป็นอย่างมาก(อะไรแว้) เกิดเหตุการณ์ดราม่าอยู่พักหนึ่ง แต่ก็นะ ชีวิตเราก็ต้องดำเนินกันต่อไป เราก็ใช่ว่าจะเปิดร้านกาแฟกับเพื่อนอย่างราบรื่น สวย ๆ นอนมางี้

เปิดร้านกาแฟได้ 1 เดือน มีเราคนเดียวที่ทำกาแฟได้ เราจัดการระบบทุกอย่างในร้านกาแฟ ทำตั้งแต่ซื้อของ คิดเงิน ทำตารางพนักงาน สอนพนักงาน อยู่หน้าร้าน ทำความสะอาด ทิ้งขยะ แล้วก็ซื้อของ ชีวิตวนไปวนมาอย่างนี้ เกือบเดือน เหนื่อยมาก อย่างที่เขาว่า เริ่มต้นยากที่สุด พอมันไปได้ มันจะมีแรงเฉื่อย ไปต่อเอง เราจะใช้แรงขับเคลื่อนน้อยลง(ฟิสิกส์มาก ๆ)

ในขณะที่ร้านกำลังรันไป เราก็ยังไม่ค่อยยอมปล่อย กลัวพนักงานจะทำได้ไม่ดี เพราะว่า พนักงานทุกคนสกิลการทำงานในร้าน เป็น 0 ตั้งแต่แรก แต่เรามีความเชื่อว่า คนเราทุกคนฝึกกันได้ ก็ลองเริ่มปล่อยดู เช่นให้เปิดร้านโดยไม่มีเรา โชคดีที่ตอนนั้นมีน้องที่เคยทำร้านกาแฟเก่า(ที่เขาลาออกมาแล้วก่อนหน้า)ด้วยกันมาช่วยด้วย เป็นบุญจริง ๆ

ในปลายเดือนนั้นเอง(วันที่ 27) งานในหน่วยงานของรัฐที่เราสมัครไว้ก็โทรมาตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง(บ้าป่าววะ ทุ่มครึ่งยังอยู่ที่ทำงาน)

ในหัวตอนนั้นนี่แบบ ....ทำยังไงดีวะ ร้านกาแฟก็เพิ่งเปิดได้เดือนเดียว อะไร ๆ ก็ยังไม่ลงตัว

และด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้เราตัดสินใจ "เอาวะ" ไปก็ไป ตอนสมัครก็รู้อยู่แล้วว่าที่ทำงานมันอยู่กรุงเทพฯ ก็ยังสมัครไป ทีตอนนี้เค้าเรียกมาจริง ๆ ดันจะไม่ไปเหรอวะ ไปก็ไป!

"ขอแค่ให้เรามีจุดหมาย เดี๋ยวหนทางมันจะตามมาเอง" แค่เรารู้ว่าเราจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ มีคนมากมายคอยช่วยเหลือเรา พี่เราไปเซอเวย์หอให้ เพื่อนแนะนำสถานที่ให้ คนที่ทำงานก็บอกจะซักผ้าให้(เราไม่เคยต้องซักผ้ารีดผ้าเอง เพราะเรามองว่ามันเสียเวลา เราส่งซักตลอด พอมากรุงเทพ แม่ง ค่าซักผ้าแพงอะ แถวนั้นไม่มีร้านซักรีดด้วย สรุปก็ซักรีดเอง และมาค้นพบตอนหลังว่า การรีดผ้าทำให้เกิดสมาธิ เรามีความสุขและสงบใจที่ได้เห็นผ้าเรียบ เออนั่น!) เออแต่ก็ไม่ได้หอบผ้ามาให้คนที่ทำงานซักนะ ฮ่าาาา

ระหว่างนั้นก็บริหารร้านอยู่ทางไกล และกลับเชียงใหม่เกือบทุกสัปดาห์ พูดว่ากลับทุกสัปดาห์เลยดีกว่า กลับไปซื้อของแมคโครนะจ๊ะ ไปใช้แรงงาน แล้วก็มากรุงเทพฯ มาทำงานนั่งโต๊ะ ใช้สมองทางวิชาการ

และมันก็ทำได้เว้ย รู้สึกได้ขยายคอมฟอร์ตร้อย เอ๊ย คอมฟอร์ตโซน! (กล้าเล่น หน้าตาเฉย)

อยู่ได้ 3 เดือน หัวหน้าบอกว่า เราไม่สมควรได้ทำงานที่นี่

เอ๊า ชีวิตตรู ถึงจุดเปลี่ยนได้อีก

แต่หัวหน้าก็บอกว่า ให้อยู่ต่ออีก 3 เดือน จะได้ครบประกันหอพัก(6 เดือน)โอเคมั้ย จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ แน๊...มีการจ้างกันแบบนี้ได้ด้วย เราก็ตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ดีวะ ขอเวลาไปคิด แต่ในใจคิดว่า แม่งจ้างแบบนี้ แบบไม่ได้อยากได้เราทำงาน แต่จ้างเพราะสงสารก็อย่าจ้างเลยดีกว่า

เพื่อนที่ทำงานบอกว่า 6 เดือน เลขสวยกว่า 3 เดือนน้าาา...

เราก็เลยอยู่ต่อ ซึ่ง 3 เดือนแรก เป็นช่วงนี้ กำลังได้รู้จักเมืองนี้ กำลังรู้ว่าวิถีชีวิตมันเป็นแบบนี้ ถ้าจะกลับเลย เหมือนยังไม่สุด

พอ 3 เดือนหลัง เริ่มปรับตัวได้มาก ๆ ก็เริ่มจะหลงรักเมืองนี้ ว้ายยยยย จริงเดะ! แหม่ ก็พูดให้เวอร์ ๆ หน่อย แต่มันก็มีมูลอยู่นะ มีอยู่วันหนึ่ง เดินที่สถานีบีทีเอส แล้วคิดขึ้นมาลอย ๆ ว่า "ฉันชักจะหลงรักเมืองนี้เข้าแล้วสิ" นี่มันคืออาการหลงแสงสีรึป่าวนะ?(ทำหน้างง)

อุตสาห์สมัครสมาชิกสระว่ายน้ำรายปี นี่ได้ใช้แค่ 3 เดือน อ้าาาาาากกกกกก!

ตอนนี้เริ่มทะยอยเก็บของกลับเชียงใหม่

Central World 2014, Bangkok


ปีนี้จะเคาท์ดาวน์ 2015 ที่เซ็นทรัลเวิร์ล

และกลับบ้านนอก

แล้วชีวิตเราจะเป็นเช่นไรต่อเนี่ย

ปล. สรุปว่ามาทำงานไม่ได้บรรจุเป็นพนักงาน ทางต้นสังกัดทุนบอกว่าใช้ทุนไม่ได้ อ้าวเฮ้ย แล้วที่อยู่มา 6 เดือนนี่ก็สูญเปล่าน่ะสิ ก็ใช่สิ! ใช้ทุนไม่ได้ แต่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตก็ได้วะ สิ่งที่ดีที่สุดในการมาทำงานที่นี่คือ ทำให้เราปล่อยร้านได้ คือต้องทิ้งเลย ไม่เข้าร้านมากกว่า 48 ชั่วโมง ทำให้เรารู้ว่ามันทำได้นะ เข้าร้านสัปดาห์ละครั้งเนี่ย หรือสองสัปดาห์ครั้งก็เคยทำมาแล้ว นี่สินะ หนทางสู่การเป็น Entrepreneur

Wednesday, November 26, 2014

งานปัจจุบัน - my present work

งานปัจจุบันไม่ส่งเสริมให้เราโตขึ้นเท่าไหร่เลย

ไม่พัฒนาความรู้เท่าไหร่

แต่ได้เห็นโลกมากขึ้น เห็นว่าหน่วยงานมันเป็นอะไรยังไง บลา ๆๆ

ลองบ่นดู แต่เดี๋ยวจะกลับไปพิมพ์งานใน word ต่อดีกว่า

แค่พิมพ์ ไม่ต้องคิดอะไรเลย

Tuesday, November 25, 2014

Today is someone's birthday

Today is someone's birthday.
I mean everyday is someone's birthday.
I actually mean yesterday is someone's birthday.

Friday, November 7, 2014

ว่างเปล่า - empty



เวลาที่คุณไม่รู้ว่าคุณทำอะไรอยู่ ทำไปเพื่ออะไร ทำทำไม

ชีวิตช่างว่างเปล่าสิ้นดี

ชีวิตช่างไม่มีความหมาย

ไม่รู้ว่าอยู่เพื่อรออะไร

ว่างเปล่าจีจี คงต้องไปนั่งร้าน Fill in the blank

By the way, let's eat reduce price sushi. Yayyy

Sunday, October 26, 2014

คำอวยพร - bless words

ฉันเคยเป็นคนที่ไม่สนใจวันเกิดของคนรอบข้าง

แต่วันนี้ คนจำนวนหนึ่ง มาอวยพรวันเกิดฉัน

ทำให้ฉันอิ่มเอมใจ

วันเกิดมันอาจเป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่ง

แต่มันกลายเป็นวันพิเศษได้ ก็ด้วยความร่วมมือจากทุกคน

โลกหมุนด้วยความรัก และความรักชนะทุกสิ่ง คอนเฟิร์ม!

Saturday, October 25, 2014

Monday, October 20, 2014

วันจันทร์ - Monday

ถ้าทุก ๆ วันจันทร์จะง่วงขนาดนี้

ใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ดีแน่

เปลี่ยนงาน

หางานให่มดีกั่ว

Friday, October 17, 2014

การปรับตัว - adaptation

Being in the big lonely city, Bangkok, is livable.

อยู่กทม.มา 3 เดือนกว่าแล้ว ไม่น่าเชื่อ

มาตอนแรก ๆ ก็ไม่รู้ทาง ไม่รู้จักบ้านเมือง

ตอนนี้ถนนหนทางที่ใช้เป็นประจำ ก็มองเห็นจนชินตา

คอที่เคยยืด ตอนนี้ก็หดลง

ตาที่เคยเปิด ตอนนี้ก็จะปิด

ชีวิตโดนความชินชาเข้าครอบงำ

ในทุก ๆ วันของการใช้ชีวิต เราพยายามหาอะไรใหม่ ๆ ทำ ให้มีครั้งแรกครั้งล่าสุด สดใหม่อยู่เรื่อย ๆ

ส่วนใหญ่ไปลองร้านอาหาร ร้านกาแฟใหม่ ๆ หลังเลิกงาน

โชคดีที่มีน้องที่ทำงานไปด้วย 1 คน ไม่งั้นคงเหงาแย่

การเดินทางไปกลับเชียงใหม่-กรุงเทพฯทุกสัปดาห์ ทำให้เสียเวลาช่วงหัวค่ำของวันศุกร์กับวันอาทิตย์ไป ซึ่งเราก็พยายามชดเชยโดยการไปดาวน์โหลดออดิโอบุคมาฟัง แต่มันก็เป็นช่วงเวลาเดินทาง เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เหมือนใส่หูฟังแล้วเราปิดตัวจากโลกภายนอก ไม่เหมือนกับฟังในรถ ฟังในรถตอนขับรถเอง โอเคกว่า

การมาทำงาน 8.30-16.30 เป็นชีวิตที่มีแบบแผนที่ถูกผลักดันด้วยเวลา เวลามันจะไล่ให้เราทำอะไรเอง ไม่ต้องคิดเอง เหมือนอยู่ในทะเลที่มีคลื่นพัดเราไปทางนั้นทางนี้ เราเลือกไม่ได้ ถ้าจะต้องใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ต่อไป เราขอไม่เอา อยู่แบบนี้ได้ซักช่วงนึงแค่นั้นแหละ

การทำงานมีสังกัด มีตำแหน่ง มันทำให้ self esteem เราสูงขึ้น เหมือนกับบอกว่าทำงานตำแหน่งนี้ ที่นี่ แล้วคนอ๋ออออ ว่าเราทำงานอะไรอยู่ จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง มีสังกัด ทำให่้เราและคนอื่นรู้สึกถึงความมั่นคง
กับการที่บอกว่าทำงานเป็นฟรีแลนซ์ มีงานก็ทำ หาอะไรทำไปเรื่อย คนจะสงสัย คนจะงงว่าอยู่ได้ยังไง คนจะมองว่าไม่มั่นคง

ความมั่นคงเป็นอะไรที่มนุษย์โหยหาจริง ๆ

อยู่กรุงเทพ เมื่อต้องเดินทางไปเชียงใหม่ ก็รู้สึกขี้เกียจ (ปรับตัวเข้ากับกรุงเทพได้)

อยู่เชียงใหม่ เมื่อต้องเดินทางไปกรุงเทพ ก็รู้สึกขี้เกียจ (ปรับตัวเข้ากับเชียงใหม่ได้)

อยากจะนั่งเครื่องบินชั้นบิสสิเนสคลาส

อยากจะกินอาหารมื้อละหมื่นโดยขนหน้าแข้งไม่ร่วง

อยากซื้อเครื่องปั่น blentec ให้ร้าน จะเอารุ่นที่ดีที่สุดและมีที่เก็บเสียง

อยากได้เมาส์ปากกา wacom

สิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เราจะมีชีวิตเป็นอย่างไร แล้วเราต้องการให้ชีวิตเป็นอย่างไรล่ะนี่

Sunday, September 28, 2014

1 สัปดาห์ - 1 week

การได้มาทำร้านกาแฟ พร้อมกับงานประจำ ซึ่งร้านกาแฟอยู่ห่างจากที่ทำงานประจำ 700 กิโลเมตร เป็นเรื่องที่ท้าทายมาก

เราคิดว่ามันน่าจะทำได้ และมันก็ทำได้ นี่ผ่านมาจะครบ 3 เดือนแล้ว ไปกลับเชียงใหม่กรุงเทพทุกสัปดาห์เลย

มันทำได้นะ แต่เริ่มจะเหนื่อย แต่ยังโอเคอยู่นะ ได้ฝึก ได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่แปลกใหม่

สิ่งที่ได้คือ ได้ฝึกวางแผนเป็นสัปดาห์ ๆ ไป ไม่งั้นถ้าทำร้านกาแฟอย่างเดียว จะไม่เป็นระบบซักที เพราะว่าเราไม่กล้าทิ้งร้าน ของอะไรหมดจะซื้อมาเติมเรื่อย ๆ ไม่รอซื้อเป็นรอบ ๆ แต่พอมาทำงานประจำ ยังไงก็ต้องทิ้งร้านให้อยู่ได้โดยมีพนักงานมาเปิดร้าน มีคนมาส่งนม พนักงานสั่งของเองบ้าง อะไรบ้าง ซึ่งพนักงานก็ทำได้ดี

สิ่งที่ทำให้ร้านกาแฟอยู่ได้คือระบบ ต้องหาระบบมาให้พนักงานทำตามนี้ แล้วมันจะเป็นไปตามที่เราคาดหวัง

การได้พนักงานนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะว่าพนักงานจะเป็นคนที่สัมผัสกับลูกค้าโดยตรง เราโชคดีที่ได้พนักงานดี เราเชื่อว่าเราเป็นคนดี ต้องมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับเรา ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้น

ในหลาย ๆ เรื่อง การมีทัศนะคติที่ดี การสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี มันดีจริง ๆ

ร้านนี้สะท้อนความคิดของเรา เราก็คิดแบบนี้ก็ทำแบบนี้ เวลาจะเป็นสิ่งพิสูจน์เองว่าเราคิดถูกหรือคิดผิด

เราบริหารร้านโดยเอาความสุขของพนักงานและการให้บริการลูกค้าเป็นที่ตั้ง ขายของคุณภาพ จัดอะไรให้ได้ก็จัดไป

ตอนนี้ที่เราทำตอนกลับมาร้านคือซื้อของเข้าร้าน เข้ามาพูดคุยให้ความรักกับพนักงาน(ฮา) ทำเหมือนเป็นผู้จัดการร้าน เราอยากขยับไปอีกขั้นคือเป็นเรียกว่าอะไรดีอะ เป็นคนวางวิสัยทัศน์ สร้างวัฒนธรรมองค์กร หาอะไรใหม่ ๆ เข้ามาลองทำ ทำของร้านขาย ฯลฯ แต่ตอนนี้เหนื่อยกับงานประจำ เวลาจะคิดทำโปรโมชันหรืออะไรก็ขี้เกียจทำ

ตอนนี้จะทำหมวกกับเสื้อร้าน

บั๊ย

Sunday, September 21, 2014

Again

There will have some situations lead you to that point.

Tuesday, September 2, 2014

พลังบวก - Positive Power

Last weekend I went to Phuket.

My missions was breath Phuket air, learn to surf, drink 2 cups of coffee and see how my friend, Mu, live.

Yes I did all that.

It was fun learn how to surf. Mu and I took 1 hour class at Kamala beach. My teacher,Ja , he is great. I had a lot of fun. The first day went very well. Then I got pain all over my body.

The next day I took another 1 hour class. Mu didn't. The second day was more advance. Ja took me to the spot that had bigger waves. I can stand on the board. It went well because I am smart, haha.

I was very thankful that I could went to Phuket.

Yesterday was Monday,the first working day, I was greeted by cleaner. On the evening I went to the new coffee place to by some coffee beans. On the way I was greeted by condo security guard. He told me to look at a beautiful chandelier at a new condo. It was beautiful. The coffee place was awesome.

Today I got Thai massage. My body is very sore. I feel better.

I came back to my room. I'm dying my hair now. I'm blogging while waiting color to develop.

Lately I feel more positive. I love myself more and more.

I am thankful that I have money to spend on these wonderful experiences. Yay!

Tuesday, August 26, 2014

ขอบคุณที่ฝนเว้นช่วง - Thank you for stop raining

Thank you rain for stop raining for a while.

It was raining this evening. I didn't want to get wet.

I have waited but it was still raining.

I went in to Tesco. I had dinner, Kao Man Kai.

I came out. The rain has just stopped.

I took a moto to get back to my apartment.

Here I am.

For a while, it start raining again.

Thank you that I didn't get wet too much.

And this is English grammar for today.

I am practicing.

Tuesday, August 19, 2014

เรื่องเล่าบีทีเอส 1 - BTS story 1

ตอนเช้า เจอคู่แม่ลูก

คุณแม่น่าจะทำงานแบงค์กรุงเทพ

เดินเข้ามากับลูกชาย ไปที่เสา คุณแม่หันหน้าเข้าเสา คุณลูกหันหน้าเข้าหาแม่(หันหลังให้เสา)

แล้วก็เหมือนกับจะยืนหลับ เอาหัวพิงแขนแม่ไว้

อ้ออ๊อย คุณลูก

-----------------------------------

ตอนเย็น เจอเด็กฝรั่ง ขณะจอดที่สถานีหนึ่ง

เด็กก็พูดไปเรื่อย

Somebody's gonna fall. They gonna die. We have to save them bla bla bla

ฝรั่งอีกคนที่นั่งอยู่ก็ยิ้มเป็นจังหวะกับที่เด็กพูด

เราก็ดูฝรั่งอีกที

Monday, August 18, 2014

Found out my ex just got married

I feel weird. It's not like I want her back or want to be with her.

Just weird. And hope she is happy with her life.

ถ้าไม่ได้คนที่ต้องการก็ไม่เอาดีกว่า - deal or no deal

ทุกวันนี้ อยู่ด้วยตัวเองได้อยู่แล้ว

คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต ต้องเป็นคนแบบที่ลิสต์ไว้

ถ้าไม่ได้แบบนั้น ก็ไม่เอาดีกว่า

ไม่ได้อยากจะ needed ขนาดนั้น ถ้าไม่ได้ ก็ไม่เอา

เราอยากจะให้ใจคนที่สมควรได้จริง ๆ คนนั้นก็คงเหมือนกัน

คนหกพันล้านคน ต้องมีคนที่ใช่ เราก็รอคนนั้น คนนั้นก็รอเราเหมือนกัน

ถ้ามันจะ match ยังไงมันก็ match

เป็นคู่กัน ต้องส่งเสริมชีวิตกัน

รอปาฏิหาริย์ ให้จักรวาลส่งคนที่ใช่มา

Wednesday, August 13, 2014

Sunday, August 10, 2014

กลับบ้านแพง - expensive cost of traveling

เนื่องในโอกาสหยุดยาว

เราซึ่งทำงานที่หยุดตามเวลาราชการ ก็จองตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน

พ่อถามว่าเท่าไหร่ เราบอกว่าสองพัน

เที่ยวละสองพัน

เหมือนจะโดนว่าว่ามันแพง ให้จองล่วงหน้า บลา ๆๆๆๆ

เห่อ....

เมื่อไหร่เราจะก้าวข้ามเรื่องเงินไปได้ซักที

วันที่เราพูดกันว่า เรามาเพราะเราจะมาเวลานี้ ไม่ใช่เราเลือกการเดินทางเวลานี้เพราะว่ามันถูกที่สุด

วันที่เราพูดกันว่าเราจะเดินทางโดยเครื่องบิน เราจะเดินทางโดยรถทัวร์ หรืออื่น ๆ ก็เพราะเราอยากเดินทางโดยวิธีนั้น ไม่ใช่เพราะว่ามันถูกที่สุด

มันต้องมีวันนั้น วันที่เราจะตัดสินใจเลือกอะไรซักอย่างจากความพึงพอใจ ไม่ใช่จากราคา

Tuesday, August 5, 2014

ความเฉย ๆ - no feeling

ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพ

เมื่อวานพึ่งจ่ายค่าเช่าไป 5900 ค่าไฟ 1080 ค่าน้ำ 200 นี่มันแพงที่สุดที่จ่ายค่าเช่ามานะ

มาทำงานกรุงเทพ มาเป็นนักวิชาการ

ออกห้อง นั่งมอไซค์รับจ้าง ไปบีทีเอส เดิน นั่งทำงาน 8.30-16.30 เดิน บีทีเอส มอไซค์รับจ้าง ห้อง

ชีวิตคืออะไรเนี่ย

งานก็ไม่สนุกเท่าไหร่ หรือว่าเราเรื่องมากอีก

มาทำงานได้หนึ่งเดือนละ

มันก็อยู่ได้นะ ทำงานก็ทำได้นะ

คือชีวิตมันเรื่อย ๆ หมดเลย

เสาร์อาทิตย์กลับเชียงใหม่ไปซื้อของแม็คโคร เข้าร้านกาแฟ

บริหารร้านกาแฟทางไกล

รู้สึก disconnect รู้สึกไม่ belong to somewhere

รู้สึกตัวเองไม่สำคัญ

รู้สึกกลัวการแสดงความรู้สึก

เออแต่บางทีก็รู้สึกดี เช่น เดินออกบีทีเอสแล้วเห็นคนยืนอยู่เพื่อรอประตูปิด เหมือนเราออกมาจากความเบียดเสียดนั่นแหละ และเราก็บ๊ายบายให้พวกเขาเดินทางกันต่อไป

บางทีก็เหงา ขาดการสัมผัส อยากจะกอดใครแน่น ๆ แบบพันเกลียวเลยอะ

tonight i gonna hold you so close

คำถามคือ เรากำลังทำอะไรอยู่ เรากำลังจะไปไหน

Thursday, July 31, 2014

ขายรูปได้แพง ๆ - image high price sold

มาขายภาพกันเถอะ

วันนี้เป็นวันสิ้นเดือน เหมือนเงินจะช็อตเบา ๆ

ไปทำงาน เกิดความรู้สึกว่า อยากจะทำภาพสต็อกขาย

วันนี้เลยนั่งวาดรูปอยู่ที่ทำงาน อู้งานว่าอย่างนั้น วาดภาพเวคเตอร์ ซับมิตไป 1 ภาพ

ก็ส่งที่เว็บชัตเตอร์สต็อกนี่แหละ ขายได้ขายดีสุดละ

และก็มานั่งดูพอร์ตโฟลิโอของตัวเอง มันก็ค่อย ๆ โตขึ้น ๆ ตามเวลาว่างของเรา

ช่วงไหนฮึด ๆ ก็ส่งบ่อยหน่อย

ช่วงนี้เริ่มแผ่ว สองสามเดือนมานี้

แต่รายได้ก็ยังเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นต่ำที่จะเบิกได้ซักที ต้องรอไปทบกับเดือนหน้า

เราก้าวมาจากเดือนละหลักหน่วย จนไปเดือนละ 10 15 30 50 70 80 ประมาณนี้ เดือนละ 10 นี่เป็นช่วงนานมาก

ช่วงแรกเป็นภาพถ่าย แต่กว่าจะสอบผ่านก็สอบถึง 7 ครั้ง ใช้เวลาเป็นปี

ตอนหลังคอมช้า เลยเปลี่ยนมาทำอิลลัส ทำภาพเวคเตอร์ ก็หัดมาเรื่อย ๆ

จะเข้าเรื่องละนะ

วันนี้ขายภาพได้ราคาแพงที่สุด เป็น Single and Other Download

ขอโชว์

ภาพแพง ๆ ภาพแรกที่ขายได้

เป็นภาพปกหนังสือ ธรรมดา ๆ นี่แหละ ไม่มีอะไรเลย ขายได้

เรานี่ช็อกเลยเปิดมานึกว่าจะอยู่ช่องแบบ 25-a-day ไม่งั้นก็ on demand download

เนี่ยแหละ passive income อีกแหล่ง ที่ทุกคนสามารถทำได้

เพราะฉะนั้น มาขายภาพกันเถอะ ไปสมัครนะ Shutterstock.com

ทำให้คิดได้ว่า ควรจะจัดเวลาทำสต็อกด้วย

คนเราสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องทำงานประจำอย่างเดียว

สี่โมงครึ่งเราออกเลย เพราะถือคติว่าเราขายเวลาให้เค้าแค่นั้น ก็เค้าจ่ายเงินเดือนซื้อเวลาเรา 8.30-16.30 นี่นา

นั่งนานไปก็จะเป็นออฟฟิตซินโดรมป่าว ๆ

จัดเวลาให้ตัวเองได้ทำอย่างอื่นด้วย ทำภาพสต็อก ออกกำลังกาย สำรวจเมือง อะไรก็ทำไป

วันนี้ดีใจ เย้ ๆๆ

วันปลายเดือน - last day of the month

ก็ยังมีปัญหาการเงิน ให้ตายสิ ทำไมเนี่ย

เงินเดือนงานประจำเดือนแรก ยังไม่เข้า 25000

แม่ให้ 11000 เข้าแล้ว แม่สุดยอด

จ่ายค่าหอ 5900+น้ำไฟ

บัตรเครดิตที่ใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน 12,xxx

ต้องซื้อตั๋วรถกลับบ้าน 1552 ไปกลับ

ต้องซื้อของเข้าร้าน 2150

ดูมันช็อต ๆ ไงไม่รู้นะ

ต้นเดือนก็คิดว่าปลายเดือนจะดีขึ้น

ปลายเดือนนี้ก็คิดว่าปลายเดือนหน้าจะดีขึ้น

แต่ยังไม่มีเดือนไหนที่รู้สึกแบบว่า สงบ

แต่มันต้องมีวันหนึ่งแน่ ๆ ที่จะยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วก็คลิกซื้อตั๋วเครื่องบินแบบสวย ๆ

ต้องมีวันที่เลือกของไม่ได้ดูราคาเป็นหลัก แต่ดูความพอใจเป็นหลัก

นี่ก็นั่งเขียนบล็อก

เดี๋ยวต้องนั่งมอไซค์รับจ้าง ไปต่อบีทีเอส แล้วก็นั่งทำงานแปดครึ่งถึงสี่ครึ่ง บายม์

Sunday, July 20, 2014

กลับเชียงใหม่อีก - back to chiang mai again

สัปดาห์ที่แล้วก็กลับ สัปดาห์นี้ก็กลับ

รู้สึกดีนะ ชอบอะ ชอบเดินทาง ชอบตื่นมาแล้วรู้สึกถึงความเป็นบ้าน เป็นที่ที่เราคุ้นเคย

เมื่อวาน เลิกงานสี่ครึ่ง นั่งรถไฟฟ้าไปดูงานเปิดตัวหนังสือคุณบอย ไปดูคนที่เค้าอ่านหนังสือเหมือน ๆ กับเรา คนเหล่านั้นเค้าจะเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้อะนะ เราก็ไปของเราเองนั่นแหละ เหมือนไปรับพลังจากคนที่ เราก็รู้ว่าเค้าต้องกำลังพัฒนาตัวเองอยู่แน่ ๆ เลย แต่ก็ต้องออกมาก่อน เพราะต้องกลับเชียงใหม่

เรานี่ก็บ้านนนอกมาก ดีนะที่ยังกล้าถามอะไรงี้ มาอยู่กรุงเทพได้สองอาทิตย์ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มากมาย บางทีก็สนุกดี บางทีก็เห็นสภาพแล้วก็อยู่กันเข้าไปได้ยังไง แต่มันก็เป็นวิถีชีวิตเค้าอะนะ เราก็เหมือนมาสังเกตุการณ์

อยากจะเล่าละเอียด ๆ แต่คงจะต้องมาสรุปแต่ละวันหน้าคอมเป็นชั่วโมงแน่ ๆ เลย

เอาเรื่องวันนี้ วันนี้ก็มาถึงเชียงใหม่ก็อาบน้ำก่อนเลย ได้นอนอีกนิด เออ เบาะรถนครชัยแอร์มันเป็นเบาะหนัง มันลื่นอะ นอนไม่ค่อยสนุก หนาวด้วย แต่ว่าถึงเร็วดี ไม่รู้ขับกันยังไง 555

ไปร้านกาแฟแล้วก็อยู่ร้านกาแฟทั้งวันเลย มีเพื่อนมาเที่ยวหา ก็คุยกัน

พอปิดร้านเราก็ไปหาเพื่อนอีกคนที่ร้านกาแฟอีกร้าน เอาโกโก้เบนสดอร์ปไปฝาก ของฝากจากกรุงเทพ เชียงใหม่ไม่มีนะเนี่ย(หรือหาไม่เจอไม่รู้) ส่วนเราลองแล้ว รู้สึกว่าโกโก้แวนอร่อยกว่า แต่เดี๋ยวลองอีกที

เพื่อนคนนี้ทำเค้ก ได้คุยและได้แลกเปลี่ยนมุมมองอะไรมากมาย สนุกดี

แล้วก็ทุ่มกว่าละ แต่เราก็มีความตั้งใจว่าจะไปวิ่งนะวันนี้ เลยไปที่สนามกีฬา ไปวิ่งอีกหนึ่งรอบ รู้สึกจุกเลยอะ ไม่ได้วิ่งมานาน เกือบสองเดือน ตั้งแต่เปิดร้านกาฟของตัวเองและได้ไปทำงานกรุงเทพ

อยู่กรุงเทพไม่มีกระใจออกกำลังกายเลย จะวิ่งข้างถนนก็แบบว่า จะสูดควันพิษเยอะขึ้นมั้ยเนี่ย แต่แอบเห็นร้านฟิตเนสละ จะสมัครดีมั้ย เดือนละสองพัน เห่อ ๆ คิดก่อนนะ

กลับมากินข้าว มีความสุขดี

อยากมีชีวิตที่ราคาในการเดินทางไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป อยากเดินทางเวลาไหนก็ทำได้

มีหลายเรื่องอยากเขียนมาก อยากบอกทุกเรื่องเลย แต่เขียนไปมันจะเยอะไปซะเปล่า ๆ

อยากไปเรียนคอสการเขียนหนังสือด้วย ห้าพัน จะเป็นไปได้มั้ยนะ

Thursday, July 10, 2014

ออกข้อสอบ - create the test

งานประจำตอนนี้ ออกข้อสอบ

แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ออกได้แบบกากมาก

รู้ว่ามันไม่ดี แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ดี

แต่ต้องทำได้สิ

วันนี้โดนคอมเมนท์ว่ามันไม่ดี จุกนะ แต่ก็ยอมรับ

เฮ้อ

ต้องลองดูสักตั้งสองตั้งฮะ

Monday, July 7, 2014

ทำงานประจำวันที่สอง - second day working

นั่งวินมอไซค์

เจอตังค์ตกสองบาทด้วยวันนี้

ยืนบีทีเอส

เดิน

ถึงที่ทำงานเหงื่อซึมนิดหน่อย

นั่งทำงาน ประชุม กินข้าว ประชุม

ประมาณนี้

บางทีก็รู้สึกดี เฮ้ย ประชุมมีการเลี้ยงข้าวด้วย มันทำให้รู้สึกว่าได้รับการดูแล

เนี่ยแหละทำงานในองค์กร พอได้รับการดูแล มันทำให้เรารู้สึกปลอดภัย

และเราก็เอาอิสระของเราแลกความรู้สึกปลอดภัย

ฟังดูน่ากลัวจริง ๆ

Friday, July 4, 2014

มาทำงานกรุงเทพวันแรก - first day work in Bangkok

สวดยวดเลย วิถีชีวิตคนแถวนี้

ต้องแบ่งเวลาให้กับการเดินทางมาก ๆ และแบ่งเงินให้การเดินทางด้วย

วันนี้เหนื่อยและร้อนมาก

ถือว่ามาเข้าค่าย ฝึกตัวเอง

ได้เห็นเมืองอีกเมืองนึง

Friday, June 27, 2014

มีข้อเสนอมาให้ทำงาน - work deal

ที่สมัครงานไว้ เค้ามายื่นข้อเสนอให้ทำงาน ด่วนเลย

เริ่มเดือนหน้า

อีก 3 วันนี่

โอ้....

ทำยังไงดีนะ

ถ้าง่าย ๆ ก็ปฏิเสธไปเนอะ

ถ้าท้าทายก็รับปาก แล้วไปหาอะไรเอาข้างหน้า

Sunday, June 22, 2014

ร้านกาแฟ - coffee shop

เปิดร้านมาได้ 20 วัน

มีพนักงานอยู่ร้านให้ ไม่ต้องไปเปิดร้านเอง แต่ก็ยังเข้าร้านทุกวัน และไปปิดร้านกับพนักงานทุกวัน

ชีวิตเริ่มมีเวลาไปทำอย่างอื่น ไปที่อื่นนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ยังเหมือนจะปล่อยไม่ได้ หรือเราไม่ยอมปล่อยเองก็ไม่รู้

ก็ค่อยเป็นค่อยไปละกัน

บางทีก็รู้สึกงง ๆ

บางทีก็เครียด

ตอนนี้กังวลว่าจะไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนเดือนแรกพนักงาน

ไม่มีแคชโฟลวเลย

ขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านไปได้อย่างดีเยี่ยม

Tuesday, June 17, 2014

Million little things

Friendship is not a big thing it's a million little things.

Business ก็เหมือนกันฮะ มันเป็นเรื่องของรายละเอียด รายละเอียดและรายละเอียด

ปล. คิดได้เมื่อเช้า

Saturday, June 14, 2014

นั่งกินข้าวโซนนักท่องเที่ยว - eating in tourist zone

กินข้าวแถวนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นต่างชาติเลย

เหมือนได้ไปเที่ยวเบา ๆ

รู้สึกดีจริง ๆ

Monday, June 9, 2014

เปิดร้านมาครบ 1 สัปดาห์ - one week coffee shop

หลายความรู้สึก เหนื่อย ๆ งง ๆ

บางทีการที่ต้องคิดอะไรเองก็เคว้งได้เหมือนกันนะ

ขอบคุณสำหรับเพื่อนคู่คิด

Saturday, June 7, 2014

การจัดการ - management

มีปัญหากับการจัดตารางงานพนักงาน

และมีปัญหากับบัญชี

อ้ากกกกก

ขอบคุณที่จะมีคนมาช่วย ให้ทุกอย่างราบรื่น ปรื๊ด ๆๆ

Monday, June 2, 2014

เปิดร้านกาแฟวันแรก - first day on my coffee shop

รายรับทั้งหมด 752 บาท

รายจ่ายอีกเพียบ...จ้า

ร้านยังไม่ลงตัว ร้อนมาก ไม่มีแอร์

หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีในวันต่อ ๆ ไป

หลายความรู้สึกปนกันอีกละ

วันนี้ไม่ได้ไปโยคะด้วย

บางทีก็กลัวว่าต้องมาอยู่ร้านตลอด ไม่มีเวลาไปไหน

แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องพยายามคิดว่า มันต้องมีคนที่เหมาะสมมาอยู่ร้านสิ ต้องมีสักคนหรือหลายคน ที่ช่วยเราทำงาน

ขอบคุณ ๆๆ ที่เจอคนเหล่านั้น

หนึ่งวันก่อนเปิดร้าน - One day before opening

เปิดร้านกาแฟ ตอนนี้ตีสามยี่สิบสองนาที

ตอนแปดโมงต้องไปที่ร้าน

วันนี้ไปโฮมโปร 3 รอบ ไปแมคโคร 2 รอบ

ขับรถไปมา

เริ่มทำความสะอาดร้านตอนสี่ทุ่ม กว่าจะได้จัดของก็ห้าทุ่ม เที่ยงคืน

งานช่างไม่เรียบร้อย

หาที่ส่งน้ำแข็งไม่ได้เลย

วันแรกคงต้องไปซื้อเอง

ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว หลาย ๆ ความรู้สึกปนกัน

ล้ามาก หัวใจเต้นแรง

เหนื่อย

อยากมีแฟนบ้าง

ตื่นเต้น ว่าร้านวันแรกจะเป็นยังไง

อารมณ์หงุดหงิดหน่อย ๆ ที่อะไร ๆ ก็ยังไม่ลงตัว

หรือมันต้องเป็นแบบนี้ล่ะวะ ถ้ารอพร้อม มันก็คงไม่มีวันเปิดร้าน

หรือทำธุรกิจมันต้องแบบนี้

หรืองาน 80% มันต้องมาอัดตอนเวลาเหลือ 20%

วันนี้ซื้อตู้เย็น พี่ มีตู้เย็นซัก 10 คิว ราคาประมาณหมื่นมั้ย พนง.ก็ชี้

เราก็เปิด ๆๆ มีสีดำมั้ย ไม่มี งั้นเอาตัวนี้เลย ซื้ออย่างเร็ว

ถ้ามีเงินเนี่ย ซื้อของก็สนุกดีนะ

หลับก่อนนะ

ขอบคุณทุกคนในโลกนี้ที่ทำให้ฉันมีวันนี้

Friday, May 30, 2014

ไม่ได้เขียนเลย - hardly blogging

คิดอยู่ในใจ ไม่ได้เรียบเรียงเขียนออกมา

ไม่มีเวลาหรืออย่างไร

จริง ๆ จะเขียนก็นะ มันออนไลน์ บางอย่างเขียนแล้วกระทบคนอื่น ก็ไม่อยากเขียน

บางทีก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่

อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว และอยากให้คนอื่นมาสนใจ ในเวลาเดียวกัน

อยากให้คนอื่นมาสนใจและอยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว

เป็นความขัดแย้งกันจริง ๆ

Wednesday, May 21, 2014

พ่อ - father

พ่อก็ยังปลุกตอนเช้าให้กินข้าวเหมือนเดิม

พ่อชอบสั่งสอน พ่อชอบชี้แนะ

และฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจะต้องรู้สึกต่อต้านด้วย

บางทีเหมือนจะเห็นพ่อกลั้นน้ำตา หรือยังไงก็ไม่รู้

มันรู้สึกขัดแย้ง อยากจะยอมรับแต่ก็รู้สึกต่อต้าน

พ่อดูแก่ลงไปมาก

เซ็งตัวเอง ที่ได้แต่ขอเงินจากพ่อ

แต่บางทีก็คิดว่า พ่อก็เลี้ยงเราให้แต่เงินนี่

Wednesday, May 14, 2014

ผลตรวจสุขภาพ - result

วันนี้ไปรับผลตรวจสุขภาพ

ที่ตรวจมาดีหมด

แต่เจอว่าเป็นกระดูกสันหลังคด

เซ็งเบา ๆ

บางทีก็เหนื่อยกับชีวิตนะ

อยากมีความสุข โดยที่ใคร ๆ ก็เห็นว่ามันเป็นความสุขเลยอะ ไม่ต้องหาความสุขจากสถานการณ์ต่าง ๆ น่ะ

แบบว่าขอความสุขเห็น ๆ เน้น ๆ เลยนะ

Wednesday, May 7, 2014

วันอยากทำงาน วันไม่อยากทำงาน - want and don't want to work

เมื่อวานอยากทำงาน มีอารมณ์ทำงาน

วันนี้อยากอยู่เฉย ๆ

ไปสมัครเป็นแท็กซี่ไว้

พอมีคนโทรมา ไม่อยากไป อะไรอย่างงี้

เมื่อวานยังมีไฟอยู่เลย

หรือว่าวันนี้ฝนตก ดับไฟหมด

คนเราก็ก็แปลกดี ที่อารมณ์มีอิทธิพลกับชีวิตเรามากขนาดนี้

วันอังคาร - tuesday

วันนี้สวดมนต์ตอนเช้า

ออกบ้านลืมขรี้ จะเอาไผตรวจสุขภาพ ขับรถมาได้ 10 กิโล ...แหม่ วกรถไปเอาอีก

ส่งตัวอย่างขรี้

ซื้อของ

ขับรถเลยซอย ต้องไปยูเทิร์นแบบยาก ๆ รถก็บัง

เที่ยวบ้านเพื่อน

จ่ายค่าไฟไดรฟ์ทรู

จะไปตีแบด

ฝนตกตอนเย็น

ไปนั่งร้านกาแฟ สั่งน้ำส้ม ไม่หร่อยเท่าไหร่

ได้โดนตำรวจล็อกล้อ เพราะจอดหน้าร้านกาแฟ (ฝนตกนึกว่าตำรวจจะไม่มา ดันมาซะนี่)

วันนี้ ได้หัวเราะแบบสุด ๆ

กินสลัด

ขับรถเอาท้องรถไปครืดมา ล้อหน้าที ล้อหลังอีกที สะเทือนไขสันหลัง

สังสรรค์กับเพื่อน

กินเบียร์

ได้รู้ว่าแฟนเก่าหมั้นแล้ว หรือจะเป็นวันที่ฝันถึงวันนั้นนะ

ได้รู้ว่าเจ้านายเก่าแบนเราแบนเราสุด ๆ

กลับบ้านมาปลอดภัย

จะหลับแล้ว ตอนนี้รู้สึก ไม่ยิ้มแล้วอะ ทำไมก็ไม่รู้

แต่วันนี้ก็เป็นวันที่ดีอีก 1 วัน

ขอบคุณจริง ๆ ที่ได้หัวเราะ


Friday, May 2, 2014

ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี - good or bad

เมื่อคืนฝันถึงแอช ก็ยังคิดถึงเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ

ช่วงนี้จะทำร้านกาแฟ ซื้อของหมดไปเกือบสองหมื่น ยังไม่รวมของใหญ่ ๆ

หุ้นกับเพื่อนที่ไม่สนิทอีก 2 คน ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี

ไม่รู้ว่าเพื่อนบีซี่ หรือทำอะไรอยู่ ไม่มีการแบ่งว่าใครทำอะไร มีการประชุมพร้อมกัน หนึ่งครั้ง แหมะ

เหมือนงานตอนนี้จะเป็นงานในจินตนาการ ต้องคิดว่าต้องซื้ออะไร

อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ต้องเตรียมอะไรบ้าง ก็ทำไป

ไม่รู้จะดีหรือไม่ดี

ไม่รู้ว่ามีความสุขหรือไม่มี

รู้สึกไม่ค่อยเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้อยู่บ่อย ๆ

Wednesday, April 16, 2014

White cup coffee

เหตุการณ์คือ พี่จะออกมาหาหลอดไฟ g5 รุ่นใหม่ล่าสุด จะเอามาสร้างบ้าน ช่วงนี้สวกรานต์ แถวบ้านร้านปิด และเราติดว่าบ้านนอกอย่างเราคงไม่มีขาย

วันนี้เลยขับรถเล่นแถวบ้าน จะไปดูหลอดไฟที่แม่ขะจาน และจะดูที่ตลาดโลตัส แต่ไม่ได้อะ ไม่มี ร้านปิด

ขับเล่นไปอีก ไปเจอร้านกาแฟไวท์คัพคอฟฟี่ ที่เวียงป่าเป้า เลยแวะ

ได้คุยว่าขายเมล็ดกาแฟด้วย เลยซื้อมาลอง 1 ถุง

เงินหมดกระเป๋าพอดี

หรือนี่จะเป็นสัญญาณ

รู้สึกดีจริง ๆ


Friday, April 11, 2014

เรื่องของวันนี้ - today's story

วันนี้ตื่นแปดโมงกว่า

ฝันไปเรื่อย ๆ นอนแถ

ลงมาหาอะไรกินตอนเช้า

ชงกาแฟเคลฟเวอร์ มันก็อร่อยไปอีกแบบนะ กาแฟดำ

นั่งหาข้อมูลเรื่องร้านกาแฟไป

เพื่อนโทรมาให้ไปที่ร้าน ไปทำสัญญาร้านกาแฟ ฝากด้วยนะ เพราะเค้าไม่อยู่

เราก็เลยออกบ้านสายฟ้าแลบตอนสิบเอ็ดโมงกว่า

ก็ไปทำสัญญาทำร้านกาแฟ จ่ายค่าประกันไป 7400 บาท เพื่อนอีกคนจ่าย ฮี่ ๆ

เสร็จ ก็ไปกินขนมจีนหล่มเก่า หย่อย

ตอนช่วงบ่ายนังหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านกาแฟอีก ทำไมเราอยากได้นักอยากได้หนา ไอ้เครื่องคิดเงินเนี่ย นั่งดูลิ้นชักเก็บเงิน ดูโปรแกรมหน้าร้าน

สรุปว่า จดมือไปก่อนก็ละกัน

แล้วก็ไปโยคะ

โยคะเสร็จ ยังมีแรงไปวิ่งอีก

แล้วก็ไปตลาด ซื้อไก่ทอด แล้วก็ข้าวสาร

พึ่งเคยซื้อข้าวสารจริง ๆ จัง ๆ มันไม่แพงเลยอะ ข้าวหอมมะลิใหม่โลละ 35 เองอะ ข้าวญี่ปุ่นโล 37 เคยซื้อแต่ข้าวในซุปเปอร์มาร์เก็ต ข้าวญี่ปุ่น 3 โล 200 ต้องลองเอาขัาวที่ซื้อมาใหม่นี่มาหุงดู

สิ่งที่มีความสุขของวันนี้คือ ได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอน

อาบน้ำเสร็จมานอนบนผ้าปูที่นอนใหม่ มีความสุขจริง ๆ

พรุ่งนี้อาจจะกลับบ้านก็ได้ คิดก่อนนะ

อยากไปไหนก็ไม่รู้ ถ้ามีเงินหน่อยนะ จะคลิกซื้อตั๋วเครื่องบินแบบฟิ้วฟึ่บปิ๊บ ๆ เลย

Wednesday, April 9, 2014

อยากไปบาหลี - I want to go to Bali

อยากไปเล่นเซิฟ

อยากไปอยู่เฉย ๆ

จบนะ

Everything happens for a reason

Everything happens for a reason ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุผลของมันเสมอ

Well เริ่มยังไงดีนะ

ทำงาน เบื่อ เบื่อความคิดลบ ๆ ของเจ้านาย

เบื่อคำพูดกระแทกแดกดัน

เค้าบอกว่า ถ้าเราเจอคนแบบไหน แสดงว่าส่วนหนึ่งของเราเป็นแบบนั้นด้วย คนที่เหมือนกันก็จะดึงดูดเข้าหากัน

นั่นสินะ ไม่อยากจะยอมรับว่าตัวเรามีบางส่วนที่เหมือนเค้า

พอบอกลาออกเค้าก็โอเค

ต่อมาเพื่อนเรามาชวนทำงาน ที่มันเหมือนงานที่เดิม ซึ่งลูกค้าเรากับเค้ามันก็จะทับกัน

ต่อมาเราได้บอกว่าเราจะไปทำอะไรให้เจ้านายเก่าเรารู้ เค้าก็ไม่พอใจอย่างมาก เพราะเค้ากลัวเราเอาความลับเค้าไปปล่อย(อะไรคือความลับบ้างก็ไม่รู้นะ) และน่าจะกลัวเราแย่งลูกค้าเค้า

เค้ายกสัญญาที่เซนต์กันแบบกาก ๆ ว่าจะเอามาฟ้องเรา

เราจบกันด้วยเค้าบอกให้เราไปให้พ้น ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก

ดราม่าได้ขนาดนั้น

เราก็ไม่รู้ว่าหุ้นส่วนในงานใหม่เราจะเวิร์คป่าว เรามองว่ามันเป็นโอกาสได้ทำสิ่งใหม่ ก็เลยทำ

แต่เราก็เหนื่อยล้าจากงานเก่า อยากพักผ่อน

อยากไปเที่ยว พ่อเราไม่เห็นด้วยอีก

เหนื่อยอะ

เหนื่อย ทำไงดี

เส้นทางไม่เคลียร์เลย เมื่อต้องมาเดินกับคนหลาย ๆ คน

เราก็จะปล่อยให้จังหวะมันเป็นไปนะ ทำในสิ่งที่เราทำได้

บางทีก็อยากจะควบคุม แต่การควบคุมก็ทำให้เราก็เหนื่อยอีก

ช่วงนี้พยายามวิ่งตอนเย็น

พยายามตื่นเช้า

เบื่อความเมื่อย

เบื่อความเหงา

เบื่อความเบื่อ

ทำยังไงกับชีวิตดีเนี่ย สับสนอยู่นั่นน่ะ

ขอบคุณที่เราจะผ่านช่วงนี้ไปได้ด้วยดี

ขอบคุณที่ไม่เหงา

Monday, April 7, 2014

ไปให้พ้น - go away

วันนี้ไปบอกเจ้าของร้านกาแฟเก่า

ว่าจะทำร้านกาแฟกับเพื่อน

คุยกัน

มีการตบโต๊ะ สุดท้ายเค้าบอกไปให้พ้น

ฮานิบะ

Friday, April 4, 2014

อคติ - bias

เมื่อวานไปที่ร้าน เราลาออกแล้ว

เราเข้าไปในโซนหลังเคาท์เตอร์ เราก็รู้ว่าเข้าไม่ได้ ไม่ควรเข้า แต่ก็คิดว่าน่าจะไม่ซีเรียสมาก

เข้าไปคุยกับเพื่อนพนักงาน

เจ้านายโทรมา จะสื่อความว่าห้ามเข้านี่แหละ แต่ใช้คำพูดประชดประชัน กระแทกแดกดัน บอกว่าเราเลือกลาออกเองนะ เค้าไม่ได้ไล่ใครออกนะ ก็คือว่าไม่เป็นพนักงานก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปพี้นที่โซนหลังไง แทนที่จะพูดบอกดี ๆ ถามเราว่า เราคุยอะไรกับเพื่อนร่วมงาน เราบอกว่าเรื่องส่วนตัว อี้ ท่าจะโกรธ

เราเลยได้โอกาสถามถืงว่าเรื่องสัญญาจ้างมีกี่ฉบับ ก็ตอบว่า มันจะมีกี่ฉบับก็ไม่ใช่เรื่องของเรา ตอบแบบนี้มันไม่ใช่ละ มันกวนละ ทำไมมันจะไม่ใช่เรื่องของเรา

เราคิดว่า คนที่มีอคติกับเรา แค่เราหายใจ ก็ผิดแล้วในสายตาเค้า


Thursday, April 3, 2014

อยู่บ้านทั้งวัน - stayed at home all day

ตื่นมา

หาอะไรกิน กินกาแฟเคลฟเวอร์

เปิดคอม

หาข้อมูล surf school ที่บาหลี

อ่านสะบั้นหั่นแหลก อ่านที่พัก อ่าน ๆๆๆ หาตั๋วราคาถูก

ไปแบบไม่มีเงิน มันจะยังไงนะ

หรือไม่ไป

ยากจุง

Wednesday, April 2, 2014

ชีวิตยากจัง - it's hard

จะเป็นอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน

นี่เราเป็นคนปกติดีรึป่าวเนี่ย

ท้อแท้

อยากได้ความเสถียรในชีวิต

จะทำอะไรต่อดี

คำตอบของการใช้ชีวิตในอุดมคติคืออะไร

ทำไมคนอื่นตัดสินเรา

เราควรตัดสินคนอื่นไหม

เราควรคาดหวังคนอื่นไหม

คนอื่นควรคาดหวังเราไหม

อ้ากกกกกก!! เสียงตะโกนที่ไม่มีใครได้ยิน

Monday, March 31, 2014

ทำงานที่นี่วันสุดท้าย - last day to work

ก็ทำตัวตามปกติ

วันนี้ก็ผ่านไปอีกวัน ทำงานเต็มที่เหมือนเดิม

ได้เงินเดือนปิดท้าย หมื่นสอง

ต่อไปชีวิตจะเป็นยังไงนะ

Wednesday, March 12, 2014

สายตาที่มองเพื่อนร่วมงาน - look at co-workers

มองไปในแววตาของเขาเหล่านั้น

เขาเหล่านั้นกำลังทำงานให้คนคนหนึ่ง

คนที่ขายเวลา ขายแรง ให้คนคนหนึ่ง

ทำไมคนเรายอมทำเพื่อคนคนนึงได้ขนาดนี้

มันก็เป็นเรื่องของชีวิตอะนะ

มีเดินทางร่วมกัน ต่อไปก็แยกทางกัน และก็ไม่แน่ว่าอาจได้มาร่วมทางกันอีก

จงรักในชะตาชีวิตตัวเอง

การโทรมา - calling

บ่ายวันหนึ่ง

เพื่อนโทรมาเล่าโปรเจ็คให้ฟัง แล้วชวนไปทำ

แต่ต้องรอให้ถึงจุดที่ชัวร์ ๆ ก่อน ว่าจะได้ทำมั้ย

นี่อาจจะเป็นสิ่งที่จักรวาลนำพามาให้ก็ได้นะ

เราก็แค่วางใจ แล้วก็ใช้ชีวิตไปตามนั้น

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป

Thursday, March 6, 2014

ป่วย - sick

ไม่สบายมาตั้งแต่วันที่ 3 แล้ว

ชีวิตก็มีลำบากบ้าง

แต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

พรื่ดดดดด...!

Tuesday, March 4, 2014

บอกไปแล้วว่าจะออก - said i'm quit

บอกไปแล้วว่าจะออกงานเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา

ในความคิดเรา ไม่ได้บอกไปเพราะอารมณ์อย่างเดียว หรือเหตุการณ์เดียว

หลาย ๆ อย่าง หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา

มันถึงจุดอิ่มตัวละ ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไป เราก็ไม่มีความสุข

ออกเร็วกว่านี้ก็คงเสียดายที่ไม่ได้เห็นร้านดำเนินต่อไป ออกช้ากว่านี้อาจจะเอาแต่ตัวมาทำงานไม่ได้เอาจิตวิญญาณมาด้วย

จากวันนี้จนถึงสิ้นเดือน เราก็จะทำงานอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำให้ได้

จะอาสาช่วยดีมั้ยน้อ... บางทีอาสาไปแล้วเค้าไม่ต้องการก็จะเป็นการทำงานแบบที่เค้าไม่ได้ขอให้ช่วยไป กลายเป็นผิดที่เราเสนอตัวอีก เอ้า ก็ว่ากันไป

ตอนแรกทำงานไม่หวังเงินเดือน

แต่พออยู่ ๆ ไปลองมาดูว่าเงินเดือนขนาดนี้เราอยู่ได้ไหม คำตอบคือไม่ได้

แล้วก็รู้สึกว่าทำงานเกินเงินเดือน(เราอาจจะคิดว่าตัวเองเก่ง หรือเป็นคนดีหรือทุ่มเทมากไป อาจจะพลาดที่ความคิดเราเองก็ได้นะ) เราอาจเอาใจให้มากไป แต่สิ่งที่ตอบแทนมามันไม่สมน้ำสมเนื้อ เราคงเฟล

ทัศนคติของเจ้านาย เขาบอกว่าเขาเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ แต่เขาเองก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองซักเท่าไหร่ อาจจะเปลี่ยนแบบช้า ๆ ก็ได้ ก็หวังว่าเขาจะเป็นคนในแบบที่เขาต้องการได้ในอนาคต

เรื่องของระบบ ระบบ ระบบ ไม่มี ไม่สำเร็จ ไม่สมบูรณ์ ทำให้เรารู้ว่า ระบบ มันสำคัญจริง ๆ

การเติบโตของร้าน มันโตเร็วเกินที่จะหาคนมาซัพพอร์ต การกระจายงาน การส่งมอบงาน ไม่ดีพอ

ทัศนคติที่ว่า ทุกคนไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง มันอาจจะถูกถ้าเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก แต่นี่เรามองว่าเรื่องที่ควรรู้ มันก็ต้องรู้ดิ หรือว่าเจ้านายโดนคำสาปของความรู้บังอยู่ ไม่ค่อยอธิบายแล้วเมคชัวร์ว่าลูกน้องเข้าใจจริง ๆ จะออกแนวขี้เกียจอธิบาย ทำไมต้องให้พูดหลายรอบ เอ้ว!

ร้านก็คงดำเนินต่อไปได้ด้วยตัวของมันแหละ ยังไงมันก็คงมีทางไปให้สุดของมัน

เราก็ต้องหาทางชีวิตเราใหม่อีก ที่ไม่ใช่เส้นทางทางกับร้านนี้

จะทำอะไรต่อดีนะนี่

Wednesday, February 19, 2014

คิดว่าจะลาออก - think about quitting the job

ทำยังไงถึงจะรู้ว่า

นี่เป็นสัญญาณให้เปลี่ยนแปลง หรือเป็นสัญญาณให้อดทน

เครียดจริง ๆ

Thursday, February 13, 2014

เป็นเจ้าของร้านเหรอ - Are you the owner?

วันนี้โดนเจ้าของร้านถามว่า เราเป็นเจ้าของร้านเหรอครับ

เพราะว่าเราถามว่า งานมันโอเคมั้ย มันจะเรียบร้อยมั้ย

เค้าคิดว่า เราถามเหมือนไปตรวจสอบการทำงานของเค้า

ซึ่งเราไม่ได้คิดอย่างงั้นเลย เราอยากให้แน่ใจว่างานมันเรียบร้อย

เราคิดว่าเราจะลาออกจากที่นี่ละ

อยู่กับคนนิสัยแบบนี้ มันบั่นทอนกำลังใจเรา

ตัวงานไม่น่าเบื่อหรอก แต่เพื่อนร่วมงาน มันน่าเบื่อ มันกดดันยังไงไม่รู้ เงินเดือนก็แค่ 7 พัน

เราทำงานสุดตัว รถก็รถเรา คอมก็คอมเรา กล้องก็กล้องเรา

คือว่า นี่อาจเป็นสัญญาณจากจักรวาลให้เราต้องเปลี่ยนแปลงอีกก็ได้

เราไม่รู้ว่าลาออกจากที่นี่แล้วจะเอายังไงต่อดี

เราอาจจะวาดรูปขายก็ได้

Friday, February 7, 2014

Skill bar

มาตัดผมที่สกิลบาร์

บรรยากาศชิว ๆ เปิดเพลงฮิปฮอป ๆ

คนตัดผมก็เต้นไปด้วยบางที

หน้าร้านตั้งวงสูบบุหรี่ กินเบียร์กัน

มันก็ดูเป็นกันเองดีนะ


วันนี้มากะว่าจะมาไถหัวเฉย ๆ

แต่เจอเทคนิคใหม่

เดี๋ยวจะลองทำดู


ไอดอลเลยคนนี้

แต่เดี๋ยวจะเอาลายม้าลาย

ฮี่ ๆๆๆ


Friday, January 31, 2014

ฝัน - dreamt

ฝันว่าได้กอด ได้สัมผัส

ชีวิตขาดการสัมผัสอย่างใกล้ชิด

ก็คงระบายออกทางความฝันไปก่อน

ไม่งั้นก็ไปนวดดีกว่า

Wednesday, January 29, 2014

เวลานี้ - this time

ทำงาน 10 โมง ถึงเย็น ๆ

ไม่ค่อยได้ไปโยคะ ไม่ค่อยได้วิ่ง แต่ก็จะไปวิ่งบ้าง ทุ่มถึงสองทุ่ม ไม่เกินนี้

ร้านกำลังจะเปิดใหม่

ทำงานเตรียมนั่นนี่นู่น

รถพวงมาลัยหักสุดดึงครืก ๆๆ

ดอกยางสึกไม่เท่ากัน ยางจะโล้นแล้ว

ทุนโทรหาให้ส่งรายงานความคืบหน้า ต้องชดใช้ทุนแล้ว

ไม่แน่ใจว่ามีความสุขกับงาน กับคน ที่เป็นปัจจุบันนี้หรือเปล่า

การเงินยังไม่คล่องตัว

อยากไปเที่ยว

อยากมีแฟน

อยากได้จักรยาน

อยากดูหนัง gravity

ทำไมต้องความคิดไม่ตรงกับพ่อ ทำไมต้องไม่อยากเจอพ่อ

ทำไมต้องคิดว่าชีวิตมันยาก

เบื่อที่ต้องมีความเครียดลึก ๆ อยู่ในใจ

ไม่รู้จะปรึกษาใครดี กลัวปรึกษาแล้วไม่ถูกใจ

ก็เลยเลือกเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก

ก็เลยเลือกที่จะคิดคนเดียว ก็เลยเป็นคนคิดมากในบางที

--------------------------------------
พาร์ทการขอบคุณ

ขอบคุณสำหรับความสุขทุกเวลา

ขอบคุณสำหรับการได้ไปเที่ยวบาหลี

ขอบคุณสำหรับการมีแฟน

ขอบคุณสำหรับจักรยาน

ฯลฯ


ทำยังไงดี ทำยังไงดี ทำยังไงดี

สวรรค์ ชี้ทางหน่อย

เส้นทางชีวิตเรามันต้องทำยังไงละเนี่ย

ต้องเดินยังไงต่อ

Sunday, January 26, 2014

2 ทุ่ม หัวถึงหมอน - head to pillow

ไม่รู้แปลถูกป่าว

แต่การได้พักผ่อน มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง

ความสุขง่าย ๆ

เย่

ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง - Ding Ding Ding

เอาล่ะสิ

พิมพ์อยู่ไปนะ เดี๋ยวเวลาจะพาเราไปเอง

Thursday, January 23, 2014

คิดถึง... - baba baba

คิดถึง นึกถึงทุกวัน บางเวลา

คิดถึงเฉย ๆ

ความรู้สึกมันเกิดขึ้น

เดี๋ยวมันก็คงค่อย ๆ จางไป

ก็ปล่อยมัน

คิดถึงช่วงเวลาต่าง ๆ

ไม่ได้คิดว่าอยากให้เหตุการณ์มันเป็นยังไง

แค่รับรู้ว่าคิดถึง

ไม่ได้เรียกร้องอะไร

ให้เวลามันพาเราไป

อยากเขียนเฉย ๆ

บางทีก็อยากรู้ว่า ถ้าเราคิดถึงใคร คนนั้นจะรู้สึกยังไงนะ

คลื่นความคิดเราจะไปกระทบหรือไม่กระทบ อะไรยังไงบ้าง

บาบา บาบา

บาบาเฉย ๆ ฟังเพลงมา

Thursday, January 16, 2014

มาการอง - macaron

Fail!

คือว่า เฟล

แต่ก็หนุกดี

เป็นขนมที่ส่วนประกอบไม่มีอะไรเลย ทำใช้เทคนิคล้วน ๆ

มันเลยทำไม่ได้เลย ครั้งแรก

อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าขายกันแพงก็ได้

อาาาาห์ แล้วต่อไปมันจะลงเอยเช่นไร

จะต้องทำอีกกี่สิบถาด




ไม่เวิร์คเล้ย





Tuesday, January 14, 2014

8000 บาทต่อเดือน - 8000 baht a month

เอาล่ะ

เดือนมกราคมนี้จะลองใช้เงินให้ได้ไม่เกิน 8000 พันบาท

ตอนนี้ผ่านมาได้เกือบครึ่งเดือน รู้สึกว่าอด ๆ อยาก ๆ มากเลย

อยากกินไวน์ก็ไม่ได้กิน

ลองดูนะ ตอนนี้ใช้มาหกพันกว่าบาทแล้ว

นี่ขนาดว่าเดือนนี้ได้ค่าอาหารกลางวันด้วยวันละ 40 บาท

มันเหลืออีกพันกว่าบาท เติมน้ำมันได้อีกหน่อยก็หมดแล้วมั้ง

แต่ก็ลองดู จะได้รู้ว่าชีวิตมันจะเป็นยังไง

ใช้ app ExpenseFree มาช่วยจดรายรับรายจ่าย ใน ipad มันเยี่ยมมากเลย


คือแบบว่าเอาไว้จดว่าใช้อะไรไปบ้าง พล็อตกราฟได้ด้วย

รอดูปลายเดือนละกัน

Monday, January 13, 2014

ผมเหมือนคนเรียกร้องความสนใจ - attention

โวะ อธิบายไม่ถูก

เหมือนอยากให้คนอื่นมาสนใจ

แต่ว่าก็จะทำตัวแบบว่า ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมีโลกส่วนตัวสูง

อยากทำตัวแรง ๆ แต่ก็กลัวไม่มีคนมาสนใจ

พอมีคนมาสนใจก็ไม่อยากให้คนมาสนใจ

ชอบคิดว่าตัวเองฉลาด

ชอบเขียนบล็อกเพื่อระบายความคิด บางความคิดก็แปลก ๆ

รู้สึกแปลกแยกจากสังคม

รู้สึกไม่มีความสุข

รู้สึกว่าไม่มีคนรับฟัง เพราะว่าความคิดฉันแปลกแยกเกินไป

รู้สึกว่าคนอื่นก็แค่พยายามจะใส่ความคิดตัวเองให้คนอื่น

ฉันเป็นอะไรไปหรือ

สมองทำงานผิดปกติป่าวแว้

อาจมีสมองบางส่วนฝ่อไปก็ได้

นอนไม่หลับ - can't sleep

นอนกลิ้งไปกลิ้งมา ไม่หลับ

ดึกแล้ว

คิด ๆๆๆๆ

คิดว่าไม่ได้ออกกำลังกายหลายวัน

ชีวิตไม่มีความสุข

จะวิ่ง จะโยคะ

น่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้น

จะไม่สนว่าใครจะมองยังไง

จะเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง

พรุ่งนี้ จะไป ตัดผม โยคะ วิ่ง ซื้อสีผม ย้อมผม เอางี้แหละ

กำลังเบื่องานหรืออย่างไร - bored of routine work or what

รู้เลยว่าเบื่อการไปนั่งประจำที่เป็นเวลา

รู้เลยว่ากลัวทำงานไม่ถูกใจคนอื่นเป็นอย่างไร

รู้ว่าการรับคำสั่งแย่ ๆ การมีเจ้านายสั่งงานแย่ ๆ ก็อาจจะได้งานแย่ ๆ

พูดไม่รู้เรื่อง ทั้งเค้าและเรา

อยากไปไหนดีนะ

พี่เบื่อ

พี่กลัว

Sunday, January 12, 2014

การแต่งงาน - marriage

ไม่สามารถคิดภาพตัวเองตอนแต่งงานได้

คนที่รักกันถึงขั้นแต่งงาน

มันจะเป็นความรักแบบไหนกันนะ

มันจะรู้สึกยังไงนะ

โอ้ กอชชชชช

แต่เราก็เชื่อว่า ความรักสำหรับเรากำลังเดินทางมา

ของที่เหมาะสม มันก็จะมาในเวลาที่เหมาะสม

ที่ไม่มี ไม่มา เพราะ ไม่เหมาะสม

จบข่าว




Friday, January 3, 2014

All i need is love and my ipad


I told siri to set the alarm for me

And i told siri i love her

She told me all i need is love and my ipad

Ja!

The secret life of walter mitty

อยากไปดูหนังเรื่อง The secret life of walter mitty

เล็งมาหลายวันแล้ว กลัวหนังจะออกไปซะก่อน

วันนี้เลยไปดู รอบสุดท้าย 22.20น. กว่าหนังจะฉายจริงก็บวกไปอีกครึ่งชั่วโมง

กลับมาบ้าน เล่นปาลูกดอก(ซื้อมาใหม่ อิอิ) อาบน้ำก่อน

ที่จริงจะซื้อตั๋วออนไลน์ละ มันกดไม่ไป ช่างมันไม่ซื้อละ เสียเวลา

ไฟห้องน้ำเสียอีกวันนี้ เน็ตก็เสีย ดีที่มี 3g เลยโหลดแอพไฟฉายมาส่องในห้องน้ำ

รีบอาบน้ำแล้วออกตัว

เพิ่งเคยไปดูหนังดึก ๆ คนเดียว

คือดูหนังคนเดียวบ่อยแล้ว แต่รอบดึก ๆ ยังไม่เคย

เป็นประสบการณ์ครั้งแรก จะได้จำไว้ว่ามันเดินเข้าออกโรงหนังในห้างตอนกลางคืนยังไง


หนังสนุกดี ดูแล้วหายเบื่อ ได้แรงบันดาลใจให้ออกทำอะใหม่ ๆ ดู

หนังภาพสวย ทำให้อยากไปเที่ยวที่สูง ๆ

อยากไปทำอะไรที่มันสุดเหวี่ยงดูบ้าง

Wednesday, January 1, 2014

ทำอาหาร - Foodie cooking

อาหารมื้อสุดท้ายของ 2013 คือสเต็ก ทำเอง กินเอง อิ่มมาก


อาหารมื้อแรกของ 2014 คือเฟรนช์โทสต์ ทำเองอีก อร่อย


ทำแล้วกินได้ ก็ดีใจแล้ว

กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็เททิ้ง

ปีนี้ไม่ได้เคาท์ดาวน์ นาทีเปลี่ยนปี กำลังฉี่อยู่

แล้วก็กลับมานอนอ่านหนังสือ แล้วก็ตากผ้า แล้วก็หลับ

ชีวิตก็ง่าย ๆ อย่างนี้แหละ เฟี้ยว ๆ แบบตัวคนเดียว


Stock Images

My latest images for sale at Shutterstock:

My most popular images for sale at Shutterstock: